ประเภท และประโยชน์ของ กิจกรรมคลายความเครียดสำหรับเด็ก
-
ศิลปะบำบัด (Art Therapy)
ศิลปะ คือหนึ่งในหนทางแห่งการปลดปล่อย อารมณ์ ความรู้สึก ความคิด ตามความต้องการของมนุษย์ เด็กก็เช่นกัน พวกเขาต้องการ สิทธิ เสรีภาพ ที่จะแสดงออกซึ่งความต้องการของเขาอย่างมีความสุข พวกเขาต้องการโอกาสที่จะพัฒนาศักยภาพของตัวเขาเองในด้าน การเรียน การเล่น และการแสดงออกต่างๆ
เป้าหมายด้วยศิลปะบำบัด คือ การใช้การแสดงออกอย่างสร้างสรรค์ในการทำงานผ่านปัญหาหรือความท้าทายในขณะที่แสดงตัวตนออกมา ศิลปะบำบัดช่วยให้เด็กๆ ได้ระบายความรู้สึกและช่วยให้พวกเขาจัดระเบียบความคิดและประมวลผลอารมณ์ เด็ก ๆ สามารถมีช่วงเวลาที่ยากลำบากในการพูดด้วยวาจาในสิ่งที่พวกเขาคิดหรือรู้สึก ซึ่งศิลปะบำบัดช่วยให้พวกเขาระบายความรู้สึกและช่วยให้พวกเขาจัดระเบียบความคิดและประมวลผลอารมณ์ได้ดีขึ้น ด้วยศิลปะบำบัด ประสบการณ์จะกลายเป็นรูปธรรมมากขึ้น นอกจากนี้ ประโยชน์ที่เด็กๆ จะได้รับ คือการเรียนรู้วิธีนึกภาพบางสิ่งในชีวิตและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อตอบโต้ “ตัวอย่างเช่น เด็กที่ถูกรังแกอาจวาดภาพระบายสีตัวเองเป็นซูเปอร์ฮีโร่ แล้วแสดงออกมาในชีวิตจริงด้วยการยืนหยัดต่อสู้เพื่อความถูกต้องในสังคม เป็นต้น นอกจากเด็กๆ จะได้ระบายอารมณ์แล้ว ศิลปะบำบัดยังช่วยให้เด็กๆ เข้าใจความรู้สึก รู้เท่าทั้นอารมณ์ของตัวเองได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย การประเมินผลการดูแลรักษา ด้วยศิลปะบำบัด นั้นจะเน้นที่ กระบวนการ และกิจกรรมทางศิลปะ แต่ไม่ได้เน้นที่ผลงานทางศิลปะ
-
ดนตรีบำบัด (Music Therapy)
เช่นเดียวกับภาพที่น่ารื่นรมย์สามารถทำให้จิตใจสงบและปลอบประโลมร่างกายได้ เสียงดนตรีก็เช่นกัน เด็กที่ได้รับการบำบัดด้วยดนตรี จะสามารถยกระดับอารมณ์และส่งเสริมความสุขทั้งทางร่างกายและจิตใจ มีอัตราการเต้นของหัวใจและความดันโลหิตลดลงและความวิตกกังวลดีขึ้น ปัจจุบัน โรงพยาบาลหลายแห่งจัดให้มีนักบำบัดโรคทางดนตรีที่ได้รับใบอนุญาตและผ่านการฝึกอบรมมาแล้ว ซึ่งสามารถทำงานร่วมกับเด็กๆ เป็นรายบุคคลเพื่อพัฒนาแผนการรักษาที่ปรับให้เหมาะกับแต่ละบุคคลซึ่งมีส่วนร่วมกับพวกเขาในกิจกรรมต่างๆต่อไปนี้
- การเล่นแบบแอคทีฟที่รวมถึงการฟังเพลง
- การเต้นหรือขยับร่างกายตามเสียงเพลง
- เล่นเครื่องดนตรีหรือด้นสดกับเด็กๆ
- ให้เด็กๆ ร้องเพลงตาม
ในการเข้าร่วมดนตรีบำบัด บุตรหลานของคุณไม่จำเป็นต้องมีความสามารถพิเศษทางดนตรีใดๆ และส่วนที่ดีที่สุด คือ คุณสามารถฝึกใช้ดนตรีบำบัดที่บ้านกับลูกๆ ได้ การเลือกเพลงที่ทั้งคุณและลูกชอบ และแบ่งเวลาไว้ฟัง เต้นรำ ร้องเพลง หรือทดลองเครื่องดนตรีต่างๆ ร่วมกันคุณก็สามารถสอนลูกๆ ให้รู้จักความสุขทางดนตรีได้เช่นเดียวกัน ปัจจุบันมีทั้งโรงพยาบาล และสถาบันต่างๆ ที่มีคอร์สดนตรีบำบัดสำหรับเด็กเล็กและเด็กโตให้บริการหลายแห่งด้วยกัน
-
การเต้นและการเคลื่อนไหว (Dance / Movement Therapy)
เป็นที่ทราบกันดีว่าการเคลื่อนไหวร่างกายมีประโยชน์มากมาย เช่น การลดความเครียด ลดการอักเสบในร่างกาย และส่งเสริมสุขภาพสมอง นักวิจัยเข้าใจดีว่าการสื่อสารประจำวันส่วนใหญ่ของเราเป็นแบบอวัจนภาษา และเกี่ยวกับความทรงจำที่กระทบกระเทือนจิตใจสิ่งเหล่านี้จะถูกเข้ารหัสหรือเก็บไว้ในส่วนที่ไม่ใช่คำพูดของสมอง ดังนั้นการได้เต้นหรือเคลื่อนไหวร่างกายจึงทำให้เด็กๆ รู้สึกว่าได้ใช้ประโยชน์จากการเคลื่อนไหวเพื่อบอกเล่าเรื่องราวต่างๆ รวบรวมและปลดปล่อยอารมณ์
เซสชั่นการเต้นและการบำบัดด้วยการเคลื่อนไหวจะเน้นที่การส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์และความสามารถในการปรับตัว เพื่อช่วยให้เด็กได้พัฒนาความยืดหยุ่นทางปัญญา การควบคุมตนเอง และการกำกับตนเองมากขึ้น นี่เป็นสิ่งสำคัญโดยเฉพาะอย่างยิ่งเนื่องจากการวิจัยแสดงให้เห็นว่าประสบการณ์ชีวิตในวัยเด็กและวิธีที่เด็กเรียนรู้ที่จะรับมือกับสิ่งเหล่านี้สามารถมีผลกระทบยาวนานต่อคุณภาพชีวิตของพวกเขาในวัยผู้ใหญ่
ที่สำคัญ คือ การบำบัดด้วยการเต้น/การเคลื่อนไหว มีประสิทธิภาพในการกระตุ้นปฏิสัมพันธ์ทางสังคม เพิ่มอารมณ์ ลดความวิตกกังวล เพิ่มความตระหนักในตนเองและแสดงออก จุดเน้นของการสื่อสารอยู่ที่การปรับคำพูดและการมีสติสัมปชัญญะซึ่งทั้งสองอย่างนี้สนับสนุนการได้มาและการบำรุงรักษาความสามารถทางด้านภาษาและทักษะการเรียนรู้ การกำหนดให้เด็กๆ เคลื่อนไหวท่าทางต่างๆ จะช่วยกำหนดขอบเขตที่เด็กสามารถเรียนรู้ที่จะควบคุมพฤติกรรมหุนหันพลันแล่นของตัวเอง และเพิ่มความสามารถในการรักษาสมาธิและความสนใจ
-
กิจกรรมบำบัด ด้วยการทำอาหาร (Cooking Therapy)
การทำอาหารเป็นกิจกรรมที่ยอดเยี่ยมสำหรับเด็กที่มีความวิตกกังวลหรือภาวะซึมเศร้า และเป็นกิจกรรมที่นิยมใช้บำบัดความเครียดในเด็กและวัยรุ่นเนื่องจากเป็นประสบการณ์ที่ต้องใช้สติและสมาธิร่วมกัน ไม่เพียง แต่เป็นกระบวนการเชิงบวกที่นำพาผู้คนมารวมกัน แต่ลูกของคุณต้องใส่ใจและให้ความสำคัญกับอาหาร การทำอาหารต้องมีสมาธิและดีที่สุดโดยไม่ต้องทำงานหลายอย่างพร้อมกัน ขณะทำอาหาร ลูกของคุณสามารถละทิ้งความกังวลในแต่ละวันได้อย่างเป็นธรรมชาติ การทอดไข่เจียวเป็นตัวอย่างที่ดี เพราะเด็กๆ ต้องดูแลและดูไข่ในกระทะเพื่อให้แน่ใจว่าไข่สุกตามทีต้องการ เด็กๆ จะไม่สามารถฟุ้งซ่านจากโทรศัพท์หรืออุปกรณ์อื่น ๆ ได้ในระหว่างการทอดไข่
การทำอาหาร เป็นสิ่งที่ช่วยให้ลูกๆ ของคุณเรียนรู้ที่จะผ่อนคลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากวันที่เหน็ดเหนื่อยจากการเรียนที่โรงเรียน ส่งผลดีต่อสุขภาพจิต เพราะมันมีประสิทธิภาพมากในการควบคุมความคิดเชิงลบและปรับจิตใจของเด็กให้เข้ากับกระบวนการสร้างสรรค์ด้วยมื้ออาหาร
สถานที่ให้บริการกิจกรรมบำบัดในประเทศไทย
ปัจจุบันมีทั้งโรงพยาบาล สถาบัน และ สถานที่ต่างๆ ที่ให้เด็กๆ ได้ร่วมทำกิจกรรมในรูปแบบต่างๆ อาทิ คอร์สสอนเต้น สอนการทำอาหาร คอร์สดนตรีบำบัด และ ศิลปะบำบัด เป็นต้น ซึ่งเหมาะกับทั้งเด็กเล็กและเด็กโต หากคุณพ่อคุณแม่ท่านใดสนใจ สามารถเข้าไปหาข้อมูลได้จากเว็บไซต์ต่างๆ ด้านล่างต่อไปนี้ในเบื้องต้นได้ค่ะ
- B.Care medical center
- โรงพยาบาลเด็กสมิติเวช (Samitivej Smart Kid Club)
- ศูนย์วิชาการ Happy Home
- TeachPot.com
- A little something
- kidsluck คิดส์ลัค
- สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี
- Claywork
สุดท้ายนี้ การที่เด็กๆ ได้ใช้ทักษะต่างๆ ระหว่างการทำกิจกรรมต่างๆ อาทิ ได้ใช้ความคิด จินตนาการ ในการเล่นและการแก้ปัญหา ถือว่าเป็นประโยชน์อย่างมากต่อการเรียนรู้และการพัฒนาทักษะต่างๆ ที่จำเป็นของเด็ก ๆ เมื่อเห็นประโยชน์ของกิจกรรมเหล่านี้แล้ว คุณพ่อคุณแม่อาจต้องมองหากิจกรรมบำบัดความเครียดสำหรับเด็กให้พวกเขาได้ลองสัมผัสบ้างแล้วค่ะ เพราะนอกจากเด็กๆ จะได้สนุกแล้ว ยังเป็นการส่งเสริมให้พวกเขาเกิดทักษะความฉลาดที่รอบด้านด้วย Power BQ ในด้าน ความฉลาดในการเล่น (PQ) ได้อีกด้วยค่ะ
ขอบคุณข้อมูลจาก : https://be.mightier.com/ , https://www.youthrive.com.au , https://www.musictherapy.org , https://www.nspt4kids.com
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่