อย่างที่ได้เกริ่นไปในตอนต้นแล้วว่า พ่อแม่สามารถช่วยให้ลูกก้าวข้ามภาวะนี้ได้โดยการให้การสนับสนุน ความช่วยเหลือในการฝึกฝนและการพยายามทำให้เรื่องนี้เป็นเรื่องสนุก ส่วนมากแล้วพ่อแม่อาจเริ่มจากการพัฒนามุมมองต่อวิชาเลขให้เป็นไปในทางที่ดีสำหรับตัวเองก่อน ก่อนที่จะหาวิธีการนำตัวเลขเข้ามาอยู่ในชีวิตประจำวันของเด็กให้ได้มากที่สุด
นี่เป็นบางตัวอย่างวิธีที่พ่อแม่สามารถช่วยให้เด็กลดความเครียดเกี่ยวกับคณิตศาสตร์ค่ะ
- เล่นเกมคณิตศาสตร์ ไม่ว่าคุณจะเล่นเกมออนไลน์หรือเกมบนกระดาน เช่น เกมเศรษฐี หรือใช้อุปกรณ์ในห้องครัวมาเล่นเกี่ยวกับตัวเลขก็ตาม การเล่นเกมที่เกี่ยวข้องกับคณิตศาสตร์และตัวเลขนั้น เป็นวิธีที่ดีมากในการทำให้วิชานี้กลายเป็นเรื่องสนุกและทำให้เด็กสนใจวิชานี้
- สังเกตทัศนคติของคุณที่มีต่อวิชานี้ คุณเคยพูดว่า “ฉันทำคณิตศาสตร์ได้ไม่ดีหรือฉันก็แค่ไม่ชอบคณิตศาสตร์” หรือไม่ ? หากใช่ ควรพิจารณาเปลี่ยนความคิดของคุณ อย่างน้อยคุณไม่ควรแสดงความคิดในด้านลบเกี่ยวกับวิชานี้ออกมา ลูกของคุณสังเกตและเรียนรู้จากตัวคุณ ดังนั้นหากคุณแสดงความรู้สึกด้านลบแทนการพูดคุยเกี่ยวกับความสนุกและความสำคัญของวิชานี้ คุณก็กำลังทำให้ลูกของคุณแย่ลงด้วยเช่นกัน
- ฝึกฝนกับลูก เมื่อพูดถึงทักษะทางคณิตศาสตร์ เช่น บวก ลบ คูณ หาร แล้วนั้น ไม่มีอะไรที่จะดีไปกว่าการฝึกฝน และการเรียนรู้เกี่ยวกับการคูณนั้นก็ยิ่งเป็นเรื่องที่ต้องฝึกฝน ลองฝึกท่องสูตรคูณระหว่างทางไปโรงเรียน ขณะอาบน้ำ ก่อนที่จะเล่านิทานก่อนนอน หรือเวลาใดก็ตามที่คุณพ่อคุณแม่สามารถแทรกมันเข้าไปได้ อาจจะพิมพ์โจทย์เลขและทำให้สนุกและท้าทายมากขึ้นด้วยการจับเวลา หรือให้รางวัลเมื่อพวกเขาทำเสร็จและทำได้เร็วขึ้นก็ได้นะคะ
- กำจัดความคิดที่ว่าบางคนอาจจะไม่เก่งคณิตศาสตร์ออกไป นี่เป็นเรื่องที่สำคัญมากโดยเฉพาะในเด็กผู้หญิง ซึ่งอาจนำความเชื่อผิด ๆ นี้มาจากการที่ปัจจุบันผู้ชายนั้นเก่งเลขกว่าผู้หญิง มีผู้เชี่ยวชาญบางกลุ่มเชื่อว่าความแตกต่างทางทักษะคณิตศาสตร์ระหว่างผู้ชายและผู้หญิงนั้นไม่มีอยู่จริง แต่ก็มีนักวิจัยอีกกลุ่มที่แย้งว่ามันยังคงมีอยู่ ซึ่งความแตกต่างนี้เกิดจากเหตุผลที่ค่อนข้างซับซ้อนและหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นความล้มเหลวของพ่อแม่และครูในการพัฒนาความมั่นใจของเด็กผู้หญิงในวิชานี้ แรงกดดันของสังคมต่อผู้หญิงที่ไม่ควรประสบความสำเร็จในวิชานี้
- ให้ความช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว การศึกษาจาก University ofIllinois in Urbana-Champaign นั้นพบว่าความแตกต่างระหว่างเด็กหญิงและเด็กชายในการเรียนคณิตศาสตร์นั้น จะกว้างขึ้นเมื่อเทียบระหว่างชั้นอนุบาลกับประถมศึกษาปีที่ 5 นอกจากนี้ การศึกษายังระบุว่า ครูหลายคนเข้าใจผิดว่าการที่เด็กหญิงมีความสนใจในชั้นเรียนและทำการบ้านเสร็จตามกำหนดนั้นเป็นสิ่งที่แสดงว่าพวกเขาเข้าใจบทเรียน ซึ่งในความเป็นจริงแล้วอาจจะไม่ใช่เลยละค่ะ ครูและพ่อแม่ควรพูดคุยเกี่ยวกับเนื้อหาเหล่านั้นกับลูก เพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาเข้าใจเนื้อหาเรื่องนั้นแล้วจริง ๆ และหากจำเป็นก็สามารถให้ความช่วยเหลือพิเศษได้ทันที หรือพูดง่าย ๆ ก็คือลูกทำเสร็จจริง แต่ต้องมั่นใจด้วยนะคะว่า ลูกเข้าใจ เพราะถ้าหากลูกไม่เข้าใจ คุณพ่อคุณแม่ก็จะได้ช่วยเหลือได้ทันท่วงทีนั่นเองค่ะ
สิ่งที่ดีที่สุดสิ่งหนึ่งที่คุณพ่อคุณแม่สามารถทำได้ เพื่อช่วยให้ลูกสามารถพัฒนาทักษะทางคณิตศาสตร์หรือวิชาเลข รวมถึงวิชาอื่น ๆ นั้น และเรียนรู้วิชาการอื่น การนำความผิดพลาดที่เกิดขึ้นในวิชานี้ มาทำให้พวกเขาเห็นว่านี่จะเป็นสิ่งที่ช่วยในการเรียนรู้ พวกเขาก็จะมีแนวโน้มที่จะลดความหวาดกลัวต่อวิชานี้ลงนั่นเองค่ะ
เครดิต: Honestdocs
อ่านต่อเนื้อหาอื่นที่น่าสนใจ:
- ฝึกลูกเขียนหนังสือ ไม่ยากอย่างที่คิด
- ลูกโดนเพื่อนทำร้าย ที่โรงเรียน บังคับให้ขโมยเงินที่บ้าน ไม่ทำขู่ฆ่า!!
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่