6 เคล็ดลับสำหรับพ่อแม่หาก ลูกไม่เชื่อฟัง
- พยายามทำทุกอย่างให้ง่ายเข้าไว้ หลีกเลี่ยงการบอกให้ลูกทำทุกอย่างในครั้งเดียว ยกตัวอย่างเช่น ตื่นเช้ามาเดี๋ยวรีบแปรงฟัน อาบน้ำแต่งตัว เสร็จแล้วรีบกินข้าว อย่าลืมหยิบกระเป๋ารองเท้า เอาขึ้นรถให้เรียบร้อยด้วย … สำหรับผู้ใหญ่เองฟังดู อาจง่ายใช่ไหมล่ะคะ แต่สำหรับเด็ก ๆ การที่เราบอกให้พวกเขาทำทุกอย่างในเวลาเดียวกันนั้น ทำได้ค่ะ แต่จะให้ลูกทำให้ครบนั้นมันยาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเป็นลูกเล็กด้วยแล้ว ดังนั้น ค่อย ๆ บอกเขาค่ะ อาจจะเป็นเชิงคำถามคำตอบว่า ตื่นเช้ามา หนูต้องทำอะไรบ้างจ้ะ แปรงฟัน เสร็จแล้วต้องทำอะไรต่อ ทั้งนี้ลูกก็จะค่อย ๆ จำ ทบทวนและค่อยๆ บอกและค่อยๆ ทำเอง เท่ากับเป็นการฝึกให้พวกเขาเรียงลำดับความสำคัญได้ไปในตัว
- เลือกใช้ภาษาที่สร้างสรรค์ และพยายามหลีกเลี่ยงคำว่า “อย่า” “ไม่” “ห้าม” ที่สำคัญที่สุดพยายามหลีกเลี่ยงคำพูดตำหนิติเตียน เช่น “ลูก..โตป่านนี้แล้วยัง…” หรือ “แม่อายคนอื่นจริง ๆ ที่ลูกทำอย่างนี้” การใช้ภาษาพูดเหล่านี้ลูกจะยิ่งไม่มีทางเชื่อฟังเราเลยค่ะ ดังนั้น ควรใช้คำพูดในเชิงบวกกับพวกเขามากกว่า เพราะนอกจากจะช่วยให้ลูกมีความมั่นใจในตัวเองและมีความสุขแล้วยังช่วยให้เขามีพฤติกรรมดีขึ้น และยอมฟังคุณพ่อคุณแม่ได้ง่ายขึ้นอีกด้วยค่ะ
- ใช้คำถามเป็นการเปิด หากคุณพ่อคุณแม่ต้องการให้ลูกคิดหรือเปิดใจ ควรใช้คำถามในการเปิดบทสนทนา ด้วยการถามคำถามที่ให้ลูกได้คิดและพูดความในใจออกมา ยกตัวอย่างเช่น แทนที่เราจะถามว่า “ไปเที่ยวงานวันเกิดเพื่อนมา สนุกไหม” ควรถามลูกว่า ” ไปงานวันเกิดเพื่อนมา ลูกคิดว่าอะไรน่าประทับใจที่สุด” เป็นต้น
- พยายามสบตาลูก เพราะดวงตาคือหน้าต่างของหัวใจ ดังนั้น การที่เราจะพูดกับลูกนั้น คุณพ่อคุณแม่ควรมองตาลูกไปด้วย แต่ต้องเป็นดวงตาที่มุ่งมั่นที่จะรับฟังและอ่อนโยน แทนการทำดวงตาที่ดุใส่ลูกนะคะ ยกตัวอย่างเช่น ก่อนที่จะเริ่มต้นพูดคุย คุณพ่อคุณแม่ควรสบตาเพื่อเชื่อมต่อการสื่อสารกับลูก อาจจำเป็นต้องก้มลงหรือนั่งลงเพื่อให้อยู่ในระดับเดียวกับลูก ไม่เพียงแต่เป็นมารยาทที่ดีแต่ยังช่วยให้เด็กและพ่อแม่ฟังซึ่งกันและกัน ก่อนที่จะบอกกล่าวอะไร พ่อแม่ควรเรียกชื่อลูกก่อนจนลูกเริ่มหันมาสบตา ช่วยให้ลูกพร้อมและตั้งใจที่จะฟังมากขึ้นได้ค่ะ
- หลีกเลี่ยงการบ่น หากคุณพ่อคุณแม่พบเห็นว่าลูก รื้อของเล่นเลอะเทอะและไม่ยอมเก็บละก็ แทนที่คุณพ่อคุณแม่จะพูดว่า “รื้อออกมาเล่นแล้วทำไมไม่เก็บ” ก็ให้เปลี่ยนเป็น “เล่นของเล่นสนุกไหมจ้ะ เล่นเสร็จแล้วเก็บของเล่นเข้าที่เรียบร้อยแล้วหรือยังเอ่ย” เป็นต้น
- เป็นตัวอย่างที่ดี การที่คุณพ่อคุณแม่จะให้ลูกรับฟังในสิ่งที่เราบอกลูกนั้น เราจะต้องทำเป็นตัวอย่างให้ลูกเห็นก่อนว่า เวลาที่พวกเขาขอร้องหรืออยากให้เราทำอะไรให้ เราเป็นผู้ฟังที่ดีแล้วหรือยัง ถ้ายังลองทำให้ลูกเห็นเป็นตัวอย่างดูสิคะว่า ไม่ว่าเราจะทำอะไรอยู่ก็ตาม หากลูกเรียกหรือขอร้องให้ทำ เรามักที่จะให้ความสำคัญและทำตามสิ่งที่พวกเขาขอเป็นอย่างแรก
หากคุณพ่อคุณแม่สามารถทำตาม 6 ข้อนี้ได้ละก็ การที่จะทำให้ลูกหันมาเชื่อฟังในสิ่งที่เราพูดนั้นก็ไม่ยากค่ะ คุณพ่อคุณแม่ก็จะได้ไม่ต้องพูดหรือสั่งให้ลูกทำอะไรซ้ำ ๆ หลาย ๆ รอบให้ต้องเหนื่อยอีกแล้วละค่ะ
เครดิต: Parents
อ่านต่อเรื่องอื่นที่น่าสนใจ:
- สอนลูกให้เชื่อฟัง ด้วย 5 หลักการจากคัมภีร์ไบเบิล
- สอนลูกให้มั่นใจในตัวเอง และเปลี่ยนปมด้อยให้มีคุณค่า
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่