ไอคิวกับอีคิว แตกต่างกันอย่างไร?
- ไอคิวนั้น เป็นเรื่องราวของความฉลาดทางเชาว์ปัญญา ซึ่งแต่ละบุคคลมีติดตัวมาตั้งแต่กำเนิด และอาจมีระดับไม่เท่ากับ ซึ่งสามารถวัดและประเมินออกมาเป็นตัวเลขที่แน่นอนได้
- ส่วน อีคิว เป็นความฉลาดทางอารมณ์ซึ่งสามารถเรียนรู้และพัฒนาได้ โดยไม่สามารถวัดและประเมินออกมาเป็นค่าที่แน่นอนได้
ดังจะเห็นได้ว่า ไอคิวนั้นเป็นความฉลาดทางสติปัญญาที่มีติดตัวมาตั้งแต่กำเนิด และไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ โดยเป็นความฉลาดทางด้านการคิด การใช้เหตุผล การคำนวณ ความจำ และการเชื่อมโยง ซึ่งสามารถวัดและประเมินออกมาเป็นค่าที่แน่นอนได้นั่นเองค่ะ
พญ.พรรณพิมล วิปุลากร รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุขเผยว่า ให้ลูกฉลาดอย่างเดียวก็คงจะไม่เพียงต้องให้ลูกเป็นคนดีด้วย พร้อมแนะ 3 วิธีเสริมดังนี้
- ทักษะด้านการคิด เป็นการใช้คณิตศาสตร์เข้ามาเสริม เช่น ความเข้าใจเรื่องจำนวน ความสามารถในการแยกสิ่งที่เหมือนกัน ต่างกัน ความสามารถแก้โจทย์ที่เป็นตัวตั้งต้นนำไปสู่การแก้ไขปัญหา ตรงนี้จะส่งผลต่อการคิดของเด็ก เพราะเขาจะเข้าใจตรรกะ เข้าใจเรื่องเหตุและผล
- ทักษะการใช้ภาษา สามารถฝึกได้โดย ผ่านกระบวนการพูดคุย การอ่านหรือใช้เรื่องเล่าต่าง ๆ ว่าแต่ละสถานการณ์เด็กควรทำอย่างไร ภาษาเป็นช่องทางนำไปสู่ความเข้าใจ ไม่ว่าจะเป็นการเล่าเรื่องของตัวเด็กเองให้คนอื่นเข้าใจ หรือเขาสามารถคุยกับคนอื่น ไม่ว่าเพื่อนวัยเดียวกันหรือคนรอบข้าง
- ทักษะด้านอารมณ์ พ่อแม่ ผู้ปกครอง ครู ผู้ดูแลเด็กในศูนย์เด็กเล็กควรสร้างสัมพันธภาพที่ดีกับเด็ก รวมทั้งส่งเสริมให้เด็กมีจิตอาสา ทำสาธารณประโยชน์ ตลอดจนสังเกตทักษะด้านอารมณ์ของเด็ก รู้จักทำอะไรให้กับคนอื่น ซึ่งตรงนี้ต้องออกแบบให้เด็กรู้สึกสนุกที่อยากทำอย่างนั้น เวลาเห็นคนอื่นมีความสุขจะทำให้เด็กอยากทำ
จะเห็นได้ว่า เราจะเลี้ยงลูกให้ฉลาดอย่างเดียวเลยก็คงไม่พอ ดังนั้นเรามาส่งเสริมให้ลูกน้อยของเราทั้งฉลาดและเป็นคนดี เพื่อให้พวกเขาเติบโตไปเป็นผู้ใหญ่ที่ดีของสังคมกันดีกว่านะคะ
เครดิต: กรมสุขภาพจิต
อ่านต่อเนื้อหาอื่นที่น่าสนใจ:
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่