เลี้ยงลูกอย่างไรให้มี TQ (Thinking Quotient) ฉลาดคิดเป็น เก่งประสบความสำเร็จไม่ยาก - Amarin Baby & Kids
TQ (Thinking Quotient)

เลี้ยงลูกอย่างไรให้มี TQ (Thinking Quotient) ฉลาดคิดเป็น เก่งประสบความสำเร็จไม่ยาก

Alternative Textaccount_circle
event
TQ (Thinking Quotient)
TQ (Thinking Quotient)

 

สอนลูกอย่างไรให้ฉลาดคิดเป็นTQ (Thinking Quotient)ลูกประสบความสำเร็จเมื่อโตขึ้นได้ไม่ยาก!!

อ่านหนังสือ นิทาน ให้ลูกฟัง
อ่านหนังสือ นิทาน ให้ลูกฟัง

4.อ่านหนังสือกับลูก

“การอ่าน” เป็นเครื่องทำนายความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ การเริ่มอ่านหนังสือกับลูกนอกจากจะเพิ่มคลังคำศัพท์ให้ลูกเพิ่มเติม ให้ลูกรู้ว่าคำศัพท์นั้นหมายถึงอะไร สร้างฐานความรู้และทำหน้าที่เป็นรากฐานของการเรียนรู้ในอนาคตแล้ว การอ่านยังช่วยกระตุ้นสมองให้คิดและเรียนรู้ เมื่อพ่อแม่เล่านิทาน อ่านหนังสือแสนสนุก และชวนคิด ชวนถามให้ลูกตอบ กระตุ้นการใช้ความคิด ยิ่งลูกคิดบ่อย ๆ มากเท่าไรสมองของลูกก็จะยิ่งพัฒนามากขึ้นเท่านั้น และช่วยเปิดโลกจินตนาการจากการคิดตามเนื้อเรื่องที่ได้ฟัง ต่อยอดไปสู่การคิดหาข้อเท็จจริงอย่างเป็นเหตุเป็นผล และเนื้อหาที่ช่วยสนับสนุนความคิดจากการการเรียนรู้ในหนังสือ ถือว่ามีบทบาทสำคัญมากเมื่อเด็กต้องเผชิญกับปัญหาที่ต้องแก้ไข ซึ่งอาจจะนำสิ่งที่ได้มาอ่านมาแปรเปลี่ยนเป็นความคิดที่ช่วยวิเคราะห์ในการแก้ปัญหาได้ ทำให้สามารถจัดการกับปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตจริงได้

นพ.อุดม เพชรสังหาร ผอ.ศูนย์พัฒนาอัจฉริยภาพเด็กและเยาวชน ได้กล่าวถึงความสำคัญของการปลูกฝังเรื่องการอ่านแก่เด็กว่า” การอ่านหนังสือก่อให้เกิดพัฒนาการในการเรียนรู้ รวมทั้งส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน ส่งเสริมความคิด และจินตนาการควบคู่กันไป” ดังนั้นเมื่อพ่อแม่อ่านหนังสือให้ลูกฟัง นอกจากจะทำให้เกิดความผูกพันระหว่างกัน ให้ลูกมีความรู้สึกว่าพ่อแม่รัก รู้สึกอบอุ่น ยังก่อให้เกิดกลไกที่ทำให้เด็กมีพัฒนาการอย่างเต็มที่ด้วย

Must Read!! การอ่านหนังสือให้ลูกฟัง สำคัญไฉน??

Must Read!! รวมนิทานสำหรับเด็กทั่วโลก สอนลูกได้ไร้พรมแดน

ส่งเสริมการออกกำลังกาย
ส่งเสริมการออกกำลังกาย

5.ส่งเสริมการออกกำลังกาย

การออกกำลังกายไม่เพียงทำให้เด็กแข็งแรงและมีสุขภาพที่ดีขึ้นเท่านั้น แต่ยังมีประโยชน์ในหลาย ๆ ด้าน มีผลศึกษาจากต่างประเทศระบุว่า การออกกำลังกายนอกจากจะทำให้มีสุขภาพดีและสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรงแล้ว ยังมีส่วนช่วยให้มีความคิดสร้างสรรค์มากขึ้น สามารถแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้ดีขึ้นกว่าปกติ เพราะการออกกำลังกายจะช่วยพัฒนาสมองซีกขวาที่เป็นจุดสำคัญในด้านของความคิดและจินตนาการนั่นเอง

การส่งเสริมให้ลูกได้ออกกำลังกายเป็นประจำ จะส่งผลดีต่อฮอร์โมนที่จำเป็นต่อการทำงานสำหรับสมองหลาย ๆ อย่าง เช่น ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของเซลล์ประสาทและเซลล์สมองได้ อีกทั้งยังช่วยพัฒนาระบบไหลเวียนของออกซิเจนที่ช่วยในการหล่อเลี้ยงสมอง และพัฒนาเลือดให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้การออกกำลังกายยังช่วยส่งเสริมให้อารมณ์ดี มีการนอนหลับอย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อร่างกาย จิตใจ สมอง มีความสัมพันธ์กันก็ช่วยเสริมประสิทธิภาพในการทำงานดีขึ้น ส่งผลให้การเรียนรู้และความจำดีขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยผ่อนคลายความเครียด ช่วยให้ลูกมีสมาธิและมีความกระตือรือร้นในการเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ด้วย

Must Read!! ออกกำลังกายช่วยลดอาการเหวี่ยงของลูกน้อยได้

 

ความฉลาดทางความคิด
ความฉลาดทางความคิด

6.ส่งเสริมความอยากรู้ และการสำรวจ

ลูกในวัยเด็กมีความอยากรู้อยากเห็นตามธรรมชาติ การพาลูกออกไปเที่ยวเล่นทำกิจกรรมนอกบ้าน หรือทำกิจกรรมต่าง ๆ  การพบเจอกับสิ่งใหม่ เรียนรู้โลกนอกห้องเรียน เรียนรู้จากธรรมชาติ หรือแหล่งประวัติศาตร์จากของจริง ได้ลองสัมผัสสิ่งใหม่ ๆ ถือว่ามีส่วนช่วยกระตุ้นให้ลูกได้ใช้สมองมากขึ้น ทั้งยังช่วยเสริมพัฒนาการของลูก และขยายกรอบความคิดความรู้ของลูกให้มีมากขึ้นด้วย

Must Read!! “เล่นนอกบ้าน” สร้างลูกน้อยสมองดี -อารมณ์ดี ในวัยขวบปีแรก

 

สอนลูกให้คิดบวก
สอนลูกให้คิดบวก

7.สอนลูกให้คิดบวก

เด็กคิดบวกและมองโลกในแง่ดี จะเชื่อว่าสิ่งดีๆ จะเกิดขึ้นเสมอ และเมื่อมีอุปสรรค พวกเขาจะสามารถก้าวข้ามผ่านมันไปได้ มีผู้เชี่ยวชาญได้บอกว่าการคิดในแง่บวกสามารถทำให้คนเราฉลาดขึ้นได้ และสามารถปลูกฝังให้ลูกคิดบวกกันได้ตั้งแต่ยังเล็ก  การคิดบวกเขาเริ่มปลูกฝังกันตั้งแต่ยังเล็ก เด็กที่มีลักษณะแบบนี้จะเป็นเด็กที่มีความมั่นใจในการเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ กล้าเผชิญอุปสรรคในชีวิตประจำวันที่ถึงแม้จะทำให้กังวลและเครียดได้อย่างไม่กลัว เช่น การเรียนรู้คำใหม่ๆ การแก้ปัญหาตัวต่อปริศนา ฯลฯ การปลูกฝังเรื่องการมองตัวเองในแง่บวกและทัศนคติที่ดีต่อตัวเองนั้น มีประโยชน์ทางจิตวิทยาอย่างมากต่อพัฒนาการและความคิดของลูกในอนาคต เป็นการสร้างแรงกระตุ้นให้ลูกอยากเรียนรู้ คิดเลือกทำในสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อตนเองและผู้อื่น ทั้งนี้เด็กจะคิดเชิงบวกได้ ก็ต่อเมื่ออยู่ในสิ่งแวดล้อมที่มั่นคง ปลอดภัย ซึ่งพ่อแม่ก็คือตัวอย่างที่ดี ฝึกให้ลูกรู้ว่าทุกอย่างมีทั้งด้านบวกและด้านลบ มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ซึ่งก็จะปูทางไปสู่การสร้าง TQ ในตัวเองและดำรงชีวิตอยู่ร่วมในสังคมได้อย่างมีความสุขกัน

Must Read!! วิธีการเลี้ยงลูกเชิงบวก ไม่ดุ ไม่ตี ปูพื้นฐานชีวิตลูกให้ดี 3 ปีแรก

ในยุคที่พ่อแม่ทุกคนอยากให้ลูกเก่ง ฉลาด และพยายามที่จะส่งเสริมสิ่งดี ๆ ให้ลูกเสมอ แต่เด็กยุคใหม่สำหรับความฉลาดแล้ว จำเป็นต้องได้รับการส่งเสริมและสนับสนุน Q อื่น ๆ ไปพร้อม ๆ กัน รวมถึง TQ ตัวนี้ที่จะช่วยให้ลูกเป็นเด็กที่ฉลาดทางการคิด เก่ง ดี และมีความสุข เพื่อที่จะเป็นรากฐานติดตัวลูกไปในอนาคต ทำให้เขาประสบความสำเร็จได้ไม่ยาก และส่งผลดีให้กับคนอื่น ๆ รอบตัวอีกด้วย

ข้อมูลอ้างอิงจาก : www.popsugar.com

อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก

แนะนำ 50 วรรณกรรมเพื่อลูกฉลาด ต้องอ่านก่อนโต

8 กิจกรรมเพิ่ม EQ (Emotional Quotient) ให้ลูกเป็นเด็กดี มีความสุข และมีความฉลาดทางอารมณ์

นิทานไทย นิทานพื้นบ้าน สอนลูกง่ายเข้ากับวิถีไทย!!

6 เทคนิคดี ๆ สร้าง MQ (Moral Quotient) ให้รู้ผิดชอบชั่วดี โตมาให้เป็นเด็กดีในสังคม

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up