อยากท้อง ต้องเตรียมตัวอย่างไร ? - amarinbabyandkids
อยากท้อง ต้องเตรียมตัวอย่างไร

อยากท้อง ต้องเตรียมตัวอย่างไร

Alternative Textaccount_circle
event
อยากท้อง ต้องเตรียมตัวอย่างไร
อยากท้อง ต้องเตรียมตัวอย่างไร

อาหารบำรุงก่อนตั้งครรภ์

ผู้หญิงที่เตรียมตัวจะเป็นแม่ต้องอ่านให้ดีค่ะ เพราะถ้าเมื่อใดที่คุณอุ้มท้อง ลูกจะดึงเอาสารอาหารจากร่างกายแม่ไปใช้ ถ้าร่างกายของคุณไม่ได้สะสมสารอาหารไว้มากพอ ร่างกายสึกหรอไปได้ง่ายมากๆ และหลังจากคลอดลูกอาจมีปัญหาสุขภาพตามมา ทั้งโรคกระดูกพรุน โรคโลหิตจาง เป็นต้น

เอาเป็นว่าเรามาเตรียมสะสมพลังงาน และสารอาหารต่างๆ ที่จำเป็นให้กับร่างกายก่อนท้องกันค่ะ อาหารที่ว่านี้ก็คือ กลุ่มอาหารที่มีประโยชน์ครบ 5 หมู่ นอกจากนี้ควรงดอาหาร เครื่องดื่มจำพวก น้ำอัดลม แอลกอฮอล์อาหารกึ่งสุกกึ่งดิบ อาหารหมักดอง ของหวานมากๆ หรือประเภทมันเลี่ยนไขมันเยอะกันด้วยนะคะ

กรดโฟลิก (Folic Acid)

ผู้หญิงทุกคนที่กำลังเตรียมร่างกายเพื่อการตั้งครรภ์ จำเป็นอย่างมากที่ควรหากรดโฟลิกมาทานกัน ซึ่งสามารถหาซื้อตามร้านขายยาแผนปัจจุบัน หรือสอบถามจากคุณหมอที่ไปปรึกษาเรื่องการมีลูกก็ได้เช่นกันค่ะ

มีงานวิจัยทางการแพทย์แนะนำสำหรับผู้หญิงที่กำลังจะมีลูก ให้ทานโฟเลต(Folate) หรือ กรดโฟลิก(Folic Acid) ก่อนที่จะมีการตั้งครรภ์ล่วงหน้าอย่างน้อย 3 เดือน และหลังจากตั้งครรภ์ก็ให้ทานต่อเนื่องไปจนอายุครรภ์ได้ 12 สัปดาห์ ซึ่งผลการวิจันพบว่าการทานโฟลิกจะช่วยป้องกัน และลดปัญหาความผิดปกติของระบบสมอง และระบบประสาทของทารกในครรภ์ เช่น ภาวะไม่มีเนื้อสมอง ภาวะไขสันหลังไม่ปิด สำหรับกรดโฟลิกมีความจำเป็นในการช่วยสร้างเซลล์สมอง และพัฒนาการของเซลล์สมองให้กับทารกในครรภ์[1]

แหล่งอาหารที่อุดมไปด้วยกรดโฟลิก ที่นอกเหนือจากการทานในรูปวิตามินแล้ว ก็สามารถหาทานใน ผักใบเขียวเข้มทุกชนิด ฟักทอง ตับ ไข่แดง อะโวคาโด แคนตาลูป แครอท เป็นต้น ซึ่งปริมาณที่แนะนำต่อวันเพื่อให้ร่างกายได้รับกรดโฟลิกอย่างเพียงพอ คือ 400 ไมโครกรัมค่ะ

ธาตุเหล็ก (Iron)

ในช่วงที่ทารกน้อยกำลังเจริญเติบโตอยู่ในครรภ์ของแม่ เขาจะดูดเอาสารอาหารอย่างธาตุเหล็กจากร่างกายแม่ไปใช้เพื่อสร้างพัฒนาการสมอง และสร้างเลือดในร่างกาย ดังนั้นทั้งก่อนและระหว่างตั้งครรภ์แม่ต้องไม่ปล่อยให้ร่างกายขาดธาตุเหล็กเด็ดขาด เพราะการที่ปริมาณธาตุเหล็กในร่างกายแม่ลดลง อาจทำให้แม่มีปัญหาสุขภาพอย่างภาวะโลหิตจางตามมาได้ค่ะ แหล่งอาหารที่มีธาตุเหล็กสูงก็ได้แก่ เนื้อสัตว์ ตับ ไข่แดง  ผักโขม ถั่วฝักยาว หน่อไม้ฝรั่ง ใบชะพลู ใบตำลึง งาดำ งาขาว ถั่วเหลือง ถั่วแดง ข้าวโอ๊ต เป็นต้น อย่าลืมหามารับประทานกันด้วยนะคะ

ไอโอดีน (Iodine)

หลายคนที่กำลังเตรียมตัวจะมีลูก อาจลืมไปว่าสารอาหารอย่างไอโอดีน นี่ก็สำคัญไม่แพ้สารอาหารตัวอื่นๆ เลยนะคะ แนะนำว่าทั้งก่อนตั้งครรภ์ และระหว่างตั้งครรภ์ จำเป็นมากที่แม่ต้องกินอย่าให้ขาด สำหรับไอโอดีนเป็นแร่ธาตุที่สำคัญต่อการทำงานของต่อมไทรอยด์ ในคนท้องที่ร่างกายขาดหรือมีปริมาณไอโอดีนไมมากพอ สามารถส่งผลกระทบทำให้ พัฒนาการสมองของลูกในครรภ์ผิดปกติได้ การทำงานของกล้ามเนื้อไม่ประสานกัน ฯลฯ แหล่งอาหารที่ไอโอดีน ก็เช่น ในอาหารทะเลทุกชนิด ปลาทะเล ปู หอย ฯลฯ

แคลเซียม (Calcium)

รู้ไหมคะว่า หลังคลอดลูกแล้ว แม่อาจมีปัญหาสุขภาพเกี่ยวกับโรคกระดูกพรุน และฟันพุได้มาก ที่เป็นแบบนี้ก็เพราะขณะ ตั้งครรภ์ลูกในท้องดูดเอาแคลเซียมจากร่างกายแม่ไปใช้ในการสร้างร่างกาย และสร้างพัฒนากระดูกเป็นจำนวนมาก  ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้มีปัญหาสุขภาพตามมาในภายหลัง แนะนำว่าก่อนท้องและขณะตั้งครรภ์ แม่จะต้องเติมแคลเซียม ให้ร่างกายอย่างสม่ำเสมอ

ซึ่งตามปกติร่างกายของคนเราจะดูดซึมแคลเซียมครั้งละ 500-600 มิลลิกรัม แต่ในผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ร่างกายจะมีความต้องการปริมาณแคลเซียมสูงถึงวันละ 1,000-1,200 มิลลิกรัม แคลเซียมมีส่วนสำคัญต่อการทำงานของเซลล์ต่างๆ ภายในร่างกาย เป็นส่วนประกอบสำคัญของกระดูก ฟัน และเนื้อเยื่อต่างๆ ด้วยค่ะ ดังนั้นเรามาเริ่มสะสมแคลเซียมให้ร่างกายกันดีกว่า ซึ่งแหล่งอาหารที่อุดมด้วยแคลเซียม ก็คือ นมสด ชีส โยเกิร์ต งา ผักคะน้า กวางตุ้ง ตำลึง ขี้เหล็ก ใบบัวบก ถั่วพู ปลาข้าวสาร ปลาเล็กปลาน้อย(ทานได้ทั้งกระดูก)  กุ้งฝอย เต้าหู้ ถั่วเหลือง ถั่วแดง เป็นต้น

 

บทความแนะนำ คลิก>> 5 ท่าบริหารสำหรับคนอยากมีลูก

สุขภาพร่างกายที่แข็งแรงสมบูรณ์ก่อนมีลูก ทำได้ไม่ยากค่ะ เพียงแค่เริ่มต้นดูแลตัวเองตั้งแต่วันนี้ด้วยการทานอาหารที่มีประโยชน์ หมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ไม่เครียด พักผ่อนให้เพียงพอ เมื่อร่างกายผ่อนคลาย การมีลูกก็ไม่ใช่เรื่องยากแล้วค่ะ

อ่านต่อ ท้องแล้วต้องรับมือกับอะไรบ้าง? หน้า 3

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up