วิธี เร่งคลอดแบบธรรมชาติ : ดื่มน้ำมากๆ
คุณแม่ท้อง ควรดื่ม หรือกินอะไรก็ได้ ที่จะเป็นผลให้คุณปวดปัสสาวะเข้าห้องน้ำบ่อยๆ เพราะการถ่ายปัสสาวะบ่อยๆ จะทำให้เกิดแรงบีบที่มดลูก จึงทำให้คลอดง่ายขึ้น
และยังมีอีกหนึ่งเรื่องง่ายๆ ที่จะช่วยคุณแม่เร่งคลอดได้ นั้นคือการ ฝึกหายใจเบ่งคลอด เพราะจังหวะการหายใจที่ถูกต้องจะช่วยได้มากในเรื่องของแรงเบ่ง คุณแม่บางคนตั้งสติไม่ได้ร้องโวยวาย ก็ยิ่งทำให้ลมเบ่งหมดเร็วและไม่ทันได้เก็บลมเบ่งไว้ถูกที่ถูกเวลา ซึ่งวิธีการฝึกลมหายใจที่ถูกนี้คุณแม่ควรหาข้อมูลและฝึกการหายใจบ่อยๆ เมื่อถึงเวลาคลอดก็จะสามารถปฏิบัติได้โดยอัตโนมัติค่ะ >> คลิกอ่าน วิธีเบ่งคลอดลูกที่ถูกต้อง สำหรับคุณแม่เตรียมคลอดลูก
ส่วนอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่สุดที่คุณแม่พึงระลึกถึงเสมอเมื่ออยู่ในห้องคลอด คือ การประคองสติของตัวเองให้รู้ตัวอยู่เสมอจะได้ไม่ทำอะไรผิดพลาดเพราะขาดสติจากความเจ็บปวดและตื่นกลัวค่ะ
กรณีที่ควรเร่งคลอด
- คุณแม่ตั้งครรภ์เกิน 40 สัปดาห์ (Postterm pregnancy) เป็นกรณีที่พบได้บ่อยที่สุด เพราะถ้าปล่อยไว้จะรกเสื่อมจนไม่สามารถนำอาหารและออกซิเจนมาเลี้ยงทารกในครรภ์ได้อีกต่อไป จึงอาจทำให้ขาดออกซิเจนและอาหารได้
- คุณแม่อยู่ห่างไกลจากโรงพยาบาลมาก เพราะถ้ารอให้เจ็บครรภ์คลอดก่อนแล้วค่อยเดินทางมาโรงพยาบาลเกรงว่าอาจจะไม่ทันกาล ซึ่งอาจทำให้มีการคลอดระหว่างทางได้
- ถุงน้ำคร่ำแตกก่อนเจ็บครรภ์คลอด (Premature rupture of membranes) หรือก่อนที่อายุครรภ์จะครบ 37 สัปดาห์ เพราะถ้าปล่อยให้ตั้งท้องไปนาน ๆ อาจทำให้เกิดการติดเชื้อหรือเด็กมีความพิการแต่กำเนิดได้
- ทารกในครรภ์เติบโตช้าหรือมีน้ำหนักตัวน้อย (Severe fetal growth restriction) เนื่องจากคุณแม่มีโรคประจำตัว เช่น โรคเลือด โรคติดเชื้อต่าง ๆ หรือสภาพมดลูกไม่สมบูรณ์, คุณแม่ที่สูบบุหรี่จัด และคุณแม่รับประทานอาหารที่ไม่เพียงพอและเหมาะสมในขณะตั้งครรภ์ ในกรณีเหล่านี้คุณหมออาจตัดสินใจเร่งคลอดเพื่อนำเด็กออกมาเลี้ยงข้างนอกจะปลอดภัยกว่า
- ความดันโลหิตสูง (Gestational hypertension) หรือ ครรภ์เป็นพิษ (Preeclampsia, Eclampsia) เป็นภาวะที่ทำให้เส้นเลือดทั่วร่างกายหดรัดตัว ทำให้ปริมาณของเลือดที่ส่งไปเลี้ยงจึงลดน้อยลง ถ้าปล่อยไว้อาจทำให้ทารกในครรภ์เสียชีวิตได้ เพราะเนื้อเยื่อรกบางส่วนขาดเลือดไปหล่อเลี้ยง
- คุณแม่เกิดการอักเสบติดเชื้อในถุงน้ำคร่ำ (Chorioamnionitis)
- ภาวะรกลอกตัวก่อนกำหนด (Abruptio placenta)
- ภาวะน้ำคร่ำน้อย (Oligohydramnios)
- การตั้งครรภ์แฝดที่มีภาวะแทรกซ้อน ที่อาจทำให้ทารกในครรภ์ไม่แข็งแรง หรือเสี่ยงต่อชีวิตของคุณแม่และทารก
- ทารกเสียชีวิตในครรภ์ (Fetal death) หากปล่อยให้ทารกที่เสียชีวิตแล้วยังอยู่ในครรภ์และยังไม่หลุดออกมาเองนานเกินไป จะทำให้คุณแม่เกิดภาวะลิ่มเลือดไม่แข็งตัวได้ เพราะอาจมีส่วนเสื่อมสลายของลูกหลุดเข้าไปในกระแสเลือดได้
Must read : การเร่งคลอด คืออะไร ทำไมถึงต้องเร่งคลอด?
ในกรณีที่คุณแม่อายุครรภ์ยังไม่ถึง 37 สัปดาห์ แต่มีความจำเป็นต้องเร่งคลอด คุณหมอจะดูว่าอันตรายแค่ไหน ถ้าสามารถรอได้ก็จะให้รอจนกว่าจะครบกำหนดคลอดหรือใกล้เคียงกับกำหนดคลอดมากที่สุด แต่ถ้ารอไม่ได้ เช่น ในกรณีที่ครรภ์เป็นพิษ หมอจึงจำเป็นต้องรีบเร่งคลอดเพื่อความปลอดภัยของคุณแม่และทารกในครรภ์ให้เร็วที่สุด
แม้ครรภ์คุณแม่เกินกำหนด แต่ลูกน้อยใกล้จะออกมาดูโลกในไม่ช้านี้แล้ว ขอให้คุณแม่ทำใจให้สบาย เรื่องนี้ไม่ควรใจร้อนเร่งธรรมชาติมากเกินไปนัก
อ่านต่อบทความอื่นน่าสนใจ คลิก!
- รวมเคล็ดลับ วิธีช่วยให้แม่ท้องคลอดง่าย
- คาถาคลอดลูกง่าย แคล้วคลาดปลอดภัยจากบทอังคุลิมาลสูตร
- 6 อาการใกล้คลอด ที่แม่ต้องสังเกต
ขอบคุณข้อมูลจาก : www.mumbabe.com
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่