แม่เครียด ทำไม ลูกไปโรงเรียน ป่วยบ่อย แก้ไขยังไงดี? - Amarin Baby & Kids
ลูกไปโรงเรียน ป่วยบ่อย

แม่เครียด ลูกไปโรงเรียน ป่วยบ่อย ป้องกันยังไงดี?

Alternative Textaccount_circle
event
ลูกไปโรงเรียน ป่วยบ่อย
ลูกไปโรงเรียน ป่วยบ่อย

ปัญหาที่ชวนพ่อแม่ที่มีลูกเล็กเข้าสู่วัยอนุบาลกังวลมากที่สุด คือช่วงที่ ลูกไปโรงเรียน ป่วยบ่อย ในระยะแรก ๆ โดยเฉพาะไข้หวัดที่เป็นโรคยอดนิยมของเด็ก ๆ ทุกเพศทุกวัย เมื่อถึงเวลาเข้าโรงเรียนคุณพ่อคุณแม่อาจเริ่มกังวลเกี่ยวกับสุขภาพของเจ้าตัวเล็ก ในช่วงเปิดเทอมของปีการศึกษาใหม่ จากเด็กเล็กที่เคยอยู่บ้านก็ได้ไปโรงเรียนสู่สังคมใหม่ เจอกับเพื่อน ๆ หลายคน จากเด็กที่เคยอยู่บ้านมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงดี นาน ๆ จะป่วยเป็นไข้ซักที แต่พอหลังเข้าโรงเรียนใหม่ ๆ กลับป่วยซะงั้น

ไปโรงเรียน ป่วยบ่อย

 

เมื่อเด็กเล็กเข้าเรียนใหม่ในช่วงระยะแรก เด็กทุกคนต่างก็มีโอกาสเป็นพาหะของโรคได้ อีกทั้งช่วงเปิดเทอมที่ย่างเข้าสู่ฤดูฝน โอกาสที่เจ้าตัวเล็กจะเป็นหวัด มีน้ำมูก ไอ จาม แพร่เชื้อโรคให้แก่กันและกันได้ ก็จะทำให้ ลูกไปโรงเรียน ป่วยบ่อย

รศ.นพ.สุรเกียรติ อาชานานุภาพ ได้เขียนไว้ในบทความว่า “เนื่องจากเด็กเล็กยังขาดภูมิต้านทานต่อเชื้อไวรัสที่ทำให้เป็นไข้หวัด ซึ่งมีอยู่กว่า 200 ชนิด เมื่อเป็นไข้หวัดครั้งหนึ่ง ก็จะมีภูมิต้านทานต่อเชื้อไวรัสชนิดนั้น ๆ โดยจำเพาะและจะไม่เป็นไข้หวัดซ้ำจากเชื้อชนิดนั้น ๆ แต่เมื่อติดเชื้อไวรัสชนิดใหม่ ซึ่งร่างกายยังไม่มีภูมิต้านทาน ก็จะเกิดเป็นไข้หวัดครั้งใหม่”

ในห้องเรียนของลูกมีเด็ก ๆ ที่มาอยู่รวมกันประมาณ 20-30 แต่ละคนอาจมีเชื้อไวรัสไข้หวัดคนละชนิด ซึ่งรวม ๆ กันอยู่ไม่ซ้ำกันได้ โอกาสที่เด็กในห้องจะหมุนเวียนติดเชื้อไวรัส ผลัดกันป่วย ผลัดกันหยุด เป็นไปได้ในช่วงระยะ 3-4 เดือนหรือในเทอมแรก เมื่อรับเชื้อจนครบร่างกายจะมีภูมิต้านทานต่อไวรัสทุกตัวที่มีอยู่ในห้อง เด็กก็จะห่างหายจากไข้หวัด

แม่เครียด ลูกไปโรงเรียน ป่วยบ่อย ป้องกันยังไงดี?

ไปโรงเรียน ป่วยบ่อย

  1. คอยสังเกตอาการของลูกเมื่อกลับจากโรงเรียน สอบถามว่าเพื่อนในห้องมีใครไอ จาม มีน้ำมูกหรือไม่
  2. สอนให้ลูกรู้จักล้างมือบ่อย ๆ แนะนำเรื่องของใช้ส่วนตัว เช่น กระติกน้ำ ผ้าเช็ดหน้า ไม่สามารถใช่ร่วมกับคนอื่นได้
  3. ชวนลูกน้อยให้วิ่งเล่นออกกำลังอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อย 15 นาทีต่อวันก็เป็นประโยชน์ได้ เพื่อรักษาระบบภูมิคุ้มกันของลูกให้แข็งแรง และเพื่อให้ร่างกายสามารถสร้างภูมิคุ้มกันต่อสู้กับการติดเชื้อได้มากขึ้น
  4. ให้ลูกได้รับประทานอาหารครบ 5 หมู่ กินอย่างสมดุลทั้งผัก ผลไม้ โปรตีน และน้ำ รวมถึงอาหารที่มีกรดโอเมก้า 3 เช่นในปลาแซลม่อน ปลาแมคเคอเรล ที่ดีสำหรับการสร้างเซลล์เม็ดเลือดขาวและสร้างภูมิคุ้มกัน และสารอาหารที่มีโปรไบโอติก ช่วยสร้างเกราะคุ้มกัน ป้องกันโรคหวัด เช่น โยเกิร์ต นมเปรี้ยว กล้วย มะเขือเทศ เป็นต้น
  5. ให้ลูกน้อยนอนหลับอย่างเพียงพอ เด็กเล็กควรได้นอนประมาณ 10 ชั่วโมงต่อคืน การนอนหลับเป็นวิธีที่ยิ่งใหญ่ในการรักษาภูมิคุ้มกันของเด็กให้แข็งแรง

ทีมแม่ ABK ได้ไปอ่านความคิดเห็นจากแม่ ๆ ที่มาแชร์ประสบการณ์วิธีดูแลและป้องกันเมื่อเจ้าตัวเล็กไปโรงเรียนในช่วงแรกแล้วป่วยบ่อยจากกระทู้พันทิพ มีไอเดียที่น่าสนใจ อาทิเช่น

แม่น้องบีบีได้แนะว่า เราให้ลูกทานวิตามินซีเสริมคะ แต่โชคดีลูกชายเราชอบทานผลไม้ โดยเฉพาะฝรั่ง วิตามินซีเยอะมาก ๆ แล้วปล่อยให้ลูกเล่นซนออกกำลังกายเยอะ ๆ เชื่อมั้ยคะ ตั้งแต่ลูกเราเข้าโรงเรียนเกือบปีแล้วคะ ไม่เคยป่วย ไม่เคยเป็นหวัด ไม่ต้องขาดเรียนเลยสักวันคะ มีขาดเรียนก็วันที่เราต้องพาเค้าไปธุระกับเราเท่านั้นคะ เน้นให้ลูกทานอาหารครบ 5หมู่ ทานน้อยไม่เป็นไร แต่ให้ครบ 5 หมู่ค่ะ โดยเฉพาะผัก ผลไม้ ที่มีวิตามินซีเยอะ ๆ ทานไปเลยคะ แข็งแรงไม่เป็นหวัดแน่นอนคะ ภูมิต้านทานดีมากคะ”

แม่โบว์บอกไว้ว่า หมอแนะนำมาค่ะว่า ลูกกลับจากโรงเรียนให้จับอาบน้ำสระผม ใช้น้ำเกลือล้างจมูกเลย เพื่อเป็นการล้างเชื้อโรคออกให้หมด ทำแบบนี้จะไม่ค่อยป่วย

NyGmember แสดงความคิดเห็นว่า “จริง ๆ แล้วเด็กกับเรื่องป่วยเป็นของคู่กันอยู่แล้ว พยายามออกกำลังให้มากขึ้นจะได้ป่วยลดลง ให้เด็กป่วยบ้างก็เป็นเรื่องดีครับ ภูมิคุ้มกันหลาย ๆ อย่างที่ได้มาจากการป่วยมีประสิทธิภาพดีกว่าวัคซีนแพงๆ หลายเท่า”

จากนานาความคิดของแม่ ๆ จะเห็นว่า เมื่อลูกไปโรงเรียนและไม่สบายบ่อย ๆ เป็นเรื่องที่คุณพ่อคุณแม่ต้องยอมรับ เพราะเด็กเล็กหลีกเลี่ยงจากการเป็นไข้หวัดได้ยาก แต่ก็สามารถดูแลสุขภาพของลูกน้อยเพื่อป้องกันให้ได้รับเชื้อ หรือป่วยน้อยที่สุดเพื่อให้พ่อแม่คลายกังวล หากเจ้าตัวน้อยมีอาการไข้หวัด ควรหาทางดูแลและให้ยารักษาที่ถูกต้อง ยาที่จำเป็นสำหรับการรักษาไข้หวัดในเด็กเล็กที่ยังไม่มีภาวะแทรกซ้อน ไข้ไม่สูง คือยาลดไข้ (พาราเซตามอล) เพื่อใช้บรรเทาอาการตัวร้อน ปวดศีรษะ อาการไข้ในกรณีที่ไม่รุนแรงมักเป็นเพียง 2-3 วัน เต็มที่ไม่เกิน 4 วัน ก็จะหาย นอกจากมีภาวะแทรกซ้อนเกิดขึ้น อาการไข้อาจเป็นอยู่นานเกิน 4 วันขึ้นไปหรือมีไข้สูง ควรนำลูกไปพบแพทย์ทันทีนะคะ.

ขอบคุณข้อมูลอ้างอิง : www.doctor.or.th

อ่านต่อบทความอื่นน่าสนใจ :

ลูกเป็นภูมิแพ้ ไม่ใช่แค่พ่อแม่ที่ทำให้ลูกป่วย แต่สภาพแวดล้อมก็มีส่วนสำคัญที่ทำให้เกิดภูมิแพ้กับลูก

แม่แชร์ อาการโรคคาวาซากิ และวิธีรักษา เมื่อลูกป่วยเป็นโรคคาวาซากิ

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

 

Summary
Review Date
Reviewed Item
ลูกไปโรงเรียน ป่วยบ่อย
Author Rating
31star1star1stargraygray

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up