กิจกรรมบำบัด – สำหรับเด็กๆ ในวัยเรียนแล้ว แน่นอนว่าการเรียนเป็นสิ่งที่สำคัญอันดับแรกๆ ในชีวิตที่ต้องเอาใจใส่ อย่างไรก็ตามคุณพ่อคุณแม่ควรหาเวลาให้เด็กๆ ได้ผ่อนคลายในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ ด้วยการเล่นหรือทำกิจกรรมต่างๆ ซึ่งจะช่วยบำบัดความเครียดในเด็กที่สะสมมาตลอดทั้งสัปดาห์ทั้งจากการต้องใช้สมองในการเรียนและการตื่นเช้าไปโรงเรียนได้ วันนี้เรามาดูกันค่ะว่ากิจกรรมบำบัดในเด็ก หรือการเล่นบำบัดสำหรับเด็กนั้นสำคัญอย่างไร และ มีกิจกรรมแบบไหนบ้างที่เหมาะสำหรับการผ่อนคลายความเครียดสำหรับเด็ก
กิจกรรมบำบัด คลายเครียดสำหรับเด็ก สำคัญอย่างไร มีแบบไหนบ้าง?
ในฐานะผู้ปกครอง บางครั้งอาจไม่ใช่เรื่องง่าย ที่จะตัดสินว่าพฤติกรรมต่างๆ ที่ดีและไม่ดีของลูก ที่เกิดขึ้นในแต่ละวันเป็นส่วนหนึ่งของการเติบโตขึ้น หรือเป็นสัญญาณของปัญหาที่ใหญ่กว่า ความหงุดหงิด ความเครียด ความวิตกกังวล และปัญหาทางสังคมและในโรงเรียนเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้เมื่อเด็กๆ โตขึ้นเพื่อใช้ชีวิตในสังคม อย่างไรก็ตาม คุณพ่อคุณแม่สามารถหาข้อมูลต่างๆ เพื่อตัดสินใจว่าเราสามารถทำอะไรได้บ้างเพื่อช่วยผ่อนคลายอารมณ์ความรู้สึกของลูกซึ่งเป็นหนึ่งแนวทางการเลี้ยงลูกแบบเชิงรุก
ผู้ปกครองต้องเรียนรู้วิธีสังเกตสัญญาณความเครียดและความวิตกกังวลของเด็กๆ ซึ่งหนึ่งในวิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการแก้ไขปัญหา คือ การสอนให้เด็กๆ ได้รู้จักกับอารมณ์และอาการต่างๆ ที่เกิดขึ้น เมื่อพวกเขาเริ่มประสบกับอาการเหล่านั้น ซึ่งจะช่วยให้เด็กๆ รับมือกับความเครียดต่างๆได้ดี นอกจากนี้ เมื่อเด็กๆ รู้สึกหนักใจหรือวิตกกังวล แน่นอนว่าสามารถเพิ่มระดับความเครียดและความกังวลให้กับทั้งครอบครัวได้ การค้นหากลยุทธ์การผ่อนคลายที่ช่วยให้เด็กๆ จัดการกับช่วงเวลาที่กังวลใจจึงเป็นรากฐานสำหรับการจัดการความเครียดที่ดีต่อสุขภาพตลอดชีวิต ซึ่งนั่นก็คือการให้เด็กๆ ได้ทำกิจกรรมบางอย่างที่ช่วยบำบัดอารมณ์ความรู้สึกต่างๆ ในทางลบได้ ซึ่งก็คือ สิ่งที่เรียกว่า กิจกรรมบำบัด (Occupational Therapy) เพื่อผ่อนคลายความเครียดสำหรับเด็กๆ นั่นเองค่ะ
ความสำคัญของ กิจกรรมบำบัด คลายเครียดสำหรับเด็ก
ความเครียดเรื้อรัง อาจส่งผลกระทบต่อร่างกายและจิตใจของเด็กๆ ซึ่งเทคนิคการผ่อนคลายด้วยกิจกรรมต่างๆ ได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพในการลดผลกระทบในทางลบได้ การฝึกผ่อนคลายทุกรูปแบบเป็นเวลาหนึ่งนาทีขึ้นไปจะช่วยลดอัตราการเต้นของหัวใจ อัตราการหายใจ อุณหภูมิผิวหนัง และความตึงเครียดของกล้ามเนื้อของเด็ก สิ่งสำคัญที่สุดคือวิธีการผ่อนคลายที่ทำให้การหายใจของเด็กช้าลงและลดความตึงเครียดของกล้ามเนื้อนั้นย่อมมีประโยชน์
ในระยะยาว เทคนิคการผ่อนคลายสำหรับเด็กด้วยกิจกรรมต่างๆ จะช่วยปรับปรุงความเป็นอยู่และความสุขโดยรวม ซึ่งรวมถึงความสามารถในการรับมือกับความเจ็บปวด สมาธิโดยรวม และความสามารถในการนอนหลับตอนกลางคืน ตลอดจนยังลดความวิตกกังวลและพฤติกรรมก้าวร้าวในเด็กและพัฒนาทักษะทางสังคม ความสามารถในการแก้ปัญหา ความมั่นคงทางอารมณ์ และที่สำคัญคือผลการเรียนได้อีกด้วย
เทคนิคการผ่อนคลายไม่เพียงแต่สามารถบรรเทาอาการทางร่างกายของเด็กเท่านั้น แต่ยังช่วยให้เด็กๆ รู้สึกมั่นคงและมั่นใจในสถานการณ์ต่างๆ ซึ่งช่วยให้พวกเขาพบช่วงเวลาแห่งความสงบท่ามกลางความสับสนวุ่นวาย
นอกจากนี้ การบำบัดด้วยกิจกรรม จะช่วยให้เด็กประมวลผลและแสดงความคิดและอารมณ์ผ่านการเล่น การนำเสนอแนวทางที่สนุกสนานและเป็นมิตรกับเด็กในการสำรวจกิจกรรมและหัวข้อที่ท้าทาย ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นมากกว่าแค่ความ “สนุก” ในระหว่างการร่วมกิจกรรม
ขั้นตอนแรกในการจัดการกับความวิตกกังวลและความเครียดในเด็ก คือ การตระหนักถึงผลกระทบทางกายภาพของความรู้สึกเป็นทุกข์ หงุดหงิด กังวลใจ หรือโกรธ ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นผลกระทบระยะสั้นจากระดับความเครียดในระดับสูงของเด็ก ซึ่งสามารถส่งผบกระทบทางลบ ต่อเด็กๆ ได้ดังนี้
- เกิดความสับสนทางความคิด
- สื่อสารด้วยความยากลำบาก
- ความสามารถในการจดจำเรื่องที่ซับซ้อนลดลง
นอกจากนี้ ผลกระทบระยะยาวจากความเครียดและความวิตกกังวลเรื้อรังต่อเด็กและวัยรุ่นมีศักยภาพที่จะร้ายแรงกว่านั้นมาก ซึ่งจะทำให้พวกเขาเกิดอาการดังนี้
- มีแนวโน้มที่จะปวดหัว ปวดท้อง และปวดกล้ามเนื้อ เรื้อรัง
- รูปแบบการนอนหลับที่ดีต่อสุขภาพของพวกเขาจะถูกขัดจังหวะ
- ความผิดปกติทางจิตที่ไม่ได้รับการรักษาจะเป็นอุปสรรคต่อการเติบโตทางอารมณ์ของเด็กและการเปลี่ยนไปสู่วัยผู้ใหญ่
ดังนั้นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไม่ กิจกรรมบำบัด จึงสำคัญสำหรับเด็กที่กำลังตกอยู่ในความเครียดสะสม ซึ่งต่อไปนี้ คือกิจกรรมที่เหมาะสมสำหรับการบำบัดความเครียดในเด็กประเภทต่างๆ ที่ผู้ปกครองควรรู้ค่ะ
อ่านต่อ…กิจกรรมบำบัด คลายเครียดสำหรับเด็ก สำคัญอย่างไร มีแบบไหนบ้าง? คลิกที่หน้า 2
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่