ยาคุมกินแล้วไม่อ้วน แนะวิธีเลือกยา คุมได้ไม่อ้วนไม่บวม - Amarin Baby & Kids
ยาคุมกินแล้วไม่อ้วน

ยาคุมกินแล้วไม่อ้วน แนะวิธีเลือกยา คุมได้ไม่อ้วนไม่บวม

Alternative Textaccount_circle
event
ยาคุมกินแล้วไม่อ้วน
ยาคุมกินแล้วไม่อ้วน

ยาคุมกินแล้วไม่อ้วน กินแบบไหน ยี่ห้ออะไร มาดูคำแนะนำวิธีเลือกยาคุม ที่คุมกำเนิดได้ แถมไม่บวม ไม่อ้วนให้กังวลใจ เพื่อสาวๆที่ยังไม่พร้อมจะมีลูก

ยาคุมกินแล้วไม่อ้วน แนะวิธีเลือกยา คุมได้ไม่อ้วนไม่บวม

การทานยาคุมกำเนิด (Birth control pill) เป็นวิธีคุมกำเนิดที่บรรจุฮอร์โมนเพศหญิง คือ เอสโตรเจน (Estrogen) และโปรเจสเตอโรน (Progesterone) เพื่อออกฤทธิ์ต่อการทำงานของอวัยวะสืบพันธุ์ยับยั้งการตกไข่ ซึ่งเป็นวิธีที่ค่อนข้างได้รับความนิยม เพราะสามารถซื้อได้ง่าย หากรับประทานยาถูกวิธีจะทำให้สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ แต่มีคนไม่น้อยที่มีความเชื่อผิด ๆ หรือรับประทานยาคุมกำเนิดที่ผิดวิธี ซึ่งอาจนำมาถึงปัญหาการตั้งครรภ์ได้

รอบรู้เรื่อง…ยาคุม

ประเภทของยาคุมกำเนิด

ยาคุมกำเนิดมี 3 ชนิด คือ ยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม ยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนเดี่ยว และยาคุมกำเนิดชนิดเม็ดแบบฉุกเฉิน โดยมีรายละเอียดดังนี้

  • ยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม (Combined Oral Contraceptive – COC) จะประกอบด้วยฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสโตเจนรวมกันในเม็ดเดียว โดยยาคุมชนิดนี้จะมีประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์สูงมาก หากรับประทานอย่างสม่ำเสมอ และยังมีผลดีทำให้ประจำเดือนมาตรงเวลาอย่างสม่ำเสมอ อาจปวดประจำเดือนน้อยลงได้
  • ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนเดี่ยว (Progestrogen-only pills – POP) จะมีฮอร์โมนโพรเจสเตอโรนเพียงอย่างเดียว ยาคุมชนิดนี้ในหนึ่งแผงจะมีทั้งหมด 28 เม็ด รับประทานได้ทุกวันโดยไม่ต้องหยุด เมื่อรับประทานหมดแล้วก็สามารถรับประทานแผงใหม่ต่อได้เลย เป็นชนิดที่ผลิตออกมาเพื่อลดอาการข้างเคียงจากฮอร์โมนเอสโตรเจน
  • ยาคุมกำเนิดชนิดเม็ดแบบฉุกเฉิน (Emergency contraception pill) มักใช้เฉพาะในยามฉุกเฉิน เช่น ถุงยางแตก หรือรั่ว เป็นต้น
    ยาคุมกำเนิด ยาคุมกินแล้วไม่อ้วน สำหรับผู้ที่ยังไม่พร้อมมีบุตร
    ยาคุมกำเนิด ยาคุมกินแล้วไม่อ้วน สำหรับผู้ที่ยังไม่พร้อมมีบุตร

     

วิธีรับประทานยาเม็ดคุมกำเนิดแบบแผง 21,22 เม็ด

ให้เริ่มรับประทานยาในวันแรกของรอบเดือน (อาจเริ่มรับประทานยาช้ากว่านี้ได้ แต่ต้องไม่เกินวันที่ 5 ของรอบประจำเดือน) รับประทานยาติดต่อกันทุกวันจนหมดแผง ในเวลาใดก็ได้แต่ควรรับประทานเวลาเดียวกันทุกวัน จากนั้นหยุดยา 7 วัน สำหรับผู้ที่ใช้ยาชนิด 21 เม็ด และ หยุด 6 วัน สำหรับผู้ที่ใช้ยาชนิด 22 เม็ด ในระหว่างนี้ควรมีเลือดประจำเดือนมา และเมื่อหยุดยาครบ 7 วัน หรือ 6 วัน ให้เริ่มรับประทานยาแผงใหม่ได้ ถึงแม้ว่าประจำเดือนจะหมดหรือยังก็ตาม

วิธีรับประทานยาเม็ดคุมกำเนิดแบบแผง 28 เม็ด

ให้เริ่มรับประทานยาในวันแรกของรอบประจำเดือนเช่นกัน โดยรับประทานยาเม็ดแรกในส่วนที่ระบุบนแผงว่าเป็นจุดเริ่มต้นใช้ยา และรับประทานตามวันกำกับตามทิศลูกศรจนหมดแผง และเริ่มรับประทานยาแผงใหม่ต่อได้ทันที ถึงแม้ประจำเดือนจะหมดหรือยังก็ตาม

ช่วยด้วย!! ลืมกินยาคุม

เนื่องจากยาเม็ดคุมกำเนิด เป็นยาที่ต้องรับประทานติดต่อกันทุกวัน การลืมรับประทานยาเป็นเรื่องที่พบบ่อยๆ แม้ว่าไม่เป็นอันตรายแต่ก็มีผลเสีย เช่น ทำให้ผู้ใช้มีเลือดออกกระปริบกระปรอย และถ้าลืมบ่อยๆ อาจเกิดการตั้งครรภ์ได้ จึงควรรับประทานยาในเวลาเดียวกันทุกวัน เก็บยาในที่เห็นง่ายๆ เพื่อช่วยเตือนไม่ให้ลืมรับประทานยา

หากลืมกินยาคุม ให้รีบทำตามดังนี้

  1. หากลืมรับประทานยา 1 เม็ด ให้รับประทานยาทันทีที่นึกได้ และรับประทานเม็ดต่อไปตามปกติ
  2. หากลืมกินยา 2 เม็ด ติดต่อกันในช่วง 2 สัปดาห์แรก ให้รับประทานยาครั้งละ 2 เม็ด ติดต่อ 2 วัน และรับประทานยาต่อไปตามปกติจนหมดแผง ให้ใช้ถุงยางอนามัย ร่วมด้วย หรืองดร่วมเพศ 7 วัน
  3. ลืมกินยา 2 เม็ด ติดต่อกันในช่วงสัปดาห์ที่ 3 หรือลืมมากกว่า 2 เม็ด ในช่วงใดก็ตามให้หยุดยาแผงนั้นจนกว่าจะมีเลือดประจำเดือน จึงเริ่มยาแผงใหม่ ให้ใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วยหรืองดร่วมเพศ ตั้งแต่เริ่มหยุดยา จนรับประทานยาแผงใหม่ไปได้ 2 สัปดาห์

ข้อแนะนำในการรับประทานยาคุม

  • ควรรับประทานยาคุมกำเนิดในเวลาเดิมทุกวัน หากลืมทานยาให้ทำตามคำแนะนำข้างต้น
  • ห้ามรับประทานยาคุมกำเนิดหลังวันหมดอายุที่แจ้งไว้บนแผงยา
  • ควรงดการสูบบุหรี่ เพราะการสูบบุหรี่เป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดดำ เนื่องจากยาคุมกำเนิดมีฮอร์โมนที่เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคลิ่มเลือดอุดตัน
  • หากมีอาการท้องเสีย ถ่ายเหลว และอาเจียนจะมีผลทำให้การดูดซึมของยาน้อยลง จึงควรใช้วิธีการคุมกำเนิดอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น ใช้ถุงยางอนามัย เป็นต้น
  • สำหรับสตรีให้นมบุตร ควรใช้ยาคุมกำเนิดชนิดที่มีฮอร์โมนโปรเจสโตเจนเพียงอย่างเดียว

ยาคุมกำเนิดอาจเป็นตัวช่วยเพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ที่ให้ผลดี แต่ยาคุมกำเนิดไม่สามารถป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ และค่อนข้างมีผลข้างเคียงมากกว่าการป้องกันด้วยวิธีอื่น ดังนั้นการรับประทานยาคุมควรได้รับคำแนะนำจากแพทย์เพื่อความปลอดภัย และป้องกันผลข้างเคียงที่อาจตามมาได้

ความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับ…ยาคุมกำเนิด

ความเชื่อเกี่ยวกับยาคุม ยาคุมกินแล้วไม่อ้วน
ความเชื่อเกี่ยวกับยาคุม ยาคุมกินแล้วไม่อ้วน

ความเชื่อที่ 1 ยาคุมกำเนิดฉุกเฉินกินแล้วไม่ท้อง 100%

เป็นความเชื่อที่ XXX

ถึงแม้ว่ายาคุมฉุกเฉินเนี้ยจะช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้ แต่ว่าเราต้องอย่าลืมว่าไม่มียาคุมตัวไหนที่สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 100% โดยยาคุมกำเนิดแบบฉุกเฉินจะมีโอกาสในการป้องกันน้อยกว่ายาคุมปกติพอสมควร ควรใช้ในยามจำเป็นเท่านั้น เช่น ลืมกินยาคุมแบบปกติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเรารับประทานยาคุมฉุกเฉินได้อย่างไม่ถูกวิธี ประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์เนี้ยก็จะยิ่งลดลงไปอีก เช่น ไม่ได้กินยาคุมฉุกเฉินหลังจากที่มีเพศสัมพันธ์มาแล้วภายใน 72 ชั่วโมง รับประทานยาคุมฉุกเฉินแบบชนิดสองเม็ดแต่ลืมกินเม็ดที่สอง เป็นต้น ตัวอย่างนี้เป็นพฤติกรรมการกินยาคุมฉุกเฉินที่ผิด จะทําให้เรามีโอกาสเสี่ยงในการตั้งครรภ์มากขึ้น

ความเชื่อที่ 2 กินยาคุมฉุกเฉินทำให้เป็นมะเร็ง

เป็นความเชื่อที่ XXX

ยาคุมกำเนิดแบบฉุกเฉินไม่ได้มีผลทำให้เกิดมะเร็งแต่อย่างใด แต่ผู้ที่เป็นโรคมะเร็งเต้านม มะเร็งปากมดลูก มะเร็งรังไข่ ไม่ควรรับประทานเพราะฮอร์โมนที่รับประทานอาจเพิ่มการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งได้

ความเชื่อที่ 3 กินยาคุมแล้วทำให้มีลูกยากในอนาคต

เป็นความเชื่อที่ XXX

ความเชื่อที่ว่าผู้หญิงที่กินยาคุมกําเนิดมาเป็นระยะเวลานาน แล้วจะทําให้มดลูกเราแห้ง ส่งผลให้เรามีลูกยาก เป็นความเชื่อที่ผิด จริงๆ แล้วการที่เรามีลูกยาก เป็นเพราะว่าฮอร์โมนในร่างกายของเราไม่สมดุล ไม่ได้เป็นเพราะว่ายาคุมกําเนิดแต่อย่างใด หากเราหยุดรับประทานยาคุมกําเนิดแล้ว ร่างกายจะปรับสมดุลให้การเกิดประจําเดือนแล้ว ก็การไข่ตกเป็นปกติภายใน 1-2 เดือน เพียงแต่ประจําเดือนอาจจะมาน้อยลงเท่านั้น เพราะว่าร่างกายของเราเคยชินกับการที่รับประทานยาคุมมาเป็นระยะเวลานาน แต่พอหยุดกินยาคุมไข่ของเราก็จะตกได้ตามปกติ ไม่ส่งผลให้เกิดภาวะมีบุตรยากแต่อย่างใด ดังนั้น หากเราหยุดรับประทานยาคุมกําเนิดแล้ว เราก็จะสามารถตั้งครรภ์ได้ตามปกติ

อ่านต่อ >>ความเชื่อเกี่ยวกับยาคุมกำเนิด ความเชื่อไหนจริง ความเชื่อไหนเฟค อยากรู้ คลิกหน้า 2

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

 

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up