ชวนลูกคุย ประโยคภาษาอังกฤษ โต้ตอบยาวๆไม่ยาก เพราะเด็กทุกคนพร้อมเรียนรู้ “เรื่องใหม่”ในทุกวัน คุณพ่อคุณแม่จึงสามารถฝึกฝนให้ลูกพูดภาษาอังกฤษตั้งแต่ยังเล็ก แม้จะยังพูดภาษาไทยไม่ชัด เรียบเรียงประโยคไม่เป็น แต่เด็กวัยนี้ก็พร้อมจะเรียนรู้ภาษาที่สองไปพร้อมๆกัน ผ่านการพูดคุยในชีวิตประจำวัน
ประโยคภาษาอังกฤษ ในชีวิตประจำวันที่เด็กอนุบาลควรรู้
ความพิเศษของการเรียนรู้ทักษะซึ่งต่างจากการเรียนรู้วิชาการอื่นๆตรงที่สามารถถ่ายทอดความรู้ผ่าน “การเลียนแบบ” ได้ตั้งแต่วัยหัดพูด เด็กจะค่อยๆซึมซับภาษาจากสังเกต ฟัง และจดจำภาษา สำเนียง และคำพูดที่พ่อแม่พูดคุยด้วยตัวเองโดยไม่ต้องมีใครสอน ยิ่งพ่อแม่พูดคุยด้วยภาษานั้นมากเท่าไร ลูกก็จะเรียนรู้ได้เร็วเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นภาษาไทย ภาษาอังกฤษ หรือภาษาใดๆก็ตาม
3 หลักช่วยพัฒนาทักษะภาษาผ่าน ประโยคภาษาอังกฤษ
การเรียนรู้ภาษาอังกฤษไม่ได้จำกัดอยู่ในเฉพาะโรงเรียนเท่านั้น คุณพ่อคุณแม่เป็นตัวช่วยสำคัญในการผลักดันมีทักษะด้านภาษาที่ดีได้ ซึ่งอาศัยวิธีการหลักๆ ดังต่อไปนี้
สร้างสิ่งแวดล้อมที่ใช้ภาษาอังกฤษ
คุณพ่อคุณแม่ควรใช้ภาษาอังกฤษพูดคุยกับลูกบ่อยๆ ไม่ว่าจะอยู่ที่บ้าน เที่ยวนอกบ้าน หรือระหว่างทำภารกิจต่างๆ อย่าคิดว่าการเรียนภาษาอังกฤษจะอยู่ในวิชาภาษาอังกฤษเท่านั้น หรือเวลาอยู่ที่โรงเรียนเท่านั้น เพราะยิ่งลูกคุ้นเคยกับการใช้ภาษาในชีวิตประจำวันมากเท่าไรก็จะช่วยให้รู้สึกมั่นใจ กล้าพูด กล้าถาม และมีทักษะที่ดีขึ้นเอง
MUST READ :เลี้ยงลูกคนเดียวทั้งวัน จะชวนคุยภาษาอังกฤษอะไรดี
MUST READ :คำตรงข้ามภาษาอังกฤษ น่ารู้มีอะไรบ้าง
ฝึกให้ลูกบอกเล่าเรื่องราวด้วยภาษาอังกฤษ
แม้วัยอนุบาลจะยังเล่าเรื่องแบบปะติดประต่อยาวๆไม่ได้ แต่การเปิดโอกาสให้ลูกได้ลองบอกความรู้สึก ความต้องการ หรือเรื่องราวที่พบเจอมาด้วยภาษาอังกฤษ
สร้างความมั่นใจเมื่อพูดภาษาอังกฤษ
เพราะเป็นภาษาต่างชาติ เด็กหลายคนอาจรู้สึกไม่มั่นใจที่จะพูดออกไป กลัวว่าจะพูดผิด กลัวออกเสียงไม่ถูก ถ้าพ่อแม่นำคำศัพท์หรือ ประโยคภาษาอังกฤษ ของเด็กอนุบาลมาพูดด้วยบ่อยๆ รับฟัง พยายามทำความเข้าใจในสิ่งที่ลูกพูด มากกว่ามัวจับผิดว่าพูดไม่ถูกหลักไวยากรณ์ หรือพูดภาษาอังกฤษสำเนียงไทย รวมทั้งไม่ลืมที่จะเปิดโอกาสให้ลูกได้เรียนรู้ผ่านสื่อต่างๆ และการพูดคุยกับเจ้าของภาษา ลูกก็จะรู้สึกเชื่อมั่นในตัวเองและกล้าใช้ภาษาอังกฤษกับทุกสถานการณ์แล้ว
40 ประโยคภาษาอังกฤษ บทสนทนาน่ารู้สำหรับเด็กอนุบาล
ถ้าคุณพ่อคุณแม่อยากให้ลูกเก่งอังกฤษ ลองพูดคุยกับลูกด้วยบทสนทนาง่ายๆ ระหว่างใช้เวลาร่วมกัน แถมการพูดคุยภาษาอังกฤษกับคนคุ้นเคยยังให้บรรยากาศที่อบอุ่นเป็นกันเอง แต่ถ้ายังนึกไม่ออกว่าจะเริ่มหยิบเอาสถานการณ์ไหนมาพูดได้บ้าง ทีมแม่abk ได้รวบรวม ประโยคภาษาอังกฤษ ที่มักพูดกันบ่อยๆในชีวิตประจำวันมาให้ลองหัดพูดกัน หรือบ้านไหนนึกสนุกจะยกมาเล่นบทบาทสมมติด้วยกันก็ได้นะคะ
ประโยคภาษาอังกฤษ บนโต๊ะอาหาร
Mom: “Let’s have breakfast, darling.” (เล็ตส์-แฮฟ-เบรกฟาสต์. ดาร์ลิง)
[กินข้าวกันเถอะ ลูกรัก]
Child: “Sure, I’m so hungry.” (ชัวร์, แอม-โซ-ฮังกรี)
[ค่ะแม่ หนูหิวจังเลย]
Mom: “I have fried chicken for you.” (ไอ-แฮฟ-ไฟรด์-ชิกเกน-ฟอร์-ยู)
[แม่ทำไก่ทอดให้หนูด้วยนะจ๊ะ]
Child: “Wow, that’s my favorite food.” (ว้าว, แดทส์-มาย-เฟเวอริตซ์-ฟูด)
[ว้าว ของโปรดของหนูเลยค่ะ]
Mom: “Great. So, let’s wash our hands and enjoy the meal.” (เกรท. โซ, เล็ต’ส์-วอช-เอาเออร์-แฮนส์-แอนด์-เอ็น-จอย-เดอะ-มีล) [ดีเลยจ้ะ งั้นล้างมือแล้วมากินข้าวกันนะ]
ประโยคภาษาอังกฤษ อาบน้ำแต่งตัว
Mom: “Bath time, my son. Please take off your clothes.” (บาธ-ไทม์, มาย-ซัน. พลีส-เทค-ออฟ-ยัวร์-โคลส)
[ได้เวลาอาบน้ำแล้วจ้ะลูก ถอดเสื้อผ้าเลยนะ]
Child: “Do I have to wash my hair?” (ดู-ไอ-แฮฟ-ทู-วอช-มาย-แฮร์)
[ต้องสระผมด้วยไหมครับ]
Mom: “You had a lot of fun today. I think you should.” (ยู-แฮด-อะ-ล็อท-ออฟ-ฟัน-ทูเดย์. ไอ-ธิง-ยู-ชูด)
[วันนี้ลูกเล่นสนุกเต็มที่เลยนี่นา แม่ว่าสระก็ดีนะ]
Child: “I like washing my hair. I love the smell of shampoo.” (ไอ-ไลค์-วอชชิง-มาย-แฮร์. ไอ-เลิฟ-เดอะ-สเมล-ออฟ-แชมพู)
[ผมชอบสระผมครับ ผมชอบกลิ่นแชมพู]
Mom: “That’s good. This is your towel.” (แดด’ส-กูด. ดิส-อิส-ยัวร์-เทาเอล)
[ดีเลยจ้ะ นี่ผ้าเช็ดตัวนะ]
Child: “Thank you.” (แทง-คิว)
[ขอบคุณครับ]
ชวนลูกมาคุย ประโยคภาษาอังกฤษ ตอนเข้านอน
Mom: “It’s bed time. You have to go to school tomorrow” (อิต’ส-เบด-ไทม์. ยู-แฮฟ-ทู-โก-ทู-สคูล-ทูมอร์โรว์)
[ได้เวลานอนแล้วจ้ะ พรุ่งนี้ลูกต้องไปโรงเรียนนะ]
Child: “But the story is so much fun. Can you read it again ? ” (บัท-เดอะ-สตอรี-อิส-โซ-มัช-ฟัน. แคน-ยู-รีด-อิท-อะเกน)
[แต่นิทานสนุกมากเลยค่ะ แม่อ่านต่ออีกได้ไหม]
Mom: “Um…but it’s getting late and mommy is so sleepy, shall we read again tomorrow ? ”(อืม…บัท-อิต’ส-เก็ตติง-เลท-แอนด์-มอมมี-อิส-โซ-สลีพพี, แชล-วี-รีด-อะเกน-ทูมอร์โรว์)
[อืม…แต่มันดึกแล้วนะ แล้วคุณแม่ก็ง่วงมากเลยจ้ะ เราอ่านกันใหม่พรุ่งนี้ได้มั้ย]
Child: “OK. I feel sleepy too.” (โอเค. ไอ-ฟีล-สลีพพี-ทู)
[โอเคค่ะ หนูก็ง่วงเหมือนกันแหละ]
Mom: “Have a sweet dream, my dear” (แฮฟ-อะ-สวีท-ดรีม, มาย-เดียร์)
[หลับฝันดีนะจ๊ะลูก]
Child: “Good night.” (กูด-ไนท์)
[ราตรีสวัสดิ์ค่ะ]
บทสนทนาภาษาอังกฤษ ตอนไปโรงเรียน
Child: “Good morning teacher” (กูด-มอร์นิง-ทีชเชอร์)
[สวัสดีค่ะคุณครู]
Teacher: “Good morning, how are you today?” (กูด-มอร์นิง, ฮาว-อาร์-ยู-ทูเดย์)
[สวัสดีจ้ะ วันนี้เป็นยังไงบ้าง]
Child: “Very well and how about you?” (เวรี-เวล-แอนด์-ฮาว-อะเบาท์-ยู)
[สบายดีค่ะ แล้วคุณครูล่ะคะ]
Teacher: “I’m fine. Thank you. Your friends are playing at the playground.”(แอม-ไฟน์. แทง-คิว. ยัวร์-เฟรนส์-อาร์-เพลอิง-แอท-เดอะ-เพลกราวด์)
[สบายดีจ้ะ ขอบใจนะ เพื่อนๆ เขาเล่นกันอยู่ในสนามเด็กเล่นแน่ะ]
Child: “So, I will store my bag and join them.” (โซ, ไอ-วิว-สตอร์-มาย-แบ็ก-แอนด์-จอยน์-เดม)
[งั้นหนูเอากระเป๋าไปเก็บแล้วไปเล่นกับเพื่อนนะคะ]
Teacher: “Sure, when the bell rings, please go to the classroom.” (ชัวร์, เวน-เดอะ-เบลล์-ริงส์, พลีส-โก-ทู-เดอะ-คลาสรูม)
[จ้า ถ้าออดดังแล้วก็ไปเข้าห้องนะ]
Child: “OK, teacher.” (โอเค, ทิชเชอร์)
[ค่ะคุณครู]
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
บทสนทนาภาษาอังกฤษ ตอนกินอาหารเย็น
Dad: “What do you want to eat?” (วอท-ดู-ยู-วอนท์-ทู-อีท)
[กินอะไรดีลูก]
Child: “Can I have the menu please?” (แคน-ไอ-แฮฟ-เดอะ-เมนู-พลีส)
[ขอดูเมนูหน่อยครับ]
Dad: “Yes, here you are. You can look at the pictures.” (เยส, เฮียร์-ยู-อาร์)
[ได้สิ นี่ไง]
Child: “I want this fried rice.” (ไอ-วอนท์-ดิส-ฟรายด์-ไรซ์)
[ผมเอาข้าวผัดแบบนี้ครับ]
Dad: “OK. Wait a moment. I will order it for you.” (โอเค. เวท-อะ-โมเมนท์)
[โอเค รอแป๊บหนึ่งนะ]
Child: “Can I have some water please?” (แคน-ไอ-แฮฟ-ซัม-วอเตอร์-พลีส)
[ขอน้ำหน่อยครับพ่อ]
Dad: “Sure, here you are. And this is your plate, spoon and fork.” (ชัวร์ เฮียร์-ยู-อาร์. แอนด์-ดิส-อีส-ยัวร์-เพลต-สพูน-แอนด์-ฟอร์ก)
[ได้เลย เอ้านี่ แล้วนี่ก็จาน ช้อน กับส้อม]
Child: “Thank you, Daddy.” (แทง-คิว, แดดดี)
[ขอบคุณครับพ่อ]
ชวนลูกคุยภาษาอังกฤษ ตอนไปหาคุณหมอ
Doctor: “Hello boy. What is your name?” (ฮัลโหล-บอย. วอท-อิส-ยัวร์-เนม)
[สวัสดีหนุ่มน้อย หนูชื่ออะไรครับ]
Child: “My name is Tim” (มาย-เนม-อิส-ทิม)
[ผมชื่อทิมครับ]
Doctor: “Alright Tim. How do you feel?” (ออลไรท์-ทิม. ฮาว-ดู-ยู-ฟีล)
[เอาละ ทิม หนูรู้สึกยังไงบ้าง]
Child: “I have got a headache, cough and sneeze.” (ไอ-แฮฟ-ก็อท-อะ-เฮดเอค, คอฟ-แอนด์-สนีซ)
[ผมปวดหัว ไอ แล้วก็จาม]
Doctor: “Let me have a look.” (เล็ท-มี-แฮฟ-อะ-ลุค)
[ไหนหมอขอดูหน่อยซิ]
Child: “OK.” (โอเค)
[ครับ]
Doctor: “You have a cold. It is not serious. Just take a rest and have some medicines. You will get better.” (ยู-แฮฟ-อะ-โคลด์. อิท-อิส-น็อท-ซีเรียส. จัส-เทค-อะ-เรส-แอนด์-แฮฟ-ซัม-เมดิซิน. ยู-วิว-เก็ท-เบทเทอร์)
[เป็นหวัดน่ะ ไม่หนักมาก พักผ่อนกินยาเดี๋ยวก็หายนะ]
Child: “OK. Thank you, doctor.” (โอเค. แทงคิว-ดอกเตอร์)
[ครับ ขอบคุณครับ คุณหมอ]
ทั้งหมดนี้คือตัวอย่าง ประโยคภาษาอังกฤษ สำหรับเด็กอนุบาลแบบง่ายๆ ที่คุณพ่อคุณแม่สามารถนำไปปรับใช้กับลูกๆ วัยอนุบาลได้ คำศัพท์ที่ใช้พูดกับลูกอาจเป็นคำง่ายๆ ในประโยคที่ไม่ซับซ้อน ที่สำคัญ อย่าลืมสร้างบรรยากาศการเรียนรู้แบบสบายๆ ไม่เคร่งเครียด ซึ่งจะช่วยส่งเสริมให้รู้สนุกกับการเรียนภาษาอังกฤษมากขึ้นด้วยค่ะ
บทความน่าสนใจอื่นๆ
รวม ใบงานภาษาอังกฤษ เหมาะสำหรับวัยอนุบาล และเตรียมความพร้อมก่อนเข้า ป.1
แจกฟรี! ไฟล์ ฝึกเขียนภาษาอังกฤษ เริ่มจากลากเส้นจนเขียนเป็นคำได้