แล้วเมื่อไรจะได้กลับไปเรียน?
เมื่อลูกป่วย เรามักจะตัดสินใจได้ง่ายว่าควรหยุดเรียนหรือไม่ แต่ตอนให้ลูกกลับไปเรียนนี่สิที่ยาก เพราะคุณแม่จะไม่ทราบได้เลยว่าหากให้ลูกกลับไปเรียนเร็วเกินไปก็อาจทำให้อาการป่วยหายได้ช้าลง และไม่อาจทราบได้เลยว่าอาการป่วยที่ลูกเป็นอยู่นั้นเลยระยะแพร่เชื้อหรือยัง และลูกก็อาจยังไม่แข็งแรงพอ หากไปรับเชื้ออื่นๆ มาเพิ่มอีก ก็อาจจะทำให้อาการแย่ลงกว่าเดิมก็ได้ เรามีแนวทางคร่าวๆ เพื่อช่วยแม่ๆ ในการประกอบการตัดสินใจค่ะ
ปลอดไข้
หากลูกไข้ลดจนไม่ต้องป้อนยาลดไข้แล้ว ควรจะดูอาการว่าภายใน 24 ชั่วโมงหลังจากหยุดป้อนยา ต้องไม่มีไข้กลับมาอีก หากปลอดไข้เกิน 24 ชั่วโมงแล้ว นั่นหมายถึงลูกจะไม่มีไข้จากเชื้อโรคตัวเดิมอีก จึงสามารถให้ลูกกลับไปเรียนได้ค่ะ (หากมีไข้หลังจากปลอดไข้ 24 ชั่วโมง นั่นหมายถึงเป็นไข้จากเชื้อโรคตัวใหม่ หรือ ร่างกายเจ็บป่วยจากสาเหตุอื่น ควรพาลูกไปพบแพทย์ทันที) แต่หากยังมีอาการอื่นๆ อยู่หลังจากหายไข้ เช่น ท้องเสีย อ้วก หรือ ไอหนัก ก็ยังควรให้หยุดต่อค่ะ
อาการป่วยดีขึ้นจนใกล้หายแล้ว
หากลูกมีน้ำมูกเพียงนิดหน่อย หรือ อาการป่วยดูดีขึ้นแล้ว ควรเตรียมผ้าปิดปากและกระดาษทิชชู่ให้ลูกพกติดตัวไปด้วย เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อค่ะ
สุดท้ายนี้ อยากให้คุณแม่ทุกท่านเชื่อในสัญชาตญาณความเป็นแม่ของตัวเอง และใช้สัญชาตญาณนี้ตัดสินใจค่ะ เพราะไม่มีใครรู้จักลูกเราดีได้เท่าตัวแม่เอง ดังนั้นคุณแม่จะรู้ได้เองว่าลูกจะไปเรียนไหวหรือไม่ อาการหนักขนาดไหนควรจะไปพบแพทย์ หรืออาการแบบนี้แสดงว่าหายป่วยแล้วหรือไม่ ทีมงาน Amarin Baby & Kids ขอเอาใจช่วยให้ เด็กป่วย ทุกคน ให้หายจากอาการป่วยแล้วกลับมาสดใสร่าเริงอีกครั้งไวๆ นะคะ
อ่านบทความที่น่าสนใจอื่นๆ ได้ที่นี่
รวม 8 วิธีสุดเริ่ด! สร้างภูมิต้านทานให้ลูก ที่คุณแม่ๆควรรู้ ถ้าไม่อยากให้ลูกป่วยบ่อย
“ลูกป่วยบ่อย” ต้องอ่าน! 10 วิธีเลี้ยงลูกให้ปลอดจากโรคภัย
7 ข้อ รู้ให้เท่าทัน กัน ลูกป่วย โรคRSV บ่อย!
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่