วิธีรับมือ ” ลูกพูดไม่เพราะ “
ทั้งนี้ทั้งนั้นในบางครั้งผู้ใหญ่ยังให้ท้ายว่าพฤติกรรมนั้นสะท้อนว่าเด็กมีความเชื่อมั่นในตนเอง ยืนหยัดเพื่อตัวเอง และเป็นตัวของตัวเองอีกต่างหาก ซึ่งถึงแม้จะเป็นความจริง ก็คงไม่มีใครอยากรองรับพฤติกรรมหรือคำพูดแย่ๆ หรอก ปัญหานี้แก้ได้โดย
– วางแผนล่วงหน้า ตัดสินใจไว้ก่อนว่าถ้าลูกพูดไม่เพราะกับคุณ ผลที่ตามมาจะเป็นอย่างไร ขอแนะนำให้ยกเลิกสิ่งที่ลูกชอบ ซึ่งตามปกติต้องเกิดขึ้นภายในยี่สิบสี่ชั่วโมงข้างหน้า เช่น งดดูทีวีรายการโปรด หรืออดไปเล่นที่บ้านเพื่อน
– ตอบโต้แบบเด็ดขาด เช่น ห้ามใช้คำพูด (หรือน้ำเสียง) แบบนี้กับแม่นะ คราวนี้แม่จะทำโทษด้วยการไม่พาไปเล่นที่บ้านน้องจิม
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
– ห้ามต่อรอง ไม่ต้องให้โอกาสหรือให้ต่อรองโดยเลี่ยงคำว่า ถ้า (เช่น ถ้าลูกพูดแบบนี้อีก แม่จะ…) เพราะลูกจะจับได้ว่าคุณไม่เด็ดขาดจริง พ่อแม่มักใช้วิธีพูดมากเกินไป ทั้งที่การลงมืออย่างจริงจังได้ผลดีกว่ากันเยอะ
– อย่าใส่ใจครั้งต่อไป ที่เกิดขึ้นเพราะการทำโทษ ไม่ต้องอธิบายหรือให้เหตุผลใดๆ อีก และไม่ต้องทำโทษซ้ำอีกครั้งด้วย คุณอาจไม่สบายใจที่ต้องยกเลิกสิ่งที่เคยสัญญาไว้กับลูก เพราะรู้ว่าเป็นสิ่งที่ทำให้ลูกมีความสุข แต่เด็กๆ เรียนรู้ได้เร็วกว่าที่คิด พอเห็นคุณเอาจริงสัก 2 – 3 ครั้ง เขาก็จะเลิกพฤติกรรมนี้ไปได้เอง
อีกหนึ่งสิ่งสำคัญ คือ พ่อแม่ต้องไม่ลืมว่าเด็กบางคนอาจจะพูดเพราะสนุกปาก หรือเพื่อให้คนมองว่าเขาโตเป็นผู้ใหญ่และมีอำนาจ หรือพูดตามผู้ใหญ่ที่เขาใกล้ชิด หรือเขาพูดเพราะโมโหหรือโกรธเกรี้ยว หรือมีปัญหากับเพื่อนที่โรงเรียน ฯลฯ ถ้าผู้ใหญ่รู้ปัญหาก็สามารถแก้ไขให้ตรงจุด
จริงๆ แล้ว การพูดคำหยาบบ้างเป็นบางครั้งไม่ใช่เรื่องใหญ่โตถึงขนาดยอมความกันไม่ได้ เพียงแต่พ่อแม่ควรสร้างรากฐานให้ลูกเป็นเด็กที่พูดจาสุภาพเรียบร้อยมาตั้งแต่เล็ก ถ้าพ่อแม่เองหรือคนในบ้านระมัดระวังคำพูด และเป็นแบบอย่างที่ดีมาโดยตลอด ก็ช่วยได้ในระดับสำคัญแล้ว
เพียงแต่ปัจจุบัน เราก็ยอมรับว่าปัจจัยภายนอกมีส่วนสำคัญมากในการทำให้เด็กยุคนี้ใช้คำหยาบมากขึ้น ไม่ใช่เฉพาะปัจจัยเสี่ยงจากภายในบ้าน สภาพสิ่งแวดล้อม หรือสื่อรอบตัวเท่านั้น ยังมีตัวอย่างในสังคมอีกมากมายที่ทำให้เด็กเห็นทั้งคำพูดและความรุนแรง ไม่เว้นแม้แต่ผู้ที่ถูกเรียกว่าผู้ทรงเกียรติก็ยังใช้คำพูดหยาบคาย วาจาส่อเสียด และทำพฤติกรรมไม่เหมาะสมให้เด็กเห็นตำตาอยู่บ่อยครั้ง เพราะเด็กเชื่อและทำในสิ่งที่เห็นมากกว่าสิ่งที่พูดค่ะ
อ่านต่อบทความอื่นน่าสนใจ คลิก!
- สอนลูกเรื่องมารยาท ด้วยหนังสือนอกเวลา
- หยุด! ทำโทษลูกรุนแรงระวังผิดกฎหมาย
- 7 เรื่องพื้นฐานที่ควรสอนลูกให้ติดเป็นนิสัย! ตามแบบฉบับคนญี่ปุ่น
บทความโดย: กองบรรณาธิการนิตยสารเรียลพาเรนติ้ง
ขอบคุรข้อมูลจาก : www.manager.co.th