4 จัดเวลาทำการบ้านประจำวัน
ตารางเวลาที่เป็นกิจวัตรจะทำให้ลูกเลิกอิดออดหรือผัดผ่อนการทำการบ้านออกไปเรื่อยๆ หาเวลาที่เหมาะที่สุดในแต่ละวันเช่น ช่วงค่ำหลังอิ่มมื้อเย็นแล้วสักชั่วโมง เวลาแบบนี้คุณพ่อคุณแม่อาจเอางานที่หอบกลับบ้านมานั่งจัดการต่อใกล้ๆ หรือนั่งอ่านหนังสืออยู่ในห้องเดียวกันก็ไม่เลว
5 กำลังใจให้กันได้
ถึงจะไม่ได้ลงมือทำ แต่ถ้อยคำให้กำลังใจที่ติดอยู่ตรงโต๊ะหนังสือหรือรางวัลเล็กๆ น้อยๆ (ที่ไม่ใช่การติดสินบนให้ทำการบ้าน) เช่น ของว่างแก้เหนื่อยกับนมอุ่นๆ สักแก้ว น่าจะช่วยให้ลูกมีกำลังฝ่าฟันการบ้านที่ยากแสนยากต่อไปได้
เคล็ดลับ ช่วยลูกทำการบ้าน แบบไม่ทำลายชีวิตลูก
ทำการบ้านให้เป็นเรื่องง่ายและสนุก!
นอกจากนี้สำหรับเจ้าตัวน้อยที่ยังอยู่ในวัยชั้นอนุบาล และต้องขยับชั้นไปประถม ก็ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงของการเรียนอย่างมากช่วงหนึ่ง จากชั้นอนุบาลที่เน้นทักษะการช่วยเหลือตัวเอง และการเรียนรู้วิชาการยังไม่เข้มข้นมาก การบ้านลูกอนุบาลมีไม่มาก หรือบางโรงเรียนอาจมีมากแต่ก็ไม่ยาก พอขึ้นชั้นประถม การเรียนวิชาการชัดเจนขึ้น
สำหรับเด็กวัยนี้การบ้านเริ่มไม่ใช่เรื่องง่ายๆ อีกต่อไป … คุณพ่อคุณแม่จึงเป็นคนสำคัญที่จะช่วยให้ลูกรู้สึกดีกับการบ้าน และผ่อนคลายกับช่วงเวลาที่ไม่สนุกนัก โดยสามารถช่วยเรื่องการบ้านของลูกน้อยนี้ให้เป็นเรื่องง่ายและสนุกได้ ดังนี้
• ทำเช็กลิสต์ ⇒ จดวิชาที่มีการบ้านลงในกระดาษ พอทำเสร็จแต่ละอย่าง ก็ให้ลูกทำเครื่องหมายบอก จะใช้สีระบายเป็นสัญลักษณ์หรือวาดรูปก็ได้แล้วแต่เขา ให้รู้ว่าวิชาไหนเสร็จเรียบร้อยแล้ว เด็กน้อยจะรู้สึกว่าการบ้านเป็นสิ่งที่เขาควบคุมได้ ทำได้ เพราะมองเห็นเป้าหมาย
• ช่วยเรียงลำดับการบ้าน มีทั้งยากและง่าย ⇒ ทั้งที่เขาชอบและไม่ชอบ การให้ลูกเลือกทำอะไรก่อนหลังอาจไปได้ดีกับลูกที่มีสมาธิต่อเนื่อง ดังนั้นควรต้องรู้จักและสังเกตลูกของคุณด้วย หากลูกเป็นเด็กเบื่อง่าย ความอดทนน้อย การช่วยลำดับการทำการบ้านยากง่ายให้เหมาะกับความสนใจและสมาธิของลูกจะช่วยให้เวลาทำการบ้านไม่ใช่เวลาสุดทรมานของเขาและคุณ
• สถานที่ทำการบ้านก็ทำสำคัญ ⇒ ลูกที่เสียสมาธิได้ง่าย มุมทำการบ้านที่มีข้าวของมากมายดึงสายตา ใกล้ทีวีหรือสิ่งเร้ามากๆ ย่อมไม่ส่งเสริม เด็กขี้เบื่อ ขี้ร้อนอึดอัดหงุดหงิดง่าย ถ้าต้องทำการบ้านในที่เดิมนานๆ หรือมุมปิดเกินไป ก็ทำให้ความสนใจลดลงง่ายๆ อีก ควรจัดบริเวณทำการบ้านให้สอดคล้องกับลักษณะของลูก
• คอยสอบถามและให้กำลังใจ ⇒ วัยอนุบาลคุณต้องอ่านโจทย์หรือคำสั่งและคอยแนะนำใกล้ชิด แต่ถึงแม้ลูกจะ ขึ้นประถมแล้ว เริ่มอ่านได้ แต่ก็ยังไม่คล่องนัก การคอยอยู่ข้างๆ สอบถาม ชมบ้าง ให้กำลังใจหรือให้ความช่วยเหลือเท่าที่ลูกต้องการจะทำให้เขารู้สึกมีเพื่อน หรือจะให้ดีกว่านั้น คุณจะทำงานของคุณไปข้างๆ ลูกก็ยังได้ ให้เขามีเพื่อนพูดคุยระหว่างทำการบ้าน บรรยากาศก็ยิ่งผ่อนคลาย เขาต้องทำการบ้านที่อยากทำบ้างไม่อยากทำบ้าง พ่อแม่ก็ต้องทำงานที่อยากทำบ้าง ไม่อยากทำบ้างเหมือนกัน แต่ทุกคนมีหน้าที่ ต้องรับผิดชอบและถึงไม่ชอบนัก เขาก็มีคุณเป็นเพื่อนอยู่ข้างๆ
• คุยกับครูของลูก ⇒ ครูก็เป็นหนึ่งในทีมฝึกสอนและพัฒนาลูกไปพร้อมกับคุณ การพูดคุยกับคุณครูของลูกเป็นระยะๆ เท่าที่จะเป็นไปได้ จะช่วยให้ทั้งคุณและคุณครูได้รู้จักลูกมากขึ้น และเห็นจุดแข็งจุดอ่อนของลูกที่คุณจะนำไปส่งเสริมหรือพัฒนาต่อได้ถูกทาง
อ่านต่อบทความอื่นน่าสนใจ คลิก :
- สพฐ. สั่ง ครูทั่วประเทศลดการบ้าน เด็กนักเรียน ทันที!
- ลูกไม่อยากทำการบ้าน ทำอย่างไรดี?
- ถ้าลูกทำการบ้านไม่เสร็จ ให้ฝึกลูกรับผิดชอบชีวิตตัวเองใหม่!
- เข็นลูกทำการบ้านอย่างไรดี
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่