นมเปรี้ยว เลี้ยงลูกแทนนมแม่อย่าหาทำ หมอเตือนเสี่ยงโรค - Amarin Baby & Kids
นมเปรี้ยว เลี้ยงลูกแทนนมแม่ อย่าหาทำ

นมเปรี้ยว เลี้ยงลูกแทนนมแม่อย่าหาทำ หมอเตือนเสี่ยงโรค

Alternative Textaccount_circle
event
นมเปรี้ยว เลี้ยงลูกแทนนมแม่ อย่าหาทำ
นมเปรี้ยว เลี้ยงลูกแทนนมแม่ อย่าหาทำ

นมเปรี้ยว รสชาติอร่อย ทำจากนมวัว แล้วจะให้สารอาหารเหมือนกันไหม เหมาะแก่เด็กหรือไม่ มาร่วมหาคำตอบกับประเด็นโซเซียล เลี้ยงทารกด้วยนมเปรี้ยว ทำได้จริงหรือ

นมเปรี้ยว เลี้ยงลูกแทนนมแม่..อย่าหาทำ หมอเตือนเสี่ยงโรค!!

นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า จากกรณีที่เพจหมอแล็บแพนด้า ได้แชร์ข้อมูลว่า ขณะนี้ในกลุ่มเลี้ยงลูกมีคนเลี้ยงลูกด้วยนมเปรี้ยว โดยให้กินตั้งแต่เกิดจนตอนนี้อายุ 4 เดือนแล้ว ทำให้มีคนสงสัย สามารถเลี้ยงลูกด้วยนมเปรี้ยวได้หรือไม่ ซึ่งความจริงแล้วนมเปรี้ยวใช้เป็นอาหารเสริมสำหรับเด็กโตได้ แต่ไม่เหมาะที่จะนำมาใช้เลี้ยงทารก เนื่องจากมีสารอาหารหรือแร่ธาตุบางอย่างไม่เหมาะสมกับทารก ดังนั้น สิ่งที่เด็กทารก วัย 0 – 6 เดือน ควรได้รับและดีที่สุดคือนมแม่ และควรกินนมแม่อย่างเดียวติดต่อกัน 6 เดือน โดยไม่ต้องให้น้ำหรืออาหารอื่น หลังจากนั้นกินนมแม่ควบคู่กับการเริ่มอาหารตามวัย เนื่องจากนมแม่เป็นอาหารที่มีคุณค่าที่สุดสำหรับทารก มีสารอาหาร กว่า 200 ชนิด ที่มีประโยชน์ต่อการเจริญเติบโตทางกาย พัฒนาสมอง จอประสาทตา และระบบภูมิคุ้มกันแบบที่นมผง หรือนมเปรี้ยวไม่สามารถให้ได้ รวมทั้งเป็นอาหารที่ย่อยง่าย และถูกสร้างมาให้เหมาะสมที่สุดกับสภาพร่างกายของทารก ในแต่ละช่วงอายุ ช่วยให้เด็กมีสุขภาพแข็งแรง ส่งเสริมเรื่องสติปัญญาและอารมณ์ และยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย

เลี้ยงลูกทารกด้วย นมเปรี้ยว
เลี้ยงลูกทารกด้วย นมเปรี้ยว

สามารถเลี้ยงลูกด้วยนมเปรี้ยวได้จริงหรือ??

นม เป็นอาหารหลักของเด็กทารกที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโต โดยเฉพาะวัยแรกเกิดถึง 6 เดือน ซึ่งในปัจจุบันเป็นที่แน่ชัดกันแล้วว่า น้ำนมที่ดี และควรให้ลูกกินตั้งแต่แรกเกิด จนต่อเนื่องไปจนอายุ 2 ปี คือ น้ำนมแม่ เนื่อจากองค์ประกอบของน้ำนมแม่มีคุณค่าทางโภชนาการ เช่น ไขมัน โปรตีน คาร์โบไฮเดรต วิตามิน และเกลือแร่ นอกจากนั้นยังมีสารที่ช่วยในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน เช่น สารต้านการติดเชื้อ สารต้านการอักเสบ และกระตุ้นภูมิคุ้มกัน อีกทั้งยังมีสารที่ย่อยง่าย ช่วยในการเจริญเติบโต เช่น เอนไซม์ ฮอร์โมน และ Growth factor ต่าง ๆ

หากจำเป็นในการต้องหาน้ำนมจากแหล่งอื่นมาเสริมให้แก่ทารก อาจเนื่องจากคุณแม่บางคนมีน้ำนมไม่เพียงพอต่อความต้องการของลูก หรือมีความจำเป็นที่ไม่สามารถให้นมแม่ได้ ก็ควรเลือกนมประเภทที่มีสารอาหารใกล้เคียงกับน้ำนมแม่มากที่สุด เพื่อให้เหมาะสมต่อการย่อย และการดูดซึมอาหารของลูก เพราะทารกไม่สามารถดื่มนมได้ทุกประเภท

เหตุใด นมเปรี้ยว จึงไม่สามารถเลี้ยงทารกได้!!

นมเปรี้ยว คือ ผลิตภัณฑ์นมที่ได้จากน้ำนมสัตว์ที่นำมาบริโภคได้ หรือส่วนประกอบของน้ำนมที่ผ่านการทำลายจุลินทรีย์ที่ทำให้เกิดโรคแล้วหมักด้วยจุลินทรีย์ที่ไม่ทำให้เกิดโรค และอาจปรุงแต่งกลิ่นรส สี หรือเติมวัตถุเจือปนอาหาร สารอาหาร หรือส่วนประกอบอื่นที่ไม่ใช่นม เช่น จุลินทรีย์ที่มีชีวิตซึ่งใช้ในอาหารก็ได้

เหตุใด นมเปรี้ยว ใช้เลี้ยงทารกไม่ได้
เหตุใด นมเปรี้ยว ใช้เลี้ยงทารกไม่ได้

เลี้ยงลูกด้วย นมเปรี้ยว เสี่ยง!!

เหตุผลสำคัญที่ทำให้ “นมเปรี้ยว” ไม่เหมาะที่จะนำมาใช้เลี้ยงทารกแทนน้ำนม คือ สารอาหารและคุณค่าทางโภชนาการของนมเปรี้ยวไม่เพียงพอต่อความต้องการของทารก นอกจากนี้ยังมีปริมาณน้ำตาลที่ค่อนข้างสูง อาจทำให้ทารกติดรสหวาน น้ำตาลในนมเปรี้ยวส่งผลให้ลูกเสี่ยงอะไรบ้าง

  •  ฟันผุในเด็ก 

จากการสำรวจสถานการณ์ฟันผุในเด็กไทยพบว่าเด็กเริ่มมีฟันผุตั้งแต่อายุ 9 เดือน และพบว่าเด็กอายุ 3 ปีมีฟันผุเฉลี่ย 3 ซี่ต่อคน สาเหตุหลักของฟันผุในเด็กเล็กมาจากพฤติกรรมการเลี้ยงดูที่ไม่เหมาะสม เช่น การให้เด็กทานขนมหรือนมที่มีรสหวานเป็นประจำ การปล่อยให้เด็กหลับคาขวดนมหลังจากฟันขึ้นแล้ว หรือผู้ปกครองละเลยเรื่องการดูแลสุขภาพช่องปาก โดยไม่ได้เริ่มแปรงฟันตั้งแต่น้ำนมซี่แรกขึ้น

ผลกระทบของโรคฟันผุต่อสุขภาพ

เมื่อพบว่าลูกมีอาการปวดฟัน นั่นคือสัญญาณที่บ่งบอกว่ารอยผุมีขนาดใหญ่ และลุกลามไปมากแล้ว และควรได้รับการรักษาอาการปวดฟันจะมีตั้งแต่ปวดน้อยไปจนถึงปวดมากจนเด็กไม่สามารถใช้กัด หรือเคี้ยวอาหารได้เป็นปกติ เมื่อเด็กเริ่มมีอาการปวดฟันมากขึ้นจะทำให้ส่งผลต่อการเจริญเติบโตของเด็กด้วยเช่นเดียวกัน เนื่องจากเด็กจะมีความอยากอาหารน้อยลง หรือเลือกกินมากขึ้น ส่งผลให้เด็กขาดสารอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโต และเมื่อเด็กปวดฟันมากจนนอนไม่หลับก็จะกระทบต่อการหลั่งฮอร์โมนกระตุ้นการเจริญเติบโต (growth hormone) เหล่านี้จะส่งผลต่อพัฒนาการทางร่างกายของเด็ก

ในเด็กที่มีฟันผุลุกลามมาก สามารถพบการติดเชื้อและเป็นหนองลุกลามไปยังอวัยวะข้างเคียงได้ เช่น แก้ม ดวงตา และสมอง หรืออาจทำให้เกิดการติดเชื้อในกระแสเลือดได้ จนอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต ไม่ใช่แค่การส่งผลโดยตรงต่อสุขภาพของเด็กเพียงอย่างเดียว โรคฟันผุยังทำให้เด็กเกิดปัญหาทางด้านจิตใจและอารมณ์ด้วย การมีฟันผุทำให้เด็กขาดความมั่นใจในการพูดเนื่องจากฟันมีการเปลี่ยนสีหรือมีรูปร่างที่ผิดปกติ หรือการที่เด็กต้องถอนฟันน้ำนมออกก่อนที่ฟันแท้ขึ้นก็ส่งผลต่อฟันที่กำลังงอกใหม่ให้มีการล้มเอียงส่งผลเสียต่อสุขภาพช่องปากในระยะยาวได้เช่นเดียวกัน

  •  โรคอ้วนในเด็ก 

จากสิถิติพบว่ามีเด็กทั่วโลกเป็นโรคอ้วนเพิ่มมากขึ้น 2-3 เท่ามาตั้งแต่ปี 1980 และไม่มีทีท่าว่าจะลดลง การบริโภคที่เปลี่ยนไปในยุคสมัยที่เต็มไปด้วยอาหารฟาสต์ฟู้ด มีพลังงานสูง การที่เด็กติดรสหวาน และพฤติกรรมการออกกำลังกายที่ไม่สมดุลกับพลังงานที่ได้รับในแต่ละวัน ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ และผู้ปกครองจึงมีส่วนสำคัญอย่างมากที่จะทำให้ลูกของคุณห่างไกลจากโรคอ้วนในเด็กได้ ด้วยการดูแลอาหารการกินของลูกให้ถูกต้องตามโภชนาการ โดยนมเปรี้ยวสามารถใช้เป็นอาหารเสริมแก่ลูกได้ แต่ไม่ควรนำมาใช้เลี้ยงทารกเป็นหลัก เพราะปริมาณน้ำตาลในนมเปรี้ยวทำให้ลูกเสี่ยงเป็นโรคอ้วนได้

โรคอ้วนในเด็ก อันตรายจากการเลี้ยงลูกด้วย นมเปรี้ยว
โรคอ้วนในเด็ก อันตรายจากการเลี้ยงลูกด้วย นมเปรี้ยว

อันตราย!! จากโรคอ้วนในเด็ก

  1. โรคอ้วนในเด็กมีผลเสียต่อสุขภาพหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นโรคไม่ติดต่อเรื้อรังต่าง ๆ เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันเลือดสูง โรคไขมันในเลือดสูง ซึ่งหลายคนอาจจะเข้าใจว่านี่คือโรคที่พบในผู้สูงอายุเท่านั้น แต่จริง ๆ แล้วโรคเหล่านี้สามารถพบได้ในคนอายุน้อย ๆ ที่มีภาวะโรคอ้วนอีกด้วย
  2. นอกจากนี้ยังอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ ได้ในระบบทางเดินหายใจได้แก่ ภาวะทางเดินหายใจอุดกั้นขณะหลับ ส่งผลเสียถึงการนอนที่ไม่เพียงพอ และส่งผลกระทบต่อการเรียนของเด็กด้วยเช่นกัน ทำให้เด็กไม่สามารถเรียนรู้ได้อย่างเต็มที่
  3. รวมไปถึงเด็ก ๆ อาจมีผลกระทบทางด้านจิตใจ เช่น การถูกเพื่อนล้อ ถูกบูลลี่เรื่องรูปลักษณ์ จนทำให้เกิดความเครียดและอาจเป็นโรคทางจิตเวชได้
ข้อมูลโดย
ผศ. พญ.อรพร ดำรงวงศ์ศิริ
สาขาวิชาโภชนวิทยา ภาควิชากุมารเวชศาสตร์
คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดีมหาวิทยาลัยมหิดล
  •  ทารกท้องเสีย 

อาการท้องเสียของทารกอาจสังเกตได้ยาก แต่หากพบว่าลูกน้อยขับถ่ายมากกว่าปกติและอุจจาระมีลักษณะเหลวผิดปกติ นั่นอาจเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าทารกมีอาการท้องเสีย นอกจากนั้น อาจพบว่าอุจจาระมีมูกหรือเลือดปนออกมา หรือมีกลิ่นเหม็นผิดปกติด้วย ซึ่งแม้อาการท้องเสียในทารกจะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้และไม่น่ากังวลเท่าใดนัก แต่หากทารกท้องเสียต่อเนื่องเป็นเวลา 1-2 วัน ก็อาจทำให้ร่างกายเด็กสูญเสียของเหลวและเกลือแร่จำนวนมากจนอาจเกิดภาวะขาดน้ำตามมาได้ ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพของทารก

ทารกที่มีอายุไม่ถึง 1 ปี ไม่ควรดื่มนมวัว นมผง หรืออาหารเด็กที่ทำจากนมวัว ซึ่งนมเปรี้ยวก็เป็นผลิตภัณฑ์หนึ่งที่ทำมาจากนมวัว นอกจากนี้ ในบางครั้งหากคุณแม่ดื่มนมวัวหรือรับประทานอาหารที่มีส่วนประกอบของนมวัวก็อาจทำให้ทารกที่ดื่มนมแม่เกิดอาการแพ้โปรตีนจากนมวัวได้เช่นกัน โดยอาจส่งผลให้ทารกท้องเสีย ถ่ายเป็นมูกเลือด อาเจียน หรือมีผื่นขึ้นตามร่างกาย

ทำอย่างไรเมื่อทารกท้องเสีย
ทำอย่างไรเมื่อทารกท้องเสีย

ทำอย่างไรเมื่อทารกท้องเสีย ?

อาการท้องเสียเป็นกลไกหนึ่งที่ช่วยขับเชื้อโรคที่เป็นภัยออกจากร่างกาย จึงไม่ควรให้ทารกใช้ยาแก้ท้องเสีย อีกทั้งองค์การอาหาร และยายังไม่มีการรับรองยาที่ใช้สำหรับทารกที่มีอาการท้องเสีย ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่อาจบรรเทาอาการและช่วยให้ลูกน้อยสบายตัวขึ้นได้โดยปฏิบัติตามแนวทางดังต่อไปนี้

  • ให้ดื่มผงเกลือแร่ เพราะอาการท้องเสียอย่างรุนแรงจะทำให้ทารกสูญเสียของเหลว และเกลือแร่ในร่างกายไปเป็นจำนวนมาก ซึ่งจะส่งผลให้เกิดภาวะขาดน้ำตามมา หากลูกน้อยไม่มีอาการอาเจียนร่วมด้วย คุณแม่จะยังสามารถให้ทารกดื่มนมแม่หรือนมผงได้ตามปกติ แต่หากทารกอาเจียนและไม่สามารถดื่มนมได้ แพทย์อาจให้เด็กดื่มสารละลายอิเล็กโทรไลต์สำหรับทารก
  • งดของหวาน เช่น โซดา น้ำอัดลม น้ำหวาน น้ำผลไม้ รวมถึงเยลลี่หรือขนมหวานต่าง ๆ เป็นต้น เพราะน้ำตาลอาจทำให้อาการท้องเสียของทารกแย่ลงกว่าเดิม
  • เปลี่ยนผ้าอ้อมเป็นประจำ เพื่อลดการอับชื้นที่อาจเป็นเหตุให้ก้นของลูกน้อยเป็นผื่นและเกิดการระคายเคือง ทั้งยังช่วยลดอาการก้นแดงจากการท้องเสียอยู่บ่อยครั้ง
  • โอบกอดเบา ๆ บางครั้งอาการท้องเสียอาจทำให้ทารกไม่สบายตัวและงอแง ดังนั้น การกอดอาจช่วยให้เจ้าตัวน้อยงอแงน้อยลงได้
ข้อมูลอ้างอิงจาก anamaimedia /www.pobpad.com/
นอกจากนั้นทางเพจ หมอแล็บแพนด้า ยังให้ความรู้เพิ่มเติมในการเลือกอาหารที่เหมาะสมสำหรับเด็ก โดยให้ดูค่ามาตรฐานสารอาหารต่าง ๆ ที่กำหนดไว้สากล คุณพ่อคุณแม่สามารถสังเกตดูข้อมูลโภชนาการที่มีเขียนติดไว้ข้างกล่องนม หรือผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เทียบกับตารางสารอาหารดังกล่าวได้เลยว่า นม หรือผลิตภัณฑ์นั้น ๆ มีค่าต่ำกว่ามาตรฐานหรือไม่ ถ้าต่ำกว่าก็ไม่ควรนำมาให้ลูกรับประทานกัน
เอ้า! แบบนี้เราก็ให้ลูกกินนมเปรี้ยวเยอะๆสิ สารอาหารจะได้เท่ากับนมวัว 555555 ความคิดใช้ได้นะเรา แต่ลืมเรื่องน้ำตาลไปรึเปล่า กินมากๆเด็กก็จะได้รับน้ำตาลมากเกิน ทำให้กลายเป็นเด็กติดหวาน และกลายเป็นโรคอ้วนได้ด้วยครับ ไปสังเกตดูได้เลย

นมที่จะเหมาะสมกับเด็ก ต้องมีมาตรฐานสารอาหารต่างๆตามภาพที่ผมแนบมานี้ ถ้าต่ำกว่านี้ ถือว่าไม่ผ่านนะจ๊ะ

ตารางมาตรฐานค่าสารอาหารในนม จากเพจ หมอแล็บแพนด้า
ตารางมาตรฐานค่าสารอาหารในนม จากเพจ หมอแล็บแพนด้า
ตารางมาตรฐานค่าสารอาหารในนม จากเพจ หมอแล็บแพนด้า
ตารางมาตรฐานค่าสารอาหารในนม จากเพจ หมอแล็บแพนด้า

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก เพจหมอแล็บแพนด้า

อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก

กลัวลูกเป็น ดาวน์ซินโดรม ต้องอ่าน!! หมอชี้ทาง..แม่ท้อง รู้ทัน ป้องกันได้

ถอดรหัส 18 ภาษาทารก ลูกร้องแบบนี้..แปลว่าอะไรนะ?

แจกสูตร เมนูอาหารคนท้อง 1-3 เดือน กินอย่างไรให้ลงลูก

แม่แชร์ลูก ติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ เพียงเพราะล้างไม่ถูกวิธี

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up