4. ตัดฝีเย็บ(Episiotomy)
ต่อมาหมอจะฉีดยาชาเฉพาะที่บริเวณปากช่องคลอด แล้วก็ใช้กรรไกรตัดช่องคลอดเล็กน้อยเพื่อให้กว้างพอที่จะให้ศีรษะออกมาได้ ซึ่งเราเรียกว่า “การตัดฝีเย็บ“ ซึ่งการตัดฝีเย็บนี้จะช่วยทำให้ช่องคลอดไม่ขาดกะรุ่งกะริ่งเหมือนการคลอดเองที่บ้านหรือคลอดโดยหมอตำแย เมื่อเด็กและรกคลอดออกมาแล้วก็จะเย็บช่องคลอดเข้าที่ได้ง่าย รอยที่ตัดนั้นจะตัดจากช่องคลอดส่วนล่างสุดเฉียงไปทางซ้ายหรือขวา หรือหมออาจจะตัดตรงกลางไปในแนวใกล้ทวารหนัก ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมและความถนัดของหมอแต่ละคน
5. ลูกคลอดออกมาแล้ว!
เมื่อตัดช่องคลอดแล้วคุณแม่จะต้องช่วยเบ่งอีกครั้งเพื่อให้มีแรงดันให้หัวเด็กโผล่และคลอดออกมา เมื่อหัวเด็กคลอดออกมาแล้ว ความสำคัญของขั้นตอนนี้ก็คือคุณแม่จะต้องให้ความร่วมมือ หมอและพยาบาลจะสั่งให้คุณแม่หยุดเบ่ง เพื่อให้ผู้ทำคลอดใช้ลูกยางสีแดงดูดเมือกและน้ำคร่ำออกจากปากและจมูกของลูกออกให้หมดเสียก่อน แล้วจึงจะทำคลอดตัวเด็กออกมา ในขณะที่ทำคลอดตัวเด็กออกมานี้ก็จะให้ผู้ช่วยฉีดยาที่ช่วยการหดรัดตัวของมดลูก (ยากลุ่มเออร์กอด เช่น Ergometrine) เพื่อช่วยให้มดลูกหดรัดตัวดีขึ้น รกจะได้คลอดเร็วและเสียเลือดน้อย
นระยะการคลอดหัวและลำตัวนี้ปกติจะใช้เวลาเพียง 2-3 นาทีเท่านั้น เมื่อลำตัวคลอดออกมาแล้ว ผู้ทำคลอดก็จะผูกและตัดสายสะดือเพื่อแยกเด็กออกจากรก ยกตัวเด็กให้คุณแม่ดูหน้าตาและหันก้นให้ดูว่าเพศหญิงหรือเพศชาย แล้วก็อุ้มเด็กไปใส่ในรถเข็น ดูดเมือกและน้ำคร่ำออกจากลำคอเพื่อไม่ให้เด็กสำลักหรือหายใจเอาน้ำคร่ำเข้าไปในปอด ตัดและแต่งสายสะดือ แล้วหยอดตาทารกด้วยยาฆ่าเชื้อเพื่อลดการอักเสบของเยื่อตา เพราะอาจมีเชื้อโรคเข้าตาในขณะคลอดได้ จากนั้นพยาบาลก็จะผูกป้ายชื่อคุณแม่ไว้ที่ข้อมือหรือข้อเท้าทันทีเพื่อมิให้ผิดตัว
6. ลูกร้องแล้ว♥
ใน 1 นาทีแรกหลังคลอดลูกก็จะร้องทันที ความทุกข์ทรมานตั้งแต่เริ่มตั้งท้อง แพ้ท้อง ปวดเมื่อย อึดอัด จนกระทั่งเจ็บท้องคลอด สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้จะหายไปหมดเมื่อลูกน้อยคลอดออกมาแล้วร้องเสียงดัง ซึ่งแสดงถึงความแข็งแรงสมบูรณ์ จากนั้นหมอจะใช้ลูกยางดูดเมือกและน้ำคร่ำในคอและในจมูกออก แต่ถ้าลูกไม่ร้องหรือร้องไม่ดังพอ ผู้ทำคลอดอาจจะให้ดมออกซิเจนและช่วยกระตุ้นบ้างตามความเหมาะสม เสร็จแล้วก็จะพามาให้คุณแม่เพื่อเริ่มสร้างสายสัมพันธ์กับลูกน้อย
7. ทำคลอดรก
หลังจากคลอดตัวเด็กออกมาแล้ว หมอก็จะช่วยทำให้คลอดรกโดยที่คุณแม่อาจรู้สึกตึง ๆ ถ่วง ๆ เล็กน้อย และจะมีเลือดออกมาทางช่องคลอด แต่จะไม่เกิน 200-300 ซีซี ในขณะเดียวกันหมอก็ตรวจดูว่ารกออกมาครบหรือไม่ ถ้ามดลูกรัดตัวไม่ดีรกอาจจะไม่ลอกตัวและอาจจะตกเลือดมากก็ได้ ถ้ารกไม่ลอกตัวในระยะเวลาอันสมควร ประมาณ 10-15 นาที หมอก็อาจจะต้องเริ่มช่วยเหลือโดยการตามวิสัญญีแพทย์มาช่วยให้สลบ เพื่อใช้มือล้วงรกออกมาจากในโพรงมดลูก ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเอารกออกมาได้ แต่จะมีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่รกฝังลึกในผนังมดลูกจนไม่สามารถเอาออกมาได้ด้วยการล้วงหรือขูดมดลูก ก็อาจจำเป็นต้องเข้าห้องผ่าตัดและผ่าตัดเอามดลูกพร้อมรกออก เพราะถ้าปล่อยไว้จะทำให้คุณแม่ตกเลือดมากจนเสียชีวิตได้
8. เย็บฝีเย็บ
เมื่อทำคลอดรกเรียบร้อยแล้วหมอก็จะเย็บแผลที่ช่องคลอดที่ตัดเอาไว้ การเย็บแผลอาจจะต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่งเพราะจะต้องเย็บเนื้อเยื่อและกล้ามเนื้อเป็นชั้น ๆ ให้เหมือนของเดิมมากที่สุด คุณแม่จึงอาจรู้สึกเมื่อยเพราะต้องอยู่บนขาหยั่งจนกว่าหมอจะเย็บแผลเสร็จ เมื่อเย็บเสร็จแล้วพยาบาลก็จะเอาขาคุณแม่ลงจากขาหยั่ง เช็ดหน้า เช็ดตัว และเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ จากนั้นก็จะย้ายคุณแม่ออกจากห้องคลอดไปยังห้องสังเกตอาการหลังคลอดต่อไป
เพราะภายหลังการคลอดอาจมีการตกเลือดเกิดขึ้นได้ ซึ่งอาจเกิดขึ้นทันทีหลังคลอดแต่รกยังไม่คลอด หรือเกิดขึ้นในขณะที่รกคลอดออกมา หรืออาจจะเกิดขึ้นในขณะที่เย็บแผล หรือหลังจากเย็บแผลเสร็จแล้วก็ได้ ดังนั้น จึงมีกฎว่าหลังการคลอดจะต้องให้คุณแม่อยู่ในห้องสังเกตอาการหลังคลอดเพื่อสังเกตอาการผิดปกติต่าง ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นเป็นเวลา 2 ชั่วโมง แล้วจึงค่อยย้ายไปอยู่ตึกผู้ป่วยหลังคลอด
อาการที่พบได้หลังคลอดลูก แบบ คลอดธรรมชาติ
หลังจากคลอดรกออกมาแล้ว คุณแม่อาจมีอาการหนาวสั่นมาก หายใจไม่สะดวก เพราะตลอดระยะเวลา 9 เดือนที่ลูกอยู่ในท้อง เปรียบเสมือนกับคุณแม่มีเครื่องทำความร้อนอยู่ในตัว คอยให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย แต่ในชั่วขณะที่คลอดลูกออกมา ร่างกายของคุณแม่ต้องพยายามควบคุมอุณหภูมิให้อยู่ในระดับเดิม โดยการทำให้กล้ามเนื้อหดและคลายตัวอย่างรวดเร็ว เพื่อสร้างความร้อนออกมาทดแทนความร้อนที่ร่างกายสูญเสียไป อาการหนาวสั่นจะเกิดขึ้นกับคุณแม่ไม่นานนัก แล้วจะหายไปเองภายในเวลาไม่เกินครึ่งชั่วโมง
การตกเลือดหลังคลอด
หลังการคลอดสิ้นสุดลง มดลูกจะมีการหดรัดตัวเป็นก้อนแข็ง เพื่อให้แผลในโพรงมดลูกที่เกิดจากการลอกตัวของรกมีขนาดเล็กลง รวมทั้งกล้ามเนื้อมดลูกที่หดรัดตัวจะช่วยบีบเส้นเลือดบริเวณแผล ช่วยให้เลือดไหลช้าลงและหยุดไหลไปเองในที่สุด ปกติหลังคลอดจะมีน้ำคาวปลาสีแดง ๆ ประมาณ 2-3 วัน หลังจากนั้นก็จะค่อย ๆ จางลงจนกลายเป็นสีขาวภายใน 1-2 สัปดาห์ แต่ถ้าหลังคลอดแล้วมดลูกไม่สามารถหดรัดตัวได้ตามปกติ เช่น มีเนื้อรกค้างอยู่ในโพรงมดลูก, กล้ามเนื้อมดลูกหย่อนยาน, ปัสสาวะเต็มกระเพาะปัสสาวะ, มีเนื้องอกของมดลูก เป็นต้น ก็จะทำให้เกิดการตกเลือดหลังคลอดได้ ดังนั้นหลังคลอดแล้วพยาบาลจะสวนปัสสาวะทิ้งเสมอ พร้อมกับฉีดยาให้มดลูกหดรัดตัวโดยเร็วที่สุด
ทั้งนี้การได้เป็นแม่คนเป็นเรื่องที่น่ามหัศจรรย์และน่ายกย่องมาก ๆ อยู่แล้ว ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด ดังนั้นไม่ว่าคุณจะเลือกให้เขากำเนิดมาด้วยวิธีไหน ก็น่าเชิดชูด้วยกันทั้งนั้น แต่ถ้าเป็นไปได้ คลอดด้วยวิธีธรรมชาติก็จะดีที่สุดนะคะ ^^
อ่านต่อ “บทความน่าสนใจ” คลิก!
- รวมคลิปการคลอดลูก นี่แหละที่เรียกว่า “ความเจ็บปวดที่งดงาม”
- คลิปนาทีชีวิต!! ทีมแพทย์เร่งผ่าคลอดเพื่อช่วยชีวิตทารก ออกจากท้องแม่ผู้เคราะห์ร้ายจากสงครามซีเรีย
- ภาพหาชมยาก!! ทารกคลอดออกมาทั้งถุงน้ำคร่ำ (มีคลิป)
- แชร์กระหน่ำ! สุดยอดคุณแม่ใจเด็ดคลอดลูกกลางป่า-ตัดสายรกเอง!!! (มีคลิป)
ขอบคุณข้อมูลจาก : medthai.com