การดูแลสุขภาพใจของแม่หลังคลอด ถ้าพูดถึงคำแนะนำในการดูแลตัวเองของคุณแม่หลังคลอดที่เราได้ยินกันบ่อย ส่วนใหญ่จะเน้นเรื่องเน้นการดูแลสุขภาพกายของคุณแม่ เช่น การอยู่ไฟ การดูแลรักษาแผลผ่าตัด การดูแลเต้านม แต่สิ่งที่สำคัญไม่น้อยไปกว่าการดูแลสุขภาพกาย ก็คือการดูแลสุขภาพใจของคุณแม่หลังคลอด นี่คือคำแนะนำของคุณเกล Founder ของ My Mummy First โปรแกรมดูแลคุณแม่หลังคลอด
การดูแลสุขภาพใจของแม่หลังคลอด
คุณเกลได้ให้เทคนิคใน การดูแลสุขภาพใจของแม่หลังคลอด ไว้อย่างน่าสนใจเลยค่ะ ทีมงาน Amarin baby & kids อยากให้คุณแม่ที่กำลังเตรียมตัวคลอด และคุณแม่ที่อยู่ในช่วงหลังคลอดลูกมาใหม่ๆ ได้ลองนำไปปรับใช้กันค่ะ
1. อย่ารู้สึกผิดที่จะขอความช่วยเหลือจากคนอื่น
It takes a village to raise a child สุภาษิตของชาวแอฟริกัน ที่แปลตรงๆได้ว่า “ต้องใช้ทั้งหมู่บ้านในการเลี้ยงเด็ก”คุณแม่ส่วนใหญ่คิดว่าการเป็นคุณแม่ที่ดีคือการที่ต้องทำทุกสิ่งทุกอย่างด้วยตัวเอง แต่จริงๆแล้วการเลี้ยงเด็กอ่อนไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะฉะนั้นอย่ารู้สึกผิดเวลาที่คุณต้องการขอความช่วยเหลือจากคนใกล้ตัว มันไม่ได้แปลว่าคุณเป็นแม่ที่ไม่ดี
2. อย่ารู้สึกผิดเวลาที่คุณต้องการมีเวลาเป็นของตัวเอง
คุณแม่ส่วนใหญ่มักจะรู้สึกว่าตัวเองนั้นเห็นแก่ตัว หากต้องทิ้งลูกไปทำธุระส่วนตัว แต่จริงๆแล้วคุณแม่ควรให้ความสำคัญกับการดูแลตัวเอง เช่นการหาเวลาไปออกกำลังกาย หรือการทำกิจกรรมผ่อนคลายอื่นๆ เพื่อเป็นการชาร์ตแบตเตอรี่ตัวเอง เพราะถ้าคุณแม่ไม่ดูแลตัวเอง คุณแม่ก็จะไม่สามารถดูแลลูกน้อยได้อย่างเต็มที่
คุณเกล Founderของ My Mummy First
3. อย่าละเลยความสัมพันธ์ของคุณและสามี
เวลาที่คุณมีลูก แน่นอนว่าความสัมพันธ์ระหว่างคุณและสามีนั้นจะเปลี่ยนไป เพราะเวลาและความสนใจจะถูกทุ่มเทไปที่ลูก แต่อย่าลืมว่าความสัมพันธ์ของคุณและสามีนั้น คือจุดเริ่มต้นของทุกอย่าง
4. อย่ากังวลกับน้ำหนักตัวของคุณ
คุณแม่ส่วนใหญ่มักคาดหวังว่าจะต้องลดน้ำหนักให้ได้ภายในระยะเวลาสั่นๆ หลังคลอด แต่สิ่งที่คุณแม่ควรจะใส่ใจมากกว่าน้ำหนักตัวนั้น คือการดูแลตัวเองผ่านการทานอาหารที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะคุณแม่ที่ให้นมลูก เพราะร่างกายต้องกายสารอาหารที่เพียงพอเพื่อมาผลิตน้ำนม
5. อย่ากังวลกับการเป็นแม่ที่สมบูรณ์แบบ
คุณแม่ทุกคนล้วนแต่จะทำสิ่งที่ตัวเองคิดว่าเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับลูกตัวเองทั้งนั้น เพราะฉะนั้นคำแนะนำต่างๆที่มาจากคุณแม่คนอื่นคือสิ่งที่เขาคิดว่ารู้สึกว่าเป็นสิ่งที่ดีที่สุด แต่มันอาจจะไม่ใช่สิ่งที่คุณเห็น ซึ่งก็ไม่ได้แปลว่าใครผิดใครถูก การเลี้ยงลูกเป็นศิลปะไม่ใช่วิทยาศาสตร์ที่สามารถพิสูจน์ได้ เพราะฉะนั้นฟังหูไว้หูและหาแบบฉบับที่เหมาะกับคุณและที่คุณสบายใจ