เมื่อตอนที่แล้ว (คลิกอ่าน – ตอนที่ 1 แนวคิดการเลือกเพศด้วยวิธีธรรมชาติ) เราทราบถึงแนวความคิดของคนสมัยก่อนที่พยายามเลือกเพศลูกด้วยวิธีธรรมชาติ ในบทความนี้เรามาดูกันค่ะว่า เมื่อการแพทย์พัฒนามากขึ้น จะช่วยเหลือคู่สามีภรรยาด้านการเจริญพันธุ์ได้อย่างไร
มี 3 เทคโนโลยีทางวิทยาศาสตร์ที่ช่วยให้คู่สามีภรรยาสามารถเลือกเพศลูกได้โดยอาศัยหลักการทางธรรมชาติ
- การปั่นคัดแยกสเปิร์ม (Sperm spinning)
- การวินิจฉัยโรคทางพันธุกรรมตรวจสอบก่อนตั้งครรภ์ (PGD : Preimplantation Genetic Diagnosis)
- การคัดเชื้อภายในกล้องจุลทรรศน์ (MicroSort)
1. Sperm Spinning
สเปิร์มที่บรรจุโครโมโซม Y ซึ่งเป็นโครโมโซมบ่งบอกความเป็นเพศชาย จะว่ายได้เร็วกว่าสเปิร์มที่บรรจุสารพันธุกรรมของเพศหญิง (X) ในสารแอลบูมิน ดังนั้นเราจึงใช้เทคนิคทางห้องปฏิบัติการในการปั่นแยกชั้นของสเปิร์มเพื่อแยกเอาตัวสเปิร์มเพศที่ต้องการได้ ราคาอยู่ที่ 20,000 – 30,000 บาท
2. PGD : Preimplantation Genetic Diagnosis
นอกจากการคัดเลือกเพศแล้ว คู่สามีภรรยาบางคู่ยังจำเป็นต้องใช้การตรวจ PGD เพื่อตรวจหาโรคทางพันธุกรรมบางอย่าง เพื่อทราบความเสี่ยงก่อนการตั้งครรภ์ ตัวอย่างเช่น คนไทยบางคนเมื่อสมรสกันแล้วโอกาสจะเกิดลูกที่มีโรคทาลัสซีเมียแบบรุนแรงสูง ดังนั้นหากทราบพันธุกรรมของตัวอ่อนก่อนตั้งครรภ์จะช่วยลดค่าเสียโอกาสในการเลี้ยงดู หรือโรคบางโรคถ้าฝ่ายหญิงตั้งครรภ์แล้วจะเกิดครรภ์เป็นพิษจากสายรก คู่สามีภรรยาจะได้ทราบความน่าจะเป็นของความเสี่ยงในแต่ละโรคก่อนการตั้งครรภ์ ผลพลอยได้ของการตรวจ PGD คือ สามารถตรวจเลือกเพศได้
3. MicroSort
คือการคัดเลือกเพศภายใต้กล้องจุลทรรศน์ เมื่ออสุจิกับไข่ผสมกันแล้วส่องดูภายใต้กล้องจุลทรรศน์ เราจะสามารถเห็นลักษณะที่แตกต่างกันบางอย่าง หรือสามารถดูดเอาเซลล์ภายในตัวอ่อนไปตรวจทราบเพศได้ หรือหากเรารู้เพศของสเปิร์มที่จะฉีดเข้าไปในไข่ เราก็สามารถทำภายใต้กล้องจุลทรรศน์ได้ ตัวอย่างของเทคนิคนี้ ได้แก่ การทำเด็กหลอดแก้ว IVF
บทความโดย: กองบรรณาธิการนิตยสารเรียลพาเรนติ้ง
ภาพ : Shutterstock