อุทาหรณ์สอนใจ! ยัดเยียดการเรียน ให้ลูกจนลูกสติขาด - amarinbabyandkids

อุทาหรณ์สอนใจ! ยัดเยียดการเรียน ให้ลูกจนลูกสติขาด

Alternative Textaccount_circle
event

 

 

ผู้โพสต์เรื่องราวดังกล่าวนี้ ต้องการที่จะแชร์ประสบการณ์ที่ตนเองได้รับรู้มา เพื่อเป็นอุทาหรณ์ให้กับทุกครอบครัว ที่พยายาม ยัดเยียดการเรียนให้ลูก เพื่อให้ความฝันของตัวคุณพ่อคุณแม่เองนั้นเป็นความจริง จนมองข้ามบางสิ่งบางอย่างที่สำคัญที่สุดในชีวิต … หากพร้อมแล้ว ไปอ่านเรื่องราวนี้พร้อม ๆ กันเลยค่ะ

ก่อนอื่น จะเล่าเรื่องให้ฟัง เพิ่งได้รับทราบมาเหมือนกันจากปากของเพื่อนทั้งน้ำตา และคิดว่ามีประโยชน์ไม่มากก็น้อย เพื่อนคนนี้ไม่ได้ติดต่อมานานประมาณ เกือบ ๆ 4 ปีเห็นจะได้ คือไม่สนิทเท่าไร แต่พูดคุยกันได้ และตอนนี้เพื่อนมีลูกแล้ว แต่มีเพื่อนน้อย เพื่อนแต่งงานกับวิศวกร (สามี)ที่เก่งมาก และตัวเพื่อนเองก็จบมหาลัยเอกชน ก็เกียรตินิยมอันดับ 2 ด้านภาษาต่างประเทศ คือเหมาะสม ถึงไม่รวยมาก แต่ก็เกินปานกลาง พอแต่งงานก็ไม่ได้ติดต่อใคร แต่ทราบว่ามีลูก ณ ปัจจุบันก็จะ 7 ขวบกว่าแล้ว ได้โทรไปหาเพื่อน เพราะตอนนี้เรามีลูก 4 ขวบกว่า ก็หาข้อมูลเรื่องการเรียนเป็นหลัก และอาศัยถามคนอื่นด้วย และไม่อายที่จะถามด้วย เพราะคิดว่ายิ่งรู้มาก ก็ยิ่งดี จึงได้โทรไปหาเพื่อน และถามเรื่องลูก สิ่งที่ได้รับ คือ การปล่อยโฮอย่างแรง ร้องไห้จะเป็นจะตายเดี๋ยวนั้น  เราก็ตกใจ เฮ้ย! แกเป็นไร?

เพื่อนบอกว่า อึดอัด จะบ้าอยู่แล้ว ปรึกษาใครก็ไม่ได้ ทุกวันนี้มันถูกตราหน้าว่าเป็นคนผิด “ผิดอย่างร้ายกาจ” จากครอบครัวสามี และแม่ตัวเอง ปรึกษาใครก็ไม่ได้ เพราะพื้นฐานคือ ทั้งสามีและเพื่อน เป็นคนเสียเงินเท่าไรเท่ากัน แต่อายหรือไม่สมบูรณ์ไม่ได้ ดังนั้น จึงไม่ปรึกษาใครเลย เพราะอายและไม่อยากให้ใครดูถูก เรื่องของเรื่องก็คือ

ลูกชายเข้าเรียนตอน 3 ขวบกว่านิด ๆ ได้เข้าเรียนในระดับโรงเรียนดังเลย ค่าเทอมเป็นแสน เพื่อนดี สังคมดูดี เพอร์เฟค และโรงเรียนเป็นที่หมายตากันมาก ที่นี้โรงเรียนดัง พ่อแม่ต่างก็ผลักและดันกันสุดฤทธิ์ เงินพร้อมซะอย่าง ก็คุยกันต้องติวอย่างนั้น ต้องครูคนนี้ ฝรั่งคนนี้ ต้องเรียนนี้เสริม เพื่อนก็เป็นเช่นนั้น และบอกว่าก็มีการเก็บที่เด็ด ๆ ไว้ไม่บอกใครก็มี……..ฮื่อ….

ที่นี้ ลูกเรียนวันจันทร์ – ศุกร์ ตั้งแต่เช้ายัน 6 โมงเย็น และเป็นอย่างงี้ มาตั้งแต่ อนุบาล 1 ถึง 3 เข้านอน ไม่เกิน 3 ทุ่ม เพราะต้องตื่นเช้าไปส่ง ตื่นตอน ตี 5 ครึ่ง เพราะเพื่อนมีบ้านในหมู่บ้านใหญ่แห่งหนึ่ง ซึ่งอยู่นอกเขตและห่างจากโรงเรียนค่อน ข้างมาก ออกจากบ้านไม่เกิน 6 โมงเช้าเท่านั้น และไปถึงโรงเรียนประมาณ เกือบ 7 โมง

วันเสาร์เรียนพิเศษเสริม เริ่ม 8 โมงเช้าถึงบ่ายโมง และตอนบ่าย 3 เรียนว่ายน้ำ จึงได้กลับบ้าน ส่วนวันอาทิตย์ ครึ่งวันเช้าเรียนที่สถาบันคุมองเสริม ครึ่งวันหลังผักผ่อน และตอน 1 ทุ่มของวันอาทิตย์ ต้องทบทวนงานและเตรียมความพร้อมเพื่อไปเรียนวันจันทร์ และรับคำแนะนำจากพ่อและแม่ต่อ เสร็จแล้วไม่เกิน 3 ทุ่มต้องเข้านอน

อ่านต่อ >> เรื่องราวดังกล่าว คลิก!

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up