เพิ่งมีผลการวิจัยออกมาไม่นานนี้ว่า เด็กที่มองโลกแง่ดีนั้นมีเปอร์เซ็นต์เรียนเก่งกว่า และมีปัญหาด้านสุขภาพน้อยกว่าเด็กที่วันๆ เอาแต่คิดเรื่องแย่ๆ ตั้งเยอะ ถ้านิสัยนี้ติดตัวมาตั้งแต่เกิดก็คงต้องรีบปรับแก้กันตั้งแต่ยังเล็ก แต่ถ้าเกิดเจ้าจอมซนแอบไปเก็บนิสัยมองโลกแง่ร้ายมาจากผู้ใหญ่ หรือจากประสบการณ์ไม่ดีในชีวิตจนกลายเป็นทัศนคติด้านลบล่ะ จะแก้ไขอย่างไรดี
1. มองหาสิ่งดีๆ ในชีวิตประจำวัน
การมีเรื่องดีๆ ให้เฝ้ารอนั้นเป็นสิ่งวิเศษสุดสำหรับทุกคน โดยเฉพาะพวกเด็กๆ ไม่ว่าเรื่องดีนั้นจะเป็นกิจกรรมน่าตื่นเต้น อย่างทริปเที่ยวสวนสนุกในวันอาทิตย์หน้า หรือเรื่องเล็กๆ น้อยๆ แค่เมนูโปรดตอนเช้าวันใหม่ กับคำชมนิดๆ หน่อยๆ ของพ่อแม่ยามที่เขาเอาภาพวาดในชั่วโมงศิลปะมาอวด เท่านี้ก็ช่วยให้ความคิดลูกกลับสู่ด้านบวกได้ ถ้าเด็กๆ รับรู้ถึงความรักที่พ่อแม่มีให้ พวกแกก็จะมองว่าโลกรอบตัวคงอ่อนโยนไม่ต่างกัน ดร.เจน กิลแฮม จากมหาวิทยาลัยเพนซิลวาเนียกล่าว
2. เปลี่ยนมุมมอง
พอลูกพูดว่า หนูไม่อยากไปบ้านพี่ๆ เลย ไม่มีอะไรเล่นแหงๆ แทนที่คุณจะแค่รับฟังแล้วปล่อยผ่านหรือยกเลิกแผนการตามใจลูก ลองเปลี่ยนมาโน้มน้าวหรือเสนอความเห็นต่างมุมให้แกบ้าง เช่น เอ…แต่แม่ได้ยินว่าบ้านพี่เขามีลูกหมาตัวใหม่ด้วยนะ
3. เปิดโลกกว้าง
เด็กคิดแง่ลบมักปฏิเสธการออกไปที่แปลกๆ หรือทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่ การชักจูงให้เขาลองเข้าร่วมกิจกรรมที่สนใจอาจเป็นอีกทางหนึ่งในการช่วยให้ลูกเข้าใจว่า โลกนี้ยังมีเรื่องรื่นรมย์อีกมากมายนักเปลี่ยนตัวเอง คุณพ่อคุณแม่เองอย่าลืมทำใจให้สดใส พร้อมมองโลกแง่บวกด้วยนะ
บทความโดย: กองบรรณาธิการนิตยสารเรียลพาเรนติ้ง
ภาพ: Shutterstock