คุณคิดว่าลูกยังต้องนอนกลางวันทุกๆ วัน และรู้ดีว่าตัวเองชื่นชอบช่วงเวลาที่จะได้พักหรือนั่งทำสิ่งที่ชอบอย่างเงียบๆ นี้เพียงไร แต่เจ้าตัวแสบกลับไม่เห็นด้วยเอาซะเลยไม่ใช่เรื่องแปลกที่เด็กวัย 2 หรือ 3 ขวบจะเริ่มต่อต้านการนอนกลางวัน เพราะเด็กวัยนี้ชอบสำรวจสิ่งรอบตัว และการนอนหลับก็ไม่ใช่เรื่องสนุกในสายตาของเด็กๆ (ก็หลับแล้วจะไปสำรวจอะไรได้ล่ะ!) แต่เด็กส่วนใหญ่ก็ยังคงต้องนอนมากกว่าจำนวนชั่วโมงที่ได้นอนตอนกลางคืน คือรวมแล้วแต่ละวันต้องนอนให้ได้ถึงราว 12 – 14 ชั่วโมง จึงจำเป็นต้องนอนกลางวันต่อไป (แม้เจ้าตัวจะยืนยันว่าไม่ง่วงเลย!)
คุณจึงควรพยายามให้ลูกนอนกลางวันต่อไปจนถึง 4 ขวบ ซึ่งเป็นวัยที่เขาน่าจะพร้อมสำหรับการเลิกนอนกลางวันแล้ว หากในวันที่ไม่ได้นอนกลางวัน เขาไม่ได้งอแงหรือง่วงตอนบ่ายๆ ตอนกลางคืนเขาหลับยากขึ้นหรือต้องใช้เวลานานขึ้นกว่าจะหลับหากจะให้แน่ใจ ลองลดเวลานอนกลางวันหรือขยับเวลาให้เร็วขึ้น ถ้าเขาหลับตอนกลางคืนได้เหมือนเดิม ไม่ได้หลับยากอีกต่อไปก็ให้นอนกลางวันต่อไปได้
ถ้าลูกยังต้องการนอนกลางวัน แต่กว่าจะหลับก็ช่างยากเย็นเสียเหลือเกิน เรามีวิธีแก้!
1. ทำกิจวัตรช่วงก่อนนอนให้สม่ำเสมอ
เช่น อ่านนิทานหรือร้องเพลงกล่อม แล้วพาไปนอนในห้องที่เงียบๆ มืดๆ หน่อย ถ้ายังไม่หลับก็ให้เขานั่งทำกิจกรรมเงียบๆ บนเตียง เช่น อ่านนิทาน หรือต่อจิ๊กซอว์ (ไม่ใช่เปิดทีวีให้ดูหรือให้เล่นเกมคอมพิวเตอร์) จนกว่าจะหลับ…แต่ถ้าไม่หลับก็ถือเป็นช่วงเวลาพักผ่อนก็แล้วกัน
2. ยืดหยุ่นให้ลูกบ้าง
เขาอาจไม่นอนกลางวันสัก 2 – 3 วัน แล้ววันต่อไปก็น็อกและกลับมานอนต่อไปอีก คอยสังเกตรูปแบบการนอนของลูกสักระยะ และมีความสุขกับการ ”พักยก” ช่วงสั้นๆ ในยามบ่ายไปจนกว่าเขาจะไม่ต้องการการนอนกลางวันแล้ว
บทความโดย: กองบรรณาธิการนิตยสารเรียลพาเรนติ้ง