สยองทั้งหน้าตาทั้งอาการ แม่โพสต์เฟซบุ๊กเตือนภัย!! “ขนมฮิต..ทำพิษ” หามลูก 2 คนพร้อมกันเข้าโรงพยาบาล พบลำไส้อักเสบ หลังกิน เยลลี่ลูกตา
อุทาหรณ์..แม่เตือน!! เยลลี่ลูกตา ขนมสยอง ของจริง!
เยลลี่ลูกตา อีกหนึ่งขนมที่กำลังฮิตในหมู่เด็กๆ ขนมเยลลี่ กลมๆ มีรูปร่างคล้ายลูกตาของมนุษย์ มีไส้ด้านใน หอมกลิ่นผลไม้ ซึ่งหลายคนอาจจะเคยเห็นขนมเยลลี่ลูกตานี้ขายกันเกลื่อนในท้องตลาด แต่อาจไม่รู้ว่า ความจริงแล้วไม่เพียงแต่รูปร่างหน้าตาที่แปลกประหลาด แต่ถ้าหากเด็กๆ กินขนมชนิดนี้มากเกินไปก็อาจทำให้เกิดอันตรายได้
- ลำไส้อักเสบ เพราะกินอาหารเสริมก่อนวัยอันควร
- แม่โพสต์เตือน! สาเหตุที่ทำให้ ทารกท้องเสีย เป็นโรคลําไส้อักเสบ
- ไข่จุ๊บ อันตราย! ลูกเสี่ยงกินเชื้อโรคเข้าร่างกาย เกิดอาหารเป็นพิษ
ซึ่งเรื่องนี้ได้ถูกพูกถึง และกำลังถูกแชร์ออกไปเป็นวงกว้างอยู่บนโลกออนไลน์ เมื่อคุณแม่ท่านหนึ่งได้ใช้เฟซบุ๊กส่วนตัว โพสต์เตือนภัยเป็นอุทาหรณ์ หลังลูกสาวและลูกชายมีอาการป่วย หลังจากกินขนม เยลลี่ลูกตา โดยคุณแม่ได้เล่าเหตุการณ์ พร้อมอาการของลูกทั้งสอง ระบุว่า…
ข้าวหอมกินไป3ลูกทั้งปวดท้องอ้วกตัวร้อน…พี่เคนจิกินไป 2 ลูกเวียนหัวอ้วกตัวร้อน…สรุปลำไส้อักเสบ…ขนมบ้าไร..เข็ดไปอีกนานไม่ให้กินอีกแล้วของพวกนี้
ทั้งนี้ทางคุณแม่ยังได้บอกรายละเอียดเพิ่มเติมให้กับทีมแม่ ABK อีกว่า..ผลตรวจเลือดของลูกทั้งสองคน คือ เป็นลำไส้อักเสบ ส่วนใบรับรองแพทย์ หมอเขียนว่าวินิจฉัยแล้ว ปวดท้องรุนแรง
พร้อมฝากไปถึงร้านค้าที่ขาย เยลลี่ลูกตา ว่า..ที่แม่โพสต์ไป เพราะรู้ว่าสาเหตุที่แท้จริงที่ลูกทั้ง 2 ป่วยแบบนี้พร้อมกัน มาจากการกินขนมชนิดนี้ ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่ได้ให้น้องกินอะไรแปลกเลย
อย่างไรก็ตาม ภายหลังโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไปเป็นสาธารณะ ต่างก็มีชาวเน็ตจำนวนมากเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันอย่างหลากหลาย อาทิ ไม่กล้าซื้อให้ลูกกินเลยค่ะ แค่รูปร่างก็น่ากลัวแล้ว … บางรายก็เชื่อว่า เป็นเพราะความอับชื้นของขนมที่อยู่ในพลาสติกนาน จนทำให้เสื่อมคุณภาพ
โดยคุณแม่ก็ได้ตอบคอมเม้นท์เพิ่มเติมว่า ทราบมาว่าขนมแบบนี้มีทั้งของจริงและของปลอม ถ้าของจริงต้องซื้อในเซเว่นฯ เท่านั้น แต่ก็ไม่สนแล้ว เพราะจะไม่ให้ลูกๆ กินอีก
- อย. เตือน ขนม BLACK POWDER ขนมอันตราย อย่าซื้อให้ลูกกิน
- อุทาหรณ์! ลูกแพ้แป้ง จนช็อกคาขนม (มีคลิป)
- ห่วงลูกต้องอ่าน! นี่คือวิธีอ่านฉลากโภชนาการ เพื่อสุขภาพที่ดีของลูก!
อย่างไรก็ตามนอกเหนือจากอาหารว่างอย่างนมหรือผลไม้สด ขนมก็เป็นอาหารว่างอีกหนึ่งชนิดที่พ่อแม่ควรใส่ใจการเลือกซื้อให้ลูกกิน โดยมีหลักการเลือกขนม ดังนี้
- เลือกอาหารว่างหรือขนมที่มีพลังงาน ปริมาณน้ำตาล เหลือ และน้ำมันไม่สูง โดยเด็กควรได้รับพลังงานจากอาหารว่างมื้อละ 100-150 กิโลแคลอรี่ ไม่เกิน 2 มื้อต่อวัน และควรมีไขมันไม่เกิน 3 กรัม น้ำตาล ไม่เกิน 6 กรัม และโซเดียมหรือเกลือ ไม่เกิน 100 กรัม
- เลือกขนมหรืออาหารว่างที่ปรุงใหม่จากอาหารตามธรรมชาติหรือขนมที่ทำจากผลไม้ เพราะจะมีวิตามินและใยอาหาร
- สำหรับขนมกรุบกรอบควรหลีกเลี่ยงหรือกินบางครั้งเพราะส่วนใหญ่มีการปรุงแต่งรสเข้มข้น ทั้งหวาน มัน เค็ม รวมถึงบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่มีโซเดียมในปริมาณมากเกินไป ทำให้ไตต้องทำงานหนักจะส่งผลเสียต่อร่างกายในระยะยาว
- ควรเลือกขนมให้ลูกที่มีสีธรรมชาติหรือใส่สีปริมาณน้อยที่สุด
- เด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบ ไม่ควรให้กินขนมประเภทลูกอม ลูกกวาด เพราะอาจเป็นอันตราย เด็กอาจจะกลืนทำให้ติดหลอดคอ
- ไม่ควรเลือกซื้อขนม หรือเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูงให้ลูก เช่น น้ำอัดลม ขนมหวานประเภท ท๊อฟฟี่ หรือลูกกวาด
- ไม่ควรซื้อขนมเก็บตุนไว้ในบ้าน เป็นจำนวนมากเพราะจะทำให้ลูกเคยชินรับประทานมากจนเกินไป
ที่สำคัญคุณพ่อคุณแม่ รวมถึงปู่ย่าตายาย หรือผู้เลี้ยงดูไม่ควรตามใจลูก และควรปลูกฝังให้ลูกรับประทานผลไม้แทนขนมหวานและรับประทานอาหารครบ 5 หมู่
- แม่โพสต์เตือน! ระวัง “ขนมปนเปื้อนสารพิษ” ลูกป่วยหนักเข้ารพ. อันตรายถึงชีวิต!
- สตรอเบอร์รี่ควิก ขนมเม็ดสีชมพู ยาเสพติดชนิดใหม่ พ่อแม่ต้องระวัง!
- 10 ขนมเด็ก สุขภาพดีก็มีในโลก
ทั้งนี้สำหรับเรื่อง ขนม เยลลี่ลูกตา อันตรายทำเด็กป่วยลำไส้อักเสบ ถือเป็นหนึ่งในเรื่องของ HQ หนึ่งใน 10 ของ Power BQ (Power Baby & Kids Quotients) อาวุธที่ช่วยให้ลูกฉลาดรอบด้าน เพราะเด็กยุคนี้มีแค่ IQ และ EQ นั้นไม่เพียงพออีกต่อไป แต่ยังมี Quotient ต่างๆ ถึง 10Q นั่นคือ “10 ความฉลาด” ที่คุณพ่อคุณแม่ควรส่งเสริมให้ลูกได้ครบไปพร้อมกันนั่นเอง ทั้งนี้ HQ หรือ Health Quotient คือ ความฉลาดในการดูแลรักษาสุขภาพ
ซึ่งคนที่มี HQ ดี จะรู้จักดูแลสุขภาพของตัวเองให้ดีเพื่อให้ร่างกายแข็งแรง เช่น กินอาหารที่ดี ครบ 5 หมู่ ขับถ่ายดี ได้ออกกำลังกายสม่ำเสมอ นอนพักผ่อนให้เพียงพอ ดูแลรักษาความสะอาดร่างกายของตัวเอง ฯลฯ สำหรับเด็กเล็กเราอาจจะยังไม่เห็นพัฒนาการด้านนี้ชัดเจน แต่คุณพ่อคุณแม่สามารถเริ่มปลูกฝังและใส่ใจเรื่องสุขภาพ การดูแลร่างกายในการทำกิจวัตรประจำวันได้ทุกวัน เพื่อให้ลูกซึมซับและดูแลใส่ใจสุขภาพตัวเอง ซึ่งก็จะเป็นการสร้าง HQ ที่ดีในตัวลูกได้ ยิ่งในปัจจุบันโรคภัยไข้เจ็บมีเยอะขึ้น โรคใหม่ๆ แปลกๆ เชื้อโรคที่พัฒนาขึ้นจาก สภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลง และมลภาวะต่างๆ เราจึงต้องสอนให้ลูกของเราฉลาดใส่ใจดูแลสุขภาพให้แข็งแรง และมีภูมิคุ้มกันต่อโรคภัยต่างๆ รอบตัว เพราะการไม่มีโรค คือลาภอันประเสริฐนั่นเองค่ะ
ขอบคุณข้อมูลจาก : www.thaihealth.or.th , mgronline.com
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
อ่านต่อบทความอื่น่าสนใจ คลิก ⇓
5 ผลเสียหากให้ลูกต่ำกว่า 2 ขวบกินอาหารที่เด็กเล็กไม่ควรกิน !!
7 เคล็ดลับ สอนลูกดูแลสุขภาพ มี HQ (Health Quotient) สร้างภูมิต้านทาน แข็งแรง ไม่ป่วยบ่อย
ชัวร์หรือมั่ว? ลูกเป็นมะเร็ง เด็กเป็นมะเร็ง เพราะพ่อแม่ให้กินแบบนี้