7 สัญญาณ อันตรายระหว่างตั้งครรภ์ แม่ท้องต้องรีบหาหมอ - Amarin Baby & Kids
สัญญาณอันตราย ระหว่างตั้งครรภ์

7 สัญญาณ อันตรายระหว่างตั้งครรภ์ ที่แม่ท้องต้องรีบหาหมอ

Alternative Textaccount_circle
event
สัญญาณอันตราย ระหว่างตั้งครรภ์
สัญญาณอันตราย ระหว่างตั้งครรภ์

ตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์ แม่ท้องต้องเจอกับอาการหลากหลายรูปแบบ ซึ่งไม่อาจทราบได้เลยว่าอาการแบบไหนปลอดภัยและ สัญญาณ อันตรายระหว่างตั้งครรภ์ แบบไหนที่ควรรีบไปพบแพทย์

7 สัญญาณ อันตรายระหว่างตั้งครรภ์ ที่แม่ท้องต้องรีบหาหมอ

เพราะลูกในท้องยังคงอ่อนแอเกินกว่าจะปกป้องตัวเองและป้องกันโรคภัยต่าง ๆ ด้วยตัวเอง จึงเป็นหน้าที่ของแม่ท้องทุกคนที่จะใช้ภูมิคุ้มกันของแม่มาช่วยป้องกันอันตรายให้ลูกในท้อง รวมถึงใช้ร่างกายตัวเองในการเลี้ยงให้ลูกในท้องเจริญเติบโตภายในท้องเป็นเวลา 9 เดือนเต็ม จนกว่าลูกในท้องจะแข็งแรงพอที่จะลืมตาออกมาสู่โลกภายนอก แต่ในช่วงที่ลูกยังอยู่ในท้อง เราจะไม่สามารถทราบได้เลยว่าลูกเป็นอย่างไรบ้าง กำลังเกิดอะไรขึ้นภายในท้องบ้าง ทำให้เกิดคำถามว่า แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าลูกในท้องกำลังตกอยู่ในอันตราย สัญญาณ อันตรายระหว่างตั้งครรภ์ แบบไหนบ้างที่ต้องรีบไปหาหมอ ทีมงาน Amarin Baby & Kids จึงขอรวบรวม สัญญาณ อันตรายระหว่างตั้งครรภ์ เพื่อให้แม่ท้องได้เตรียมตัว หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นมา จะได้รู้ได้ว่าอาการแบบนี้คือผิดปกติ และ อันตราย!

1. มีเลือดออกทางช่องคลอด

หากมีเลือดออกทางช่องคลอดในช่วงแรก ๆ ของการตั้งครรภ์ สามารถนำไปสู่การแท้งได้ โดยสาเหตุที่มีเลือดออกทางช่องคลอด ที่เป็นสัญญาณ อันตรายระหว่างตั้งครรภ์ นั้น สามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ดังต่อไปนี้

  • มีเลือดออกในช่วงไตรมาสแรก

    • การตั้งครรภ์นอกมดลูก เกิดจากไข่ที่ผสมแล้ว แทนที่จะเดินทางไปฝังตัวในมดลูก แต่กลับเดินทางไปฝังตัวในท่อนำไข่ ทำให้ไม่สามารถเจริญเติบโตได้ จึงเกิดการแตก และมีการตกเลือดในช่องท้อง คุณแม่จะปวดท้องมาก เป็นลมและอาจถึงแก่ชีวิตได้

(อ่านต่อ ท้องนอกมดลูก อันตรายไหม ?)

    • การตั้งครรภ์ไข่ปลาอุก เป็นภาวะแทรกซ้อนระหว่างการตั้งครรภ์ เกิดจากภาวะการตั้งครรภ์ที่ไม่สมบูรณ์ โดยทารกและรกจะไม่เจริญขึ้นมาตามปกติ แต่ทารกจะกลายเป็นเนื้องอกชนิดไม่ร้ายแรงในมดลูกแทน โดยทั่วไป รกจะช่วยลำเลียงสารอาหารไปเลี้ยงทารกในครรภ์ รวมทั้งกำจัดของเสียออกไป หากเซลล์ที่สร้างรกทำงานผิดปกติแล้ว จะทำให้เกิดถุงน้ำรังไข่หรือซีสต์ ซึ่งมีลักษณะคล้ายพวงองุ่นสีขาวหรือไข่ปลา เซลล์ดังกล่าวจะเจริญภายในมดลูกอย่างรวดเร็วแทนการเจริญเป็นทารกโดยมีชื่อเรียกว่าครรภ์ไข่ปลาอุก เมื่อแพทย์ตรวจพบว่าเป็นครรภ์ไข่ปลาอุก พร้อมทั้งมีเลือดออก จะทำให้ไม่สามารถตั้งครรภ์ต่อไปได้ เพราะอาจเกิดอาการแทรกซ้อนที่ร้ายแรงตามมา

(อ่านต่อ ครรภ์ไข่ปลาอุก สาเหตุเกิดจากอะไร อันตรายหรือไม่?)

  • มีเลือดออกในช่วงไตรมาสที่สองหรือสาม

    • รกเกาะต่ำ เป็นภาวะที่รกปิดขวางหรือคลุมปากมดลูกเพียงบางส่วนหรือปกคลุมทั้งหมด ในการตั้งครรภ์ปกติรกจะอยู่ด้านบนของมดลูกและห่างจากปากมดลูก เพื่อความปลอดภัยในช่วงที่คลอด แต่หากเกิดภาวะรกเกาะต่ำ เมื่อถึงเวลาคลอด เส้นเลือดที่เชื่อมต่อระหว่างรกและมดลูกจะฉีดขาด มีเลือดออกมากทั้งก่อนหรือในขณะคลอด ทำเกิดความเสี่ยงต่อทั้งแม่ท้องและทารกในครรภ์ และอาจเป็นสาเหตุให้เกิดภาวะคลอดก่อนกำหนดได้
    • (อ่านต่อ รกเกาะต่ำ ภาวะรุนแรงที่สุดของการตั้งครรภ์)
เลือดออกระหว่างตั้งครรภ์
สาเหตุที่แม่ท้องมีเลือดออกระหว่างตั้งครรภ์นั้น เป็นได้หลายสาเหตุ
    • รกลอกตัวก่อนกำหนด คือ ภาวะที่รกซึ่งเกาะอยู่บริเวณส่วนบนของโพรงมดลูกในตำแหน่งปกติ แต่เกิดมีโรคหรือมีภาวะแทรกซ้อนบางอย่าง เช่น ความดันโลหิต ครรภ์เป็นพิษสูง ครรภ์ถูกกระทบกระเทือน หรือสาเหตุอื่น ๆ จนทำให้รกเกิดการลอกตัวจากผนังมดลูกก่อนถึงกำหนดวันคลอด ทำให้มีเลือดออกระหว่างผนังมดลูกกับตัวรก เมื่อมีเลือดออกมากก็จะทำให้รกลอกตัวจากผนังมดลูกมากขึ้น

(อ่านต่อ รกลอกตัวก่อนกำหนด ภาวะอันตราย ตายได้ทั้งแม่และลูก)

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

อ่านต่อ 7 สัญญาณอันตรายระหว่างตั้งครรภ์

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up