เด็กสมบูรณ์แข็งแรงต้องมาเจอแบบนี้ เราและทางบ้านเด็กไม่มีใครได้ดูน่าเด็กจนมาเสียชีวิตถึงพบ เด็กหน้าตาน่าเกลียดน่าชังมาก เราไม่อยากให้เกิดกรณีแบบนี้กับใครอีก ควรทำอย่างไร? ถ้าเกิดมันเป็นเพราะความโชคร้ายเพราะเกิดจากโรคไม่ใช่ Human Error เราก็จะทำใจไม่เอาความ
เกิดแบบนี้ทำไรได้บ้างคะควีน?? เคยแต่อ่านข่าวไม่คิดจะเกิดกับคนใกล้ตัว…
โพสต์โดย แหม่มโพธิ์ดำ เมื่อ 25 เมษายน 2018
ข้อมูลและภาพ จากเพจเฟซบุ๊ก : แหม่มโพธิ์ดำ
และจากเหตุการณ์นี้เองก็มีผู้ที่ติดตามเพจ “แหม่มโพธิ์ดำ” ต่างก็แห่เข้ามาคอมเมนต์แสดงความคิดเห็น พร้อมกับแชร์เรื่องราวดังกล่าวออกไปอย่างแพร่หลาย ทาง Amarin Baby & Kids จึงได้หาข้อมูลข่าวเพิ่มเติม และได้เรื่องว่า…
หลังจากที่เพจแหม่มโพธิ์ดำได้โพสต์ ถึง การเสียเสียของหนูน้อยคนนี้ ซึ่งเป็นลูกชายของนางพิมพร เอี่ยมอนันต์ อายุ 27 ปี ชาวบ้านหมู่ 2 ต.โกรกพระ อ.โกรกพระ และได้ข้อเท็จจริงว่า เรื่องราวที่แหม่มโพธิ์ดำได้โพสต์ออกไปนั้น เป็นเรื่องจริง และตนเพิ่งจะจัดงานเผาศพให้กับลูกชายไปแล้ว ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้น เริ่มจากตนท้องกับสามี และได้ไปฝากท้องที่โรงพยาบาลของ อ.โกรกพระ พร้อมกับตรวจสุขภาพเด็กที่อยู่ในครรภ์มาตลอด พบว่า สุขภาพแข็งแรงดีไม่มีความผิดปกติใดๆ จนกระทั่ง ครบ 41 สัปดาห์ จึงได้ไปพบแพทย์ตามกำหนดที่โรงพยาบาลเดิมอีกครั้ง
ปรากฏว่า แพทย์ระบุต้องให้ผ่าคลอดทันที จึงได้นำตัวตนส่งมาผ่าคลอดที่โรงพยาบาลของจังหวัด แต่ทางแพทย์ของโรงพยาบาลดังกล่าวกลับไม่ยอมผ่าคลอดให้ โดยบอกให้ตนกลับมาอยู่บ้านก่อน เพราะปากมดลูกยังไม่เปิด ซึ่งก็ผ่านเลยไปอีก 6 วัน จึงเดินทางกลับไปที่โรงพยาบาลอีกครั้ง เพื่อให้แพทย์ผ่าคลอดให้ เพราะตนปวดท้องหนัก โดยตนเดินทางไปถึงตอนบ่าย แต่กว่าจะผ่าให้ต้องรอเวลาจนถึง 22.30 น.
“หลังจากผ่าคลอดออกมาแล้ว ปรากฏว่า ลูกชาย เกิดติดเชื้อในปอดและลามไปยังส่วนอื่นๆ เนื่องจากแพทย์ให้ข้อมูลว่าเด็กสำลักน้ำคร่ำในท้องและกินขี้ตัวเองในท้องนานเกินไป ซึ่งก็ต้องรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลถึง 14 วัน แต่แพทย์ก็ไม่สามารถช่วยชีวิตได้ จึงทำให้ตนรู้สึกเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก ซึ่งคุณแม่เองเชื่อว่า หากแพทย์ดำเนินการทันทีในตอนนั้น ลูกของตนต้องไม่มาเสียชีวิตแบบนี้”
เมื่อถามถึงว่าจะเอาอย่างไรต่อกับเรื่องที่เกิดขึ้น ผู้เป็นแม่ก็บอกว่า… แม้จะเสียใจอยู่ก็ตาม แต่ก็คงไม่เอาเรื่องอะไร ตนอยากให้จบไป เพราะเด็กก็เสียไปแล้ว ร้องต่อสู้กันไป ลูกตนก็ไม่ฟื้นขึ้นมาอยู่ดี แต่ก็อยากฝากเรื่องนี้ให้เป็นอุทาหรณ์ และเกิดขึ้นกับครอบครัวของตนเองเป็นครั้งสุดท้าย
ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก : ผู้สื่อข่าวทีนิวส์จังหวัดนครสวรรค์ www.77jowo.com