ที่บ้านมี “เด็กมารตัวน้อย”
ตอนทารกแรกเกิด สมองของเด็กเปรียบเสมือนกับจักรวาลที่เพิ่งอุบัติขึ้น ทุกสิ่งทุกอย่างยังไม่ได้รับการแยกแยะจำแนก เลยยังไม่มีระเบียบลำดับใดๆ ดังนั้น การเติบโตและพัฒนาการทางสมองของเด็กก็เป็นโครงการอันใหญ่หลวงราวกับการสร้างโลก – นาย ซุน เร่ เสี่ย (นักจิตวิทยาเด็ก)
พวกแม่ๆ ของเด็กเล็กชอบบ่นว่า ลูกถึงอายุ 2 ขวบ ยิ่งซนกว่าเดิม ปีนขึ้นโต๊ะ ซ่อนตัวใต้โซฟา ขี่หลังอาก๋ง หรือไม่ก็ฉีกหนังสือ ขีดเขียนบนแผ่น CD จนเสียหมด วาดมั่วบนกำแพง… ปลาในอ่างน้ำถูกจับเล่น ดอกไม้ของอาก๋งต้องสูญเสียใบและกลีบทุกวัน ตัวเองก่อกรรมทำชั่วแล้วยังไม่ยอมให้คนอื่นว่า พออาก๋งว่านิดหน่อยก็ร้องไห้ กัดมือตัวเองทำร้ายตัวเอง ทั้งยังพูดพร่ำแต่ว่า “ไม่เอา ไม่เอา” มาต่อต้าน โอ้ สมญานามว่า “เด็กมารตัวน้อย” จริงๆ
- เพราะอะไรจึงทำให้เด็กกลายเป็น “มารตัวน้อย”
ตั้งแต่อายุ 2 ขวบ เด็กจะค่อยๆ แยกตัวเองออกจากโลกรอบข้าง และมีความรู้สึกนึกคิดเป็นของตนเองเกิดขึ้น เขาเริ่มมีความประสงค์ที่จะหลุดพ้นจากการควบคุมของพ่อแม่ผู้ใหญ่ และยึดตัวเองเป็นศูนย์กลาง
ในขณะเดียวกัน ร่างกายของเด็กก็เติบโตขึ้น ขอบเขตการเคลื่อนไหวก็ขยายใหญ่ขึ้น ซึ่งทำให้เด็กมีความอยากรู้อยากเห็น และใจที่อยากทดลองหลายๆ สิ่ง เขาจะกระทำทุกอย่างตามใจชอบโดยไม่คำนึงถึงความรู้สึกของผู้อื่น พอเขาเจออุปสรรค์การขัดขวาง ก็จะแสดงท่าทีก้าวร้าวต่อต้านโดยการพูดเสียงดังว่า “ไม่เอา” และบอกคนอื่นว่า “นี่ของหนู” เมื่อเขาเห็นอะไรเป็นที่ชอบแล้วก็จะตั้งหน้าตั้งตาเอามาให้ได้ นับได้ว่าเด็กวัยนี้มีความยึดมั่นในความประสงค์ของตนเองอย่างมาก
ในช่วงวัย 2-3 ขวบนี้ เด็กจะมีความคิดมากมายและอยากลองทำหลายอย่าง ดังนั้น เขาจึงต่อต้านการสั่งห้ามของผู้ใหญ่ และไปค้นดูโลกที่เขาไม่รู้โดยลำพัง ในสายตาของผู้ใหญ่แล้วก็จะรู้สึกว่าเด็กเขาชอบก่อความวุ่นวายจังเลย
- ใช้ความรักมายอมรับพฤติกรรมการทำลายสิ่งของของเด็ก
เด็กมักจะวิ่งไปทั่วบ้าน “ทำการค้นคว้า ทุกแห่งหน” พ่อแม่ก็จะพยายามหยุดเด็กโดยอัตโนมัติ เพราะกลัวว่าลูกจะได้รับบาดเจ็บ พ่อแม่บางคนที่มีกลวิธี เลี้ยงลูกให้เป็นคนดี ก็จะพูดดีๆ กับเด็กหรือใช้ของล่อเพื่อให้เด็กหันเหความสนใจไปหาสิ่งอื่น แต่พ่อแม่อีกหลายๆ คนก็จะตวาดหรือตีลูก สำหรับพ่อแม่ที่ทำกับลูกแบบนี้ เขาอาจจะยังไม่ตระหนักว่าการทำเช่นนี้ ได้ทำให้จิตใจของลูกได้รับบาดเจ็บ
อ่านต่อ “ไม่ใช้ความรุนแรง และเผด็จการกับเด็ก” คลิกหน้า 3