อดีตคุณหมอชาวอเมริกันเคย “ทำแท้ง” ให้ผู้หญิงมามากกว่า 1,200 คน ได้ออกมาเล่าประสบการณ์เกี่ยวกับการทำแท้งเพื่อให้เป็นอุทาหรณ์กับใครหลายๆ คนที่คิดจะทำ โดยในปี 1980 เป็นจุดเริ่มต้นของธุรกิจบริการทำแท้ง แต่ในปัจจุบันทั้งแพทย์ และนักกฎหมายหลายคนยุติการทำแท้งกันแล้ว
วิธีแรก:การทำแท้งด้วย “ยา”
การทำแท้งด้วยการทานยา ซึ่งวิธีนี้ผู้หญิงตั้งครรภ์จะต้องทานยาทั้งหมด 2 เม็ด ยาจะออกฤทธิ์ทำให้เด็กที่อยู่ในครรภ์เสียชีวิตก่อน หลังจากนั้นยาก็จะเป็นตัวช่วยที่ทำให้เด็กหลุดออกมา โดยที่ไม่ต้องผ่าตัด
ยาแท้ง หรือเป็นที่รู้จักกันในชื่อ RU-486 ยาชนิดนี้ออกฤทธิ์โดยต้านการฝังตัวของทารกในครรภ์ และหยุดจ่ายฮอร์โมนเพศที่เข้าไปดูแลการทำงานของมดลูก จนทำให้เด็กในครรภ์ไม่มีอากาศหายใจและไม่มีเลือดไปหล่อเลี้ยงร่ายกาย ในที่สุดทารกในครรภ์ก็จะเสียชีวิต
หลังจากเมื่อร่างกายขาดฮอร์โมนตัวนี้จะทำให้มดลูกไม่สามารถรองรับการตั้งครรภ์และเริ่มมีการขับเซลล์เลือดออกมา และเด็กก็จะเสียชีวิต
หลังจากทานยาแล้ว 1-2 วัน ให้ผู้ตั้งครรภ์ทานยา “Misoprostol” ตาม ยานี้จะออกฤทธิ์ทำให้มดลูกหดตัว จนขับเลือดและทารกออกมา
สิ่งที่น่ากลัวที่สุดในการใช้วิธีนี้ก็คือ หลังจากที่ทานยาแท้งทั้งสองชนิดนี้แล้ว ทารกที่อยู่ในครรภ์อาจจะขับออกมาได้ตลอดเวลา โดยที่มีสามารถรู้เวลาแน่นอนได้ เวลาที่เด็กทารกที่เสียชีวิตแล้วจะหลุดออกมา ผู้ตั่งครรภ์อาจจะเห็นตัวเด็กแค่เล็กๆ แต่บางกรณีที่เด็กมีอายุครรภ์มากแล้ว เวลาที่ขับออกมาก็จะเห็นแขนขามือเท้าอย่างชัดเจน ดังนั้นในกรณีนี้ตัวผู้ทำแท้งจะเกิดอาการแทรกซ้อน เช่น ปวดท้อง, ปวดศีรษะ, อาเจียน หรือเลือดออกมากเกินไป 1% ของผู้ทำแท้งอาจจะต้องเข้าผ่าตัดอีกรอบ
มาดูคลิป “การทำแท้งด้วยการทานยา”
อ่านต่อ วิธีที่สอง :การทำแท้งด้วยศัลยกรรมแบบขูด คลิกหน้า 2