เลี้ยงลูกให้เป็นเด็กน่ารัก และเป็นที่รักของผู้อื่น - amarinbabyandkids
เลี้ยงลูกให้เป็นเด็กน่ารัก

เทคนิคเลี้ยงลูกให้น่ารักและเป็นที่รักของผู้อื่น

Alternative Textaccount_circle
event
เลี้ยงลูกให้เป็นเด็กน่ารัก
เลี้ยงลูกให้เป็นเด็กน่ารัก

เลี้ยงลูกด้วยอารมณ์ ลูกจะบ่มนิสัยพาล

  1. อย่าใช้อารมณ์กับลูก ไม่มีใครชอบถูกตวาดหรือขึ้นเสียง ไม่เว้นแม้แต่เจ้าตัวน้อย การที่คุณใส่อารมณ์กับลูก นอกจากเจ้าตัวน้อยจะไม่ได้เรียนรู้สิ่งที่ถูกต้องแล้ว ลูกก็ยังอาจจะเชื่อว่าการใส่อารมณ์และขึ้นเสียงใส่กันเป็นสิ่งที่ควรทำ หากเจ้าตัวดีแผดเสียงใส่คุณ แทนที่คุณจะแผดเสียงแข่งกับลูก คุณควรแสดงให้ลูกเห็นว่า การกระทำที่ถูกต้องคืออะไร คุกเข่าลง จับไหล่ของลูก และพูดขณะที่สบตากับเจ้าตัวน้อย เพื่อให้ลูกสงบลง หากไม่สำเร็จ คุณอาจปล่อยให้เจ้าตัวดีแผดเสียงไปตามลำพัง ให้ลูกได้เรียนรู้ว่าวิธีนี้ใช้ไม่ได้ผลกับคุณ
  2. ฝึกให้ลูกเป็นผู้ฟัง ด้วยการฟังลูก การสอนเจ้าตัวน้อยหลายๆ เรื่องไม่อาจสำเร็จได้หากลูกไม่ได้เห็นตัวอย่างที่ดี เรื่องการฟังก็เช่นเดียวกัน หากคุณต้องการฝึกให้ลูกเป็นผู้ฟังที่ดี ก็ควรเริ่มจากการที่คุณพ่อคุณแม่สนใจฟังสิ่งที่เจ้าตัวน้อยกำลังสื่อสารด้วย การฟัง ต่างจากการได้ยิน เพราะการตั้งใจฟังจะทำให้คุณรับรู้อารมณ์และความรู้สึกของผู้พูดด้วย ส่วนการได้ยินนั้นเป็นเพียงแค่การที่คลื่นเสียงกระทบหูแล้วผ่านเลยไป นอกจากนี้การที่คุณฟังยังเป็นการแสดงถึงการให้เกียรติซึ่งกันและกันด้วย
  3. เอาใจเขาใส่ใจเรา เมื่อเจ้าตัวน้อยทำผิด ลองยกตัวอย่างให้ลูกเห็นว่า หากมีใครทำอย่างนั้นกับลูกบ้าง ลูกจะรู้สึกอย่างไร ชี้ให้ลูกได้ฝึกคิดว่าการกระทำของตนส่งผลต่อคนอื่นอย่างไรบ้าง จะทำให้เจ้าตัวน้อยมีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ และมีความเห็นอกเห็นใจต่อเพื่อนร่วมโลก ซึ่งผู้ที่มีลักษณะนิสัยเช่นนี้ย่อมเป็นบุคคลที่ใครๆ ก็รัก
  4. ชัดเจนในสิ่งที่เชื่อ การให้ลูกได้รู้ว่าคุณพ่อคุณแม่มีความเชื่อแบบไหน และอะไรที่สำคัญกับชีวิตของคุณ จะทำให้ลูกค่อยๆ เรียนรู้มาตรฐานการใช้ชีวิตของคุณ และหนูน้อยก็จะค่อยๆ พัฒนาความเชื่อและความเป็นตัวของตัวเองได้เมื่อเขาโตขึ้น ซึ่งคุณพ่อคุณแม่ก็ต้องพร้อมที่จะยอมรับความเชื่อและตัวตนของลูกในแนวทางที่ถูกต้องด้วย
  5. ทบทวนบทบาทพ่อแม่ หน้าที่พ่อแม่เป็นหน้าที่ระยะยาว และบ่อยครั้งก็อาจทำให้คุณลืมที่จะทบทวนบทบาทของตัวเอง ไม่ว่าจะเพราะความเหนื่อยล้าหรือความเคยชิน ดังนั้น คุณควรหมั่นตรวจสอบตัวเองว่าคุณเป็นตัวอย่างที่ดีให้ลูกอย่างสม่ำเสมอหรือไม่ แน่นอนว่าในโลกนี้ไม่มีใครเพอร์เฟค คุณอาจผิดพลาดในบางครั้ง อย่ากดดันตัวเองเกินไป ขณะเดียวกันก็ต้องรู้ว่าเป้าหมายของ การเลี้ยงลูก ของคุณคือการทำให้เจ้าตัวน้อยเติบโตเป็นคนดีของสังคม เมื่อพบว่าปัจจัยมากมายในชีวิตทำให้คุณเดินห่างจากเป้าหมายไปบ้าง หลังจากทบทวนดูแล้วก็อย่ารีรอที่จะกลับมาเดินบนหนทางที่ถูกต้องอีกครั้ง
  6. พาไปพบปะญาติพี่น้อง นอกจากพ่อแม่แล้ว ควรพาลูกไปพบปะสมาคมกับคนอื่นบ่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นเด็กในวัยเดียวกันหรือต่างวัย หรือแม้กระทั่งผู้ใหญ่ก็ตาม เนื่องจากเด็กจะค่อยๆ เรียนรู้ที่จะเลือกหัวข้อสนทนาที่น่าสนใจ หรือเข้าใจความรู้สึกของผู้อื่น และโต้ตอบมีปฏิสัมพันธ์ได้อย่างเหมาะสม
  7. พาเข้าร่วมกิจกรรมที่สร้างสรรค์ ถ้าลูกเก็บตัวจนไม่มีเพื่อนสนิทเลย คุณพ่อคุณแม่คงต้องยื่นมือเข้าช่วยเหลือ ด้วยการหมั่นพาลูกไปร่วมกิจกรรมกับเด็กอื่นบ้าง อาจจะเป็นลูกของเพื่อน หรือลูกของพี่ป้าน้าอา หรือเชิญชวนเพื่อนร่วมชั้นมางานวันเกิดของลูก กิจกรรมเหล่านี้ จะช่วยให้ลูกค่อยๆ ทำความรู้จักและทำความคุ้นเคยจนเป็นเพื่อนกับคนอื่นได้ แต่สำหรับเด็กที่ชอบเข้าสังคม บางคนอาจมีนิสัยชอบโอ้อวดอยู่ลึกๆ คุณพ่อคุณแม่อาจหากิจกรรมให้ลูกได้แสดงบทบาทร่วมกับคนอื่น ทำงานเป็นทีมกับเด็กอื่น หรือมีกิจกรรมที่ต้องมีการช่วยเหลือร่วมมือกัน แบ่งหรือผลัดบทบาทกันทำ ซึ่งจะฝึกทักษะทางสังคมของลูกไปในทางสร้างสรรค์มากขึ้น
  8. ให้กำลังใจ เด็กชอบเก็บตัวบางคนอาจมีที่มาจากการเป็นเด็กที่ไม่มีความมั่นใจในตัวเอง รู้สึกไม่มั่นคง ขี้อาย ขี้กลัว และขี้กังวล เวลาพบเพื่อนใหม่จะรู้สึกขลาดๆ กล้าๆ กลัวๆ ไม่มั่นใจว่า เพื่อนใหม่จะชอบตัวเองหรือไม่ การปลีกตัวไปอยู่คนเดียว จึงเป็นเรื่องที่ปลอดภัยที่สุดในความคิดของเขา ทางที่ดี คุณพ่อคุณแม่ควรหมั่นให้กำลังใจลูกรักอยู่เสมอๆ ไม่ว่าเรื่องเล็กน้อยเพียงใด แต่ในขณะเดียวกัน ไม่ควรผลักดันลูกให้ออกไปสู่สังคมมากเกินไป แต่ควรให้ลูกค่อยๆ ออกไปสร้างความสัมพันธ์กับคนอื่นด้วยตัวของเขาเองดีกว่า อีกอย่างการให้กำลังใจลูก จะช่วยให้เขาเติบโตเป็นเด็กที่คอยมอบกำลังใจดีๆ ให้แก่ผู้อื่นต่อไปด้วย
  9. ให้โอกาสเด็กได้ระบาย เด็กที่ขี้อายมากๆ บางครั้งอาจจะชอบเก็บตัวมากเสียจนไม่มีเพื่อนที่สนิทพอที่จะระบายทุกข์สุขอยู่ในโรงเรียนเลยสักคน การเปิดโอกาสให้เด็กได้ระบายความรู้สึกนึกคิดออกมา โดยคุณพ่อคุณแม่คอยถามไถ่ลูกถึงเหตุการณ์ต่างๆ ในแต่ละวัน จะช่วยฝึกฝนให้เด็กได้พูด ได้ระบายในสิ่งที่เขาอยากระบาย และเป็นการเพิ่มความมั่นใจให้แก่เด็กด้วยว่า สิ่งที่เขาคิดเขาพูดไม่ได้ไร้สาระ แต่ยังมีคนที่เข้าใจและยินดีรับฟังเขาเสมอ และเมื่อเขาโตขึ้น เวลาเพื่อนของเขามีปัญหา เขาก็จะเป็นผู้รับฟังที่ดีเหมือนกัน
  10. คนดีสำคัญกว่าทุกสิ่ง คุณพ่อคุณแม่ต้องการให้ลูกเป็นคนเก่ง แต่ในความเก่งนั้นต้องมีความดีเคียงคู่กันไปด้วย เพราะเก่งเพียงอย่างเดียว อาจไม่มากพอที่จะทำให้ลูกอยู่ในสังคมอย่างมีความสุขได้ คนที่มีทั้งความเก่งและความดี จะสามารถใช้ความเก่งของตนไปในทางที่เหมาะสม ไม่เบียดเบียนผู้อื่น อย่างไรก็ตาม หากเจ้าตัวน้อยของคุณ ไม่เก่งดั่งที่ใจคุณต้องการ ก็อย่าเพิ่งท้อใจ เพราะเหนือสิ่งอื่นใด ความดีเท่านั้น ที่จะทำให้เจ้าตัวน้อยอยู่รอดปลอดภัยในสังคมที่มีสิ่งเร้ารอบกายเช่นในปัจจุบัน

banner300x250

ดังนั้น พ่อแม่คือบุคคลสำคัญในการเลี้ยงลูกให้น่ารัก และเป็นที่รักของผู้อื่น หากพ่อแม่มีปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับลูกตั้งแต่แรกเริ่ม พร้อมคอยอบรมสั่งสอน ฝึกให้ลูกปฏิบัติดีเช่นนี้เสมอ ลูกก็จะเติบโตเป็นคนที่เป็นมิตรกับผู้คน และสามารถมีสัมพันธภาพที่ราบรื่นกับคนอื่นได้ดีตามไปด้วย


ขอบคุณที่มา : www.parents.com

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up