ยาเม็ดคุมกำเนิด
สำหรับคุณแม่ท่านใดที่ต้องการรับประทานยาเม็ดคุมกำเนิดก็ควรปรึกษาหรือสอบถามแพทย์ หรือทางเภสัชกรให้จัดยาที่ไม่มีฮอร์โมนเอสโตรเจนหรือมีปริมาณฮอร์โมนดังกล่าวน้อยที่สุด เพราะฮอร์โมนชนิดนี้จะทำให้การสร้างน้ำนมลดน้อยลงนั่นเองค่ะ การกินยาเม็ดคุมกำเนิด เป็นวิธีคุมกำเนิดที่ใช้กันมาก มีความปลอดภัยสูง มีภาวะแทรกซ้อนต่ำ หาซื้อง่าย มีประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดดี หากกินอย่างถูกต้องสม่ำเสมอ มี 2 แบบ คือ
แบบที่ 1 : โปรเจสเตอโรนอย่างเดียว (Exluton, Cerazette) เหมาะสำหรับการใช้ใน 6 เดือนแรก เพราะไม่มีฤทธิ์กดการหลั่งน้ำนม และไม่ทำให้คุณภาพของน้ำนมเปลี่ยนแปลง แต่ทั้งนี้คุณแม่จะต้องให้นมลูกเต็มที่ด้วย
ข้อพึงระวัง ยาตัวนี้ออกฤทธิ์ทำให้มูกที่ปากมดลูกข้นเหนียว ทำให้เชื้ออสุจิว่ายเข้าไปในโพรงมดลูกไม่ได้ ไม่กดการตกไข่ จึงต้องกินยาทุกวันและตรงเวลา หากผิดเวลาเกิน 3 ชั่วโมง จะต้องใช้การคุมกำเนิดวิธีอื่นร่วมด้วยจึงได้ผล
แบบที่ 2 : ฮอร์โมนรวม (เอสโตรเจน+โปรเจสเตอโรน) ยาคุมกำเนิดชนิดนี้ควรเริ่มกินเมื่อน้ำนมแม่สร้างเต็มที่แล้ว คือ หลังคลอด 6 สัปดาห์ แต่บางรายพบว่า การสร้างน้ำนมลดลง หากมีอาการเช่นนี้ควรหยุดใช้ยาทันที และปรึกษาคุณหมอเพื่อเปลี่ยนวิธีคุมกำเนิด จึงแนะนำให้ใช้ยาคุมกำเนิดชนิดนี้หลังคลอด 6 เดือนไปแล้ว
ข้อพึงระวัง อาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดศีรษะ เลือดออกกะปริบกะปรอย คุณแม่ที่มีโรคประจำตัว เช่น ไมเกรน โรคตับ เนื้องอกของเต้านม เนื้องอกของระบบสืบพันธุ์ ก็ไม่ควรกินยาคุม เพราะฮอร์โมนจากยาอาจทำให้เนื้องอกโตขึ้นได้
สิ่งสำคัญคือ หากคุณแม่ที่กินยาคุมอาจมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ ซึ่งมักเกิดจากลืมกินยาบ้าง กิน ๆ หยุด ๆ บ้าง กินไม่ตรงเวลาบ้าง
ยาฉีดคุมกำเนิด
ยาฉีดคุมกำเนิดมีฤทธิ์กดการตกไข่ โอกาสตั้งครรภ์มีน้อยมากถ้าฉีดตรงเวลา ถือว่ามีประสิทธิภาพดี เหมาะสำหรับคุณแม่ที่ให้ลูกกินนมแม่ เนื่องจากไม่มีผลต่อคุณภาพและปริมาณของน้ำนม ยาฉีดคุมกำเนิดจะเริ่มฉีดใน 4 สัปดาห์หลังคลอด ในการฉีดแต่ละครั้งสามารถคุมกำเนิดได้นาน 12 สัปดาห์ เมื่อถึงเวลานัดจึงควรมาฉีดให้ตรงเวลา
ข้อพึงระวัง อาจมีปัญหาประจำเดือนมาไม่เป็นปกติ มีประมาณ 50% ที่ไม่มีประจำเดือนมาเลย อีก 25% มีประจำเดือนมากะปริบกะปรอย บางทีอาจมีเลือดออกทั้งเดือน ถ้าเลือดออกไม่มากนัก พอยอมรับได้ก็ไม่มีปัญหา แต่ถ้าเลือดออกมาก ออกนานจนมีผลต่อสุขภาพ ก็ควรเปลี่ยนไปคุมวิธีอื่นจะดีกว่า คนที่ฉีดยาคุมแล้วไม่มีประจำเดือนมา ต่อมาหยุดฉีดยาประจำเดือนกลับมาเป็นปกติ สามารถตั้งครรภ์ได้ ต้องใช้เวลาอีกประมาณ 4-6 เดือนหลังหยุดฉีดไปแล้ว
ยาคุมกำเนิดชนิดฝัง
หลอดยาชนิดฝังจะมีขนาดเล็กประมาณเท่าก้านไม้ขีด ยาวประมาณ 4 เซนติเมตร ตัวยาที่บรรจุข้างในเป็นยาชนิดเดียวกับยาคุมกำเนิดแบบฉีด โดยจะฝังไว้ใต้ท้องแขนท่อนบน ตัวยาจะค่อย ๆ ปล่อยออกมา มีฤทธิ์กดการตกไข่ มีผลคุมกำเนิดได้นาน 3-5 ปี ขึ้นอยู่กับชนิดและจำนวน พอครบกำหนดแล้วก็ต้องผ่าเอาออกหรือเปลี่ยนใหม่ ซึ่งปัจจุบันเป็นที่นิยมเนื่องจากมีการพัฒนายาจากอดีตจำนวนแท่งยามี 6 แท่ง สามารถคุมกำเนิดได้ 5 ปี แต่ปัจจุบันเพียง 1 แท่งสามารถคุมได้ถึง 3 ปี
ยาคุมกำเนิดชนิดฝัง เป็นยาคุมแบบเดียวกับยาฉีด อาจมีผลทำให้ประจำเดือนมาไม่ปกติหรือมาแบบกะปริบกะปรอยได้ และเนื่องจากเป็นการคุมกำเนิดที่มีระยะเวลายาวกว่าการฉีด จึงมีความจำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนวิธี โดยการผ่าออกหากคุณแม่มีเลือดออกมาก