เมื่อลูกต้อง "ย้ายโรงเรียน" ปัญหาใหม่ที่แม่ต้องเจอ - Amarin Baby & Kids

เมื่อลูกต้อง “ย้ายโรงเรียน” ปัญหาใหม่ที่แม่ต้องเจอ

Alternative Textaccount_circle
event

 

นอกจากคุณหมอจะแนะนำวิธีการดูแลลูกแล้ว คุณหมอยังได้ให้คำแนะนำคุณพ่อคุณแม่ดังนี้อีกด้วยค่ะ

  • พูดจาให้กำลังใจและอธิบายให้ลูกฟัง บอกให้ลูกได้เข้าใจว่า นอกจากลูกแล้ว ยังมีเด็ก ๆ อีกหลายคนที่กังวลใจเกี่ยวกับการไปโรงเรียนวันแรก และแน่นอนว่าคุณครูเข้าใจถึงปัญหานี้ดี ว่าเด็กนักเรียนนั้นมีความกังวลใจ และอาจจะต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่งเพื่อทำการปรับตัวและสร้างความคุ้นเคย ดังนั้น ลูกไม่ต้องกลัวหรือกังวลไปว่า คุณครูจะดุ จะตี หรือไม่เข้าใจ เพราะฉะนั้นสบายใจได้
  • ใช้เวลาอยู่กับลูกให้มากขึ้น คุณพ่อคุณแม่หลาย ๆ ท่านอาจจะใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการทำงานใช่ไหมละคะ พอกลับมาถึงบ้านก็อาจจะรู้สึกเหนื่อยและอยากพักผ่อน จึงไม่ค่อยมีเวลาให้กับลูกมากเท่าไร ซึ่งสิ่งที่คุณหมอแนะนำก็คือ ในช่วงก่อนเปิดเรียน หรือหลังเปิดเรียนในสัปดาห์แรก ๆ ให้คุณพ่อคุณแม่พยายามใช้เวลาอยู่กับลูกให้มากที่สุด พยายามถามไถ่ถึงความรู้สึกของลูก ยกตัวอย่างเช่น ชีวิตประจำวันในวันนั้น ลูกได้ทำอะไรบ้าง ได้เจอเพื่อนใหม่กี่คน อาหารที่โรงเรียนอร่อยไหม ได้เล่นเกมส์หรือสนามเด็กเล่นอันใหม่บ้างหรือเปล่า คำถามเหล่านี้จะทำให้ลูกรู้สึกอบอุ่น และดีใจที่อย่างน้อย คุณพ่อคุณแม่ก็รู้สึกสนใจว่า พวกเขาทำอะไรมาบ้าง และแน่นอนที่สุดเลยก็คือ ลูกจะรู้สึกดีใจที่ได้กลับมาใช้เวลาอยู่กับคุณพ่อคุณแม่ เป็นต้น

ย้ายโรงเรียน

  • คอยจับตาดูเรื่องของโรงเรียน ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรม ข่าวคราวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นภายในโรงเรียน โดยบางข่าวนั้นอาจจะเกี่ยวข้องกับลูกของเราทั้งทางตรงหรือทางอ้อมก็เป็นได้ ดังนั้น รู้ไว้บ้างจะดีที่สุดค่ะ
  • ทำความรู้จักกับผู้ปกครองคนอื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อนใหม่ที่ลูกคบด้วย เพราะอย่างน้อย เผื่อมีอะไรฉุกเฉินหรือติดขัดเรื่องการเรียนหรือกิจกรรมก็อาจจะสามารถช่วยแนะนำซึ่งกันและกันได้
  • พาลูกไปหาเพื่อนเก่าบ้าง เพื่อลูกจะได้รู้สึกและเข้าใจว่า ต่อให้พวกเขาจะไม่ได้เรียนโรงเรียนเดียวกันหรือ ย้ายโรงเรียน กันไปแล้ว ก็ยังสามารถนัดเจอและใช้เวลาว่างด้วยกันได้

ขอแค่คุณพ่อคุณแม่ทำให้ลูกรู้สึกว่าเราใส่ใจในรายละเอียดทุกอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งความรู้สึก เพียงเท่านี้ลูกของคุณพ่อคุณแม่ก็รู้สึกปลอดภัย หายกังวลใจ และสามารถไปเริ่มต้นใช้ชีวิตเรียนกับสถาบันใหม่ได้อย่างมีความสุขแล้วละค่ะ

ขอบคุณที่มา: Honestdocs

อ่านต่อเรื่องอื่นที่น่าสนใจ:

 

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

 

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up