account_circle- รักษาอาการเจ็บคอ: ถ้าลูกมีอาการเจ็บคอ การดูดนมแม่จะช่วยบรรเทาอาการได้
- รักษาหูด: ใช้สำลีชุบนมแม่วางบนหูดนาน 2-3 นาที วันละ 2 ครั้ง ทำต่อเนื่องทุกวันจนกว่าหูดหลุดออกมา
- นมแม่ ฆ่าเซลล์มะเร็ง: นักวิทยาศาสตร์กำลังผลิตยาฆ่าเซลมะเร็งที่ทำจากนมแม่
- นมแม่ ช่วยลดอาการข้างเคียงจากยาเคมีบำบัด: เช่น อาการคลื่นไส้อาเจียน กินอาหารได้น้อย การนำ นมแม่ ให้แก่ผู้ป่วยที่ได้รับยาเคมีบำบัดกิน จะทำให้อาการผลข้างเคียงจากยาน้อยลง
- นมแม่ สะอาดหยดใส่ตา: ช่วยรักษาภาวะเยื่อบุตาอักเสบในกรณีที่เกิดจากท่อน้ำตาอุดตัน ร่วมกับการนวดบริเวณหัวตาบ่อยๆ ส่วนกรณีติดเชื้อที่ตา อย่ารักษาเอง ให้พบหมอตาเสมอ
- นมแม่ ช่วยลดอาการคัดจมูก หายใจไม่ออก: หยดเข้ารูจมูกลูก 2-3 หยด ไม่มีผลข้างเคียงเหมือนยาบางอย่างที่ทำให้จมูกบวมหลังจากหยุดใช้
- เวลาลูกป่วย เช่น เป็นไข้หวัดใหญ่ มักกินข้าวได้น้อย: นมแม่ ย่อยง่าย กินง่าย ช่วยให้พลังงานแก่ลูก ช่วยให้หายป่วยเร็วขึ้น
- นมแม่ ช่วยลอกสะเก็ดชันตุที่หนังศีรษะ: โดยการทาทิ้งไว้ก่อนสระผมนาน 5 นาที
- ใช้ นมแม่ ทาที่แผลหลังจากขลิบอวัยวะเพศชาย: หลังจากล้างทำความสะอาดด้วยน้ำเปล่า ช่วยให้แผลสมานเร็วขึ้น
6 ประโยชน์ของนมแม่ แก้ปัญหาเสริมความงามทั้งใบหน้าและลำตัว
- รักษาสิว บำรุง และ ทำความสะอาดผิวหน้า: หลังจากล้างหน้าด้วยสบู่อ่อน ใช้สำลีชุบนมแม่แต้มให้ทั่วใบหน้า หรือ ใช้นมแม่มาสก์หน้า จะทำให้ผิวหน้านุ่มนวล และ ใช้เช็ดทำความสะอาดเครื่องสำอางที่ตาได้ด้วย
- ลดไขบนศีรษะลูก: ไขบนศีรษะลูกมีลักษณะเป็นคราบคล้ายสะเก็ด มีสีน้ำตาลหรือเหลือง เพียงแค่คุณใช้นมแม่นวดเบา ๆ บริเวณที่มีไขบนศีรษะของลูกก็จะช่วยแก้ปัญหานี้ได้
- รักษาปากแตก: ทาน้ำนมบนริมฝีปากแตกบ่อยๆ รอให้แห้งเอง ปากจะหายแตกภายใน 1-2 วัน
- ลดแสบจากแดดเผา: นมแม่แช่เย็นช่วยบรรเทาอาการแสบของผิวหนังจากแดดเผาไหม้ได้ด้วย
- รักษาหัวนมแตก: ทานมแม่ที่แผล แล้วรอให้แห้ง หรือ จุ่มหัวนมลงไปแช่ในนมแม่ที่เทใส่จาน
- นมแม่ ช่วยทำให้ผิวหนังที่แห้งกลับชุ่มชื้น: โดยทาบนผิวแห้งโดยตรง หรือ ผสม นมแม่ ลงในอ่างอาบน้ำ
ที่น้ำนมแม่ ช่วยทำให้แผลต่างๆหายไวขึ้น เนื่องด้วยคุณสมบัติของกรดลอริคที่อยู่ใน นมแม่ มีฤทธิ์ต้านไวรัส แบคทีเรีย ช่วยสมานแผล และ มีคุณสมบัติเป็นยาชาอ่อนๆนั่นเอง หรือคุณแม่สามารถนำไปบริจาคให้โรงพยาบาล หรือผู้รอรับบริจาค ได้เช่นกัน
ปล.จากที่กล่าวมาทั้งหมด เป็นการรักษาเบื้องต้นด้วยตัวเองก่อน แต่ถ้าทำแล้วไม่ดีขึ้น อย่าเสียเวลายื้อต่อ หรือ ละเลยการรักษาจากแพทย์ ควรพบแพทย์ตรวจเสมอค่ะ
ขอบคุณที่มา : เพจ สุธีรา เอื้อไพโรจน์กิจ
หน้า 1 2