6.เล่นฟุตบอล
การเล่นฟุตบอลทุกวันนี้ เป็นหนึ่งในงานอดิเรกและกีฬาที่ทั้งเด็กชายและเด็กหญิงต่างก็ให้ความสนใจไม่น้อย เพราะค่อนข้างง่ายต่อการเรียนรู้ เป็นกีฬาที่จะได้ใช้ส่วนต่าง ๆ ของร่างกายทั้งหมดซึ่งจะช่วยเสริมทักษะด้านการเคลื่อนไหวได้เป็นอย่างดี ตลอดจนการใช้เท้าให้สัมพันธ์กับสายตา เรียกว่าทำให้ได้ใช้ประสาทสัมผัสครบทุกส่วนจริง ๆนอกจากนี้ประโยชน์ของการเล่นฟุตบอลจะช่วยให้ฝึกฝนให้ลูกมีไหวพริบ ฉลาดในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้อย่างฉับพลัน เพราะการเล่นฟุตบอลจะช่วยกระตุ้นให้สมองต้องคิดอยู่ตลอดเวลา อีกทั้งกีฬาประเภทนี้ยังช่วยสร้างวินัย การมีน้ำใจนักกีฬา ให้ลูกรู้จักเคารพและปฏิบัติตามกฏ มีความอดกลั้น อดทน ยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่นและสามารถทำงานเป็นทีมกับผู้อื่นได้ และหลังจากเหนื่อยจากการเล่นฟุตบอล ร่างกายจะหลังสารเอ็นโดรฟินออกมา ซึ่งก็จะทำให้เด็กรู้สึกผ่อนคลายมีความสุขได้อีกด้วยนะคะ
7.ว่ายน้ำ
กีฬาว่ายน้ำเป็นงานอดิเรกและการออกกำลังกายที่ดีต่อสุขภาพ นอกจากทำให้ร่างกายแข็งแรงแล้ว ประโยชน์ที่ให้ลูกได้เรียนว่ายน้ำ ตั้งแต่เด็กนั้นส่งผลดีต่อพัฒนาการเด็กหลายด้าน ทั้งทางร่างกาย ทางอารมณ์ สังคม และยังกระตุ้นให้สมองเกิดการพัฒนาที่ดีอีกด้วย เนื่องจากเวลาเรียนเด็กจะต้องฟังคำสั่งจากครูผู้สอนจะทำให้เด็ก ๆ มีสมาธิ ทำให้สมองถูกกระตุ้นอยู่ตลอดเวลาและมีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดการจดจำได้เป็นอย่างดี อันเป็นพื้นฐานที่ดีต่อพัฒนาการด้านสติปัญญาในการเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ได้เพิ่มขึ้น และเด็กที่ว่ายน้ำตั้งแต่อายุยังน้อยจะมีวินัยในตนเองมากขึ้น มีการควบคุมตนเอง และการมีส่วนร่วมทางสังคมมากขึ้น และช่วยเสริมสร้างความมั่นใจในตนเองของเด็ก อีกทั้งการมีทักษะการว่ายน้ำจะช่วยป้องกันตนเองและลดความเสี่ยงต่อการจมน้ำได้ และแน่นอนว่าการได้ว่ายน้ำสำหรับเด็กนั้นมันเป็นเรื่องของความสนุก ที่จะทำให้ลูกอารมณ์ดีสดใสง่ายด้วย
8.การเต้น
จัดได้ว่าการเต้น เป็นงานอดิเรกอันดับต้น ๆ สำหรับเด็กทุกวัย คุณพ่อคุณแม่จะสังเกตเห็นเจ้าตัวน้อยกำมือ แกว่งมือ หรือขยับแข้งขาทันทีเมื่อได้ยินเสียงเพลง และแน่นอนเมื่อร่างกายลูกมีพัฒนาการที่พร้อมแล้ว เด็ก ๆ ก็จะชอบเต้นรำไปกับเสียงเพลงที่สนุกสนาน ซึ่งประโยชน์ของการเต้นไม่ใช่แค่ความสนุกสนาน แต่การเต้นนั้นได้ครบทั้งร่างกาย อารมณ์ และสมอง ที่การขยับไปตามเสียงเพลงนั้นช่วยเสริมพัฒนาการเคลื่อนไหวของลูกได้เป็นอย่างดี ส่งผลให้กล้ามเนื้อแข็งแรง ทำให้หัวใจสูบฉีดและเลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น รวมไปถึงช่วยบริหารทางเดินหายใจ ปอด และกล้ามเนื้อหัวใจแข็งแรงขึ้นอีกด้วย ในขณะที่การเต้นรำก็จะช่วยพัฒนาทักษะการประสานงานของตา หู สมาธิ และความจำ เพราะได้จดจ่ออยู่กับการเคลื่อนไหวที่กำลังทำอยู่ตลอดเวลา รวมถึงการฟังเสียงเพลงเพื่อจับจังหวะ สอดประสานไปกับการเต้น และแน่นอนความสนุกสนานจากการเต้นเพลงจังหวะสนุก ๆ จะทำให้ร่างกายหลั่งสารเอ็นโดรฟินออก จึงทำให้เกิดความสุข ไม่มีภาวะความเครียด ส่งผลดีต่อสุขภาพจิต และส่งผลทำให้ลูกเป็นเด็กอารมณ์ดี สดชื่น แจ่มใส นอกจากนี้การเต้นรำยังช่วยเพิ่มความมั่นใจให้ลูก และความสามารถในการทำงานเป็นทีมได้เมื่อเต้นเป็นกลุ่ม
จะเห็นได้ว่าการสนับสนุนให้ลูกได้ทำในงานอดิเรกที่มีประโยชน์และเป็นความชอบของตัวเด็กนั้น นอกจากเป็นการใช้เวลาว่างอย่างสร้างสรรค์ ลูกยังได้ทักษะต่าง ๆ ความเพลิดเพลินต่อสิ่งที่ทำ และอาจทำให้ลูกได้ค้นพบตัวตนว่าชอบอะไรตั้งแต่เด็กและเป็นจุดเริ่มต้นสำหรับอาชีพการงานในสิ่งที่ลูกชอบในอนาคตต่อไปได้ด้วยนะคะ
อ่านต่อบทความที่น่าสนใจอื่นๆ
ปิดเทอม ให้ลูกเรียนอะไรดี 7 กิจกรรมปิดเทอม เปิดประสบการณ์ เติมทักษะ ใช้เวลาอย่างสร้างสรรค์
6 กิจกรรมเล่นกับลูกสไตล์ มอนเตสเซอรี่ เสริมทักษะให้ลูกง่ายๆ ได้ที่บ้าน
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่