พอพูดถึงยุง ก็รู้สึกคันตามตัวขึ้นมาทุกที และยิ่งประเทศไทยบ้านเราด้วยแล้ว แหม! ยุงชุมกันเสียจริง ๆ เลยใช่ไหมละคะ … และแน่นอนว่า เป็นปัญหากวนใจคุณพ่อคุณแม่ได้ตลอดจริง ๆ กับตุ่มบวม ๆ ที่เกิดขึ้นบนร่างกายของลูก ที่สำคัญ บางครั้ง มันไม่ได้เป็นแค่ตุ่ม แต่กลายเป็นผื่นเลยนี่สิ! ดังนั้นเรามาทำความรู้จักกับเจ้าผื่นที่ว่านี้พร้อม ๆ กันเลยค่ะ
ผื่นยุงกัด มีลักษณะอย่างไร?
ผื่นยุงกัดมีอาการแสดงได้หลายรูปแบบ และอาการขึ้นกับปริมาณยุงที่กัดด้วยนะคะ ส่วนใหญ่เมื่อโดนกัดซ้ำหลาย ๆ ครั้ง อาการมักจะน้อยลง โดยทั่วไปจะเห็นเป็นตุ่มนูน แดง คัน ขึ้นอยู่นานประมาณ 20 นาที และค่อย ๆ ยุบไปได้เอง ตำแหน่งที่พบบ่อยคือบริเวณขา ซึ่งอาการเหล่านี้ไม่ถือว่าเป็นการแพ้ แต่เป็นปฏิกริยาต่อน้ำลายยุงเท่านั้น
ส่วนในคนที่แพ้ยุงจริง ๆ นั้นหลังถูกกัดจะพบตุ่มนูนแดงคงอยู่นานหลายวัน หรือพบตุ่มนูนแดงขนาดใหญ่ บางครั้งใหญ่เกินกว่า 5 เซนติเมตรเลยละค่ะ อีกทั้งยังมีตุ่มน้ำพอง จ้ำเลือด ในบริเวณที่โดนกัดอีกด้วย โชคร้ายหน่อยอาจกลายเป็นผื่นลมพิษทั่วตัวหรือลมพิษชนิดลึกร่วมกับมีอาการหมดสติได้เลยละค่ะ ซึ่งในกลุ่มนี้ มักมีการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อนจากการแกะเกาและมีรอยดำตามมาได้บ่อยนั่นเอง
ใครบ้างที่เสี่ยงต่อการแพ้ยุง?
- เด็กเล็ก ๆ ที่ยังไม่เคยโดนยุงกัดมาก่อน เนื่องจากพวกเขายังมีภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติน้อย ทำให้ผื่นที่โดนกัดนั้น มีมากกว่าผู้ใหญ่
- คนที่มีโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง ยกตัวอย่างเช่น โรคเอดส์ โรคมะเร็งเม็ดเลือดบางชนิด เป็นต้น
- บุคคลที่ต้องใช้ชีวิตหรือทำงานนอกบ้านเป็นส่วนใหญ่