5. เปรียบเทียบระหว่างพี่น้อง
พ่อแม่ไม่ควรนำลูกมาเปรียบเทียบกัน เราควรเข้าใจว่าเด็กมีความแตกต่างกัน มีดีต่างกัน การพูดเปรียบเทียบระหว่างพี่น้องจะทำให้พวกเขาเกลียดกัน พ่อแม่ควรพยายามทำให้ลูกรู้ว่าพวกเขาพิเศษกันคนละแบบ
6. ใช้คำพูดขู่
อย่างเช่น “เดี๋ยวบอกให้พ่อรู้นะ” เมื่อลูกโตขึ้น ลูกจะรู้ว่าคุณก็แค่ขู่เท่านั้น ไม่ทำอะไรจริงๆหรอก และลูกก็จะไม่ฟังคุณอีกต่อไปแล้ว
7. การปรี๊ดใส่ลูก
จะทำให้ลูกขาดความมั่นใจในตัวเอง ต่อไปถ้าพวกเขาคิดจะทำอะไรก็ไม่กล้าอีกต่อไป เขาจะโตขึ้นโดยรู้สึกว่าทำอะไรก็ผิดไปหมดทุกอย่าง และก็ไม่มีวันทำอะไรถูกสักอย่าง ดังนั้น คุณควรพยายามพูดกับลูกดีๆ แทนที่จะพูดกระโชกโฮกฮากต่อว่าลูกตลอดเวลา
8. การลงไม้ลงมือ
การตี หรือการทำโทษหนักๆ อาจจะไม่ส่งผลดีเสมอไป เพราะมันอาจจะใช้ได้ผลแค่ในช่วงแรกๆ เท่านั้น แต่สุดท้ายแล้วมันก็จะใช้ไม่ได้ผลอีกต่อไป
9. คำชมที่พร่ำเพรื่อ
เด็กควรได้รับคำชมบ้าง แต่ไม่ใช่ตลอดเวลาหรือบ่อยเกินไป คำชมนั้นควรจะถูกสงวนไว้สำหรับโอกาสสำคัญๆ เท่านั้น ถ้าคุณชมลูกบ่อยเกินไปก็จะกลายเป็นคำพูดที่ดูไร้ความหมาย และลูกจะคิดว่าพวกเขาสมควรได้รับคำชมสำหรับทุกๆ อย่างที่ทำไม่ว่าเขาจะทำในสิ่งที่ผิดหรือถูกก็ตาม
เชื่อว่าการกระทำและคำต้องห้ามเหล่านี้อาจไม่มีครอบครัวไหนทำได้ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่ก็ยังพอมีวิธีแก้ไขที่สามารถช่วยได้ ควรเปลี่ยนเป็นการใช้คำพูดที่สื่อว่าเรารู้สึกอย่างไรมากกว่าการดุด่าแบบตรงๆ เช่น แม่รักลูกนะแต่ไม่ชอบที่ลูกทำแบบนี้ รวมถึงการให้เวลาส่วนใหญ่กับเขา เพื่อสร้างความสัมพันธ์ระหว่างคนในบ้าน และมองจุดดีมากกว่าจุดด้อย ให้เขารู้สึกว่าการอยู่บ้านนั้นไม่ได้ทำให้เขาถูกตำหนิทุกครั้ง ให้เด็กมีอิสระที่ได้คิด และมีความเชื่อมั่นในตัวเอง