เชื่อว่าพ่อแม่ทุกคนย่อมเป็นห่วงลูก โดยเฉพาะลูกในวัยที่เข้าเรียนแล้ว แต่จะรู้ได้อย่างไรว่า ลูกมีปัญหาที่โรงเรียน หรือ ลูกถูกเพื่อนแกล้ง หรือไม่? จะถามตรงๆ ลูกคงไม่บอก ตามมาดู 30 คำถามหลังเลิกเรียน ที่อาจจะช่วยไขปริศนาได้
รวม 30 คำถามหลังเลิกเรียน
ไขปริศนา ลูกถูกเพื่อนแกล้ง หรือไม่?
สำหรับลูกรัก ในวัยที่เริ่มไปโรงเรียนได้เจอสังคมข้างนอกเต็มตัว คุณพ่อคุณแม่ก็มักอยากรู้ความเป็นไปหรือสุขทุกข์แต่ละวันของลูก แต่บางครั้งการถาม คำถามหลังเลิกเรียน แบบตรงๆ ว่า “วันนี้ที่โรงเรียนเป็นอย่างไรบ้างลูก” หรือ “หนูชอบโรงเรียนไหมจ๊ะ” อาจไม่ได้คำตอบที่ถูกต้อง เพราะแม้แต่นักเรียนใหม่ตัวน้อยเองก็ยังตอบไม่ได้ หรือไม่อยากยอมรับว่า พวกเขามีปัญหาอะไร หรือ ลูกถูกเพื่อนรังแก ที่โรงเรียนหรือเปล่า?
เราจึงมีข้อสังเกตบางอย่างให้คุณพ่อคุณแม่ได้นำไปลองใช้ยามเด็กน้อยวัยเรียนไม่ยอมเปิดปาก จากศาสตราจารย์วอลลี่ ก็อดดาร์ด ผู้เชี่ยวชาญด้านชีวิตครอบครัว จากมหาวิทยาลัยอาร์คันซอ และผู้เขียนหนังสือ “The Soft-Spoken Parent” มาฝากค่ะ
- ดูความพร้อมก่อน ไม่เร่งจะดีกว่า
เพิ่งรับขึ้นรถปุ๊บก็ถามปั๊บอาจไม่ใช่จังหวะที่ดีนัก เพราะเด็กหลายๆ คนก็ยังไม่พร้อมที่จะทบทวนเหตุการณ์ต่างๆ จนกว่าจะรู้สึกว่าวันนี้ได้ผ่านไปแล้ว ดังนั้น การอดใจเก็บคำถามนี้ไว้ตอนเย็น เช่น หลังอาหารเย็นหรือก่อนเข้านอนที่ทั้งลูกและคุณก็สบายใจผ่อนคลายกันแล้วหรือตอนกำลังอารมณ์ดีๆ จะเข้าท่ากว่าค่ะ
- ชวนคุยให้ตรงประเด็น
ในวันที่ลูกดูไม่อยากพูดหรืออยากช่วยให้ลูกพูดง่ายขึ้น ควรหลีกเลี่ยงคำถามกว้างที่สุดในสามโลกอย่าง “วันนี้สนุกไหม” คำถามที่เหมาะควรเป็นคำถามแสดงความใส่ใจหรือคำถามที่ลูกรู้สึกได้ว่าพูดแล้วคุณกำลังฟังเขาแน่ๆ เช่น “วันนี้ลูกผสมสีอย่างที่เราทดลองกันวันก่อนหรือเปล่า แม่เห็นลูกชอบมากเลย แม่ก็ว่าสวยดีนะ เพื่อนๆ น่าจะได้เห็น”
- ควบคุมอารมณ์ให้อยู่ แม้ได้รู้ข้อมูลลบ
เมื่อลูกยอมเปิดปากบอกเราแล้วก็ไม่ใช่ว่าจะมีแต่เรื่องเล็กน้อยหรือเรื่องดีเสมอไป ดังนั้นสิ่งสำคัญยามคุยกับลูกคือการควบคุมอารมณ์และการตอบกลับของคุณ แม้แต่เมื่อคุณได้รับรู้เรื่องที่ทำให้ช็อกได้หรือเรื่องใหญ่ที่ต้องแก้ไขโดยด่วน เช่น ลูกถูกรังแก ปฏิกิริยาแรกที่แนะนำคือ แสดงความเข้าใจ เห็นอกเห็นใจรับฟังลูกในสถานการณ์นั้น และต้องให้ลูกรู้ว่าคุณพร้อมจะช่วยลูกเสมอ ส่วนการแก้ปัญหาเร่งด่วนอื่นๆ ก็ค่อยว่ากันไป
ชวนลูกเล่าเรื่องที่โรงเรียน
สำหรับวิธีไขปริศนาปัญหาที่โรงเรียนของลูก ตามที่ผู้เชี่ยวชาญแนะนำคือ สังเกตจากอาการผิดปกติของลูก และหมั่นถามลูกอ้อมๆ ด้วยคำถามปลายเปิด หากเป็นกรณีปกติ ลูกจะเล่าให้คุณฟังอย่างคล่องแคล่ว เพราะเด็กวัยนี้ชอบพูดชอบคุยอยู่แล้ว แต่ถ้าเขาหงุดหงิดหรือบ่ายเบี่ยงไม่ยอมตอบคำถามเมื่อไร อาจหมายความว่า ลูกไม่มีความสุขจนไม่อยากพูดถึงหรือมีเรื่องอะไรอยู่ในใจ
-
วันนี้หนูเรียนอะไรบ้าง?
-
มีอะไรสนุกๆ บ้างไหม?
-
ตอนกลางวันหนูกินอะไรบ้าง?
-
ตอนพักกลางวันหนูเล่นอะไร?
-
เรื่องอะไรที่ตลกที่สุดในวันนี้?
-
มีใครทำอะไรให้หนูประทับใจบ้าง?
-
เรื่องดีๆ ที่หนูทำให้เพื่อนวันนี้คืออะไร?
-
ใครทำให้หนูยิ้มบ้าง?
-
ใครโดนครูดุบ้างวันนี้? เพราะอะไร?
-
หนูได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ บ้าง?
-
อาหารอะไรอร่อยที่สุดวันนี้?
-
อะไรที่หนูคิดว่ายากที่สุดในวันนี้? (คำถามอาจช่วยเคลียร์ข้อสงสัย ลูกถูกเพื่อนแกล้ง)
-
อะไรที่หนูคิดว่าง่ายที่สุดในวันนี้?
-
ไปโรงเรียนวันนี้สนุกแค่ไหน? ให้คะแนนตั้งแต่ 1-10 เพราะอะไร?
-
ถ้าให้เลือกเพื่อนหนึ่งคนเป็นคุณครูหนึ่งวัน หนูจะเลือกใคร? เพราะอะไร? (คำถามอาจช่วยเคลียร์ข้อสงสัย ลูกโดนเพื่อนแกล้ง)
-
ถ้าพรุ่งนี้หนูได้เป็นคุณครูหนึ่งวัน หนูจะสอนอะไร? เพราะอะไร?
-
มีใครพูดอะไรให้หนูโกรธหรือเสียใจไหม? (คำถามอาจช่วยเคลียร์ข้อสงสัย ลูกโดนเพื่อนแกล้ง)
-
ใครคือคนที่หนูอยากคุยด้วย แต่ยังไม่ได้คุยเสียที? เพราะอะไร?
-
เพื่อน / คุณครู คนไหนที่หนูชอบที่สุด?
-
วันนี้คุณครูประจำชั้นใส่เสื้อสีอะไร?
-
หนูชอบทำอะไรมากที่สุดตอนพักกลางวัน?
-
บอกชื่อเพื่อนที่ดีที่สุดของหนูให้แม่รู้จักสัก 3 คนหน่อยสิจ๊ะ
-
หนูเรียนรู้อะไรเกี่ยวกับเพื่อนบ้างวันนี้?
-
เพื่อนคนไหนในห้องที่น่ารักที่สุดในวันนี้?
-
เพื่อนคนไหนที่ดื้อที่สุดในวันนี้? (คำถามอาจช่วยเคลียร์ข้อสงสัย ลูกโดนเพื่อนแกล้ง)
-
มีใครเกเรไหม? (คำถามอาจช่วยเคลียร์ข้อสงสัย ลูกโดนเพื่อนแกล้ง)
-
เรื่องอะไรที่หนูภูมิใจที่สุดในวันนี้?
-
ถ้าสัตว์ประหลาดมาที่โรงเรียน หนูอยากให้สัตว์ประหลาดจับใครไปบ้าง? เพราะอะไร?
-
วันนี้เพื่อนคนไหนในห้องได้รับคำชื่นชมมากที่สุด?
-
ที่ไหนในโรงเรียนที่สนุกที่สุด?
อย่างไรก็ตาม จากทั้ง 30 คำถามหลังเลิกเรียน ไขปริศนาว่า ลูกถูกเพื่อนแกล้ง หรือ ลูกมีปัญหาที่โรงเรียน หรือไม่? นั้นไม่จำเป็นต้องถามทุกคำถามในวันเดียวกัน แต่ควรถามสลับสับเปลี่ยนกันไปเพื่อทราบความเป็นไปของลูก นอกจากนี้ การพูดคุยกับคุณครูก็ช่วยให้คุณแม่ทราบความเป็นไปของลูกที่โรงเรียนได้อีกทางหนึ่ง เพราะคุณครูอยู่กับลูกของคุณถึง 5 วันต่อสัปดาห์ พวกเขาอาจมองเห็นปัญหาที่คุณไม่มีทางรู้ เช่น การเข้ากลุ่มเพื่อน ปัญหาด้านการเรียน หรือแม้แต่เรื่องที่ลูกเล่นกีฬาไม่เก่ง ถ้าเป็นไปได้ โดยควรพูดคุยกับคุณครูหลายๆ คน ไม่เฉพาะคุณครูประจำชั้นค่ะ
อ่านต่อบทความน่าสนใจ คลิก!
- คำถามที่ควรถาม หลังลูกกลับจากโรงเรียน
- ลูกไม่อยากคุยกับพ่อแม่ กับ 8 เหตุผลของเด็กยุคใหม่
- 5 สัญญาณเตือน “ลูกอาจมีปัญหาที่โรงเรียน”
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่