account_circle
ผื่นคันระหว่างตั้งครรภ์ รอยแตกลายที่ท้อง เป็นการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายที่คุณแม่ค่อนข้างกังวล กลัวว่าหากเป็นแล้วผิวจะไม่กลับมาสวยดังเดิม คุณแม่ไม่ต้องกังวลใจไปค่ะ ทีมแม่ ABK มีเคล็ดลับดีๆ ในการดูแลผิวระหว่างตั้งครรภ์ ป้องกันรอยแตกลายที่ท้อง สะโพก ต้นขา รวมถึงบริเวณเต้านม โดย พญ.ญาดา มโนมัยพันธุ์ (หมอแนน) แพทย์ผิวหนังประจำศูนย์ผิวหนังโรงพยาบาลสุขุมวิท เจ้าของเพจหมอมัม มาฝากค่ะ
สวัสดีค่ะหมอแนน เพจหมอมัมค้า…
หลังจากผ่านช่วงการตั้งครรภ์ไตรมาสที่สอง เข้าสู่ไตรมาสที่สาม ร่างกายจะมีการเปลี่ยนแปลงมากขึ้นค่อนข้างชัดเจนนะคะ ทั้งในเรื่องของน้ำหนักตัว และการขยายขนาดของหน้าท้อง ระดับของฮอร์โมนเพศที่สูงขึ้นส่งผลให้ผิวหนังบางบริเวณมีสีคล้ำขึ้น เช่น รักแร้ ขาหนีบ ลานนมและหัวนม คุณแม่บางคนอาจจะมีเส้นสีดำเป็นแนวตรงลงมาจากสะดือจนถึงหัวเหน่า ไม่ต้องตกใจไปนะคะ การเปลี่ยนแปลงด้านสีผิวนี้ เป็นการเปลี่ยนแปลงชั่วคราวระหว่างตั้งครรภ์เท่านั้นค่ะ
ส่วนการขยายขนาดของผิวหนังอย่างรวดเร็วในช่วงท้ายนี้เอง อาจจะส่งผลให้เกิดปัญหาที่ตามมาหลักๆ 2 อย่างคือ
1. ผิวหนังแห้งขึ้นและมีอาการคัน โดยเฉพาะไตรมาสที่สามที่น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นมาก คุณแม่บางคนอาจจะมีผื่นแดงๆ คัน คล้ายลมพิษขึ้นบริเวณผิวหนังหน้าท้องและบริเวณรอยแตกลาย ถ้าเป็นมากขึ้นอาจจะลามไปหน้าอก ต้นแขน ต้นขาได้ค่ะ แต่ไม่ต้องกังวลไปนะคะ ผื่นคันเหล่านี้ไม่อันตราย ทายาบรรเทาอาการได้ และอาการมักหายหลังคลอดลูกประมาณ 1 สัปดาห์ค่ะ
2. ผิวหนังแตกลาย เป็นภาวะที่พบได้มากถึง 80-90% เลยนะคะ ช่วงแรกรอยแตกจะมีสีชมพูอมม่วง ต่อมาจะค่อยๆ จางลงเป็นเส้นสีขาวๆ นอกจากหน้าท้องแล้ว ทุกส่วนที่มีการขยายขนาด ไม่ว่าจะเป็นเต้านม สะโพกและต้นขา มีโอกาสแตกลายได้ทั้งนั้นเลยค่ะ โดยส่วนมากแล้วผิวหนังจะเริ่มแตกลายได้ตั้งแต่ไตรมาสที่สองช่วงท้าย ไปจนถึงช่วง 1 สัปดาห์ก่อนคลอด จะเห็นชัดเจนในคุณแม่ที่น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงท้ายๆของการตั้งครรภ์ค่ะ
วันนี้หมอมีคำแนะนำในการดูแลผิวระหว่างตั้งครรภ์และวิธีป้องกันไม่ให้เกิดรอยแตกลายมาฝากค้า
วิธีป้องกัน รอยแตกลายที่ท้อง ระหว่างตั้งครรภ์
1. ควบคุมการเพิ่มของน้ำหนักตัวให้อยู่ตามเกณฑ์ปกติ โดยตลอดการตั้งครรภ์น้ำหนักควรขึ้นอยู่ในช่วง 12-15 กก. และในช่วงไตรมาสที่สองและสาม น้ำหนักไม่ควรขึ้นเกินสัปดาห์ละ 0.5 กก.นะคะ
2. ทาครีมบำรุงผิวทั่วตัวสม่ำเสมอทุกวันหลังอาบน้ำ หากมีผื่นแดงคันขึ้นสามารถใช้ยาทาบรรเทาอาการคันได้ เช่น Fenistil gel หรือ Systral cream แต่ถ้าคันมากๆ สามารถทายาทาแก้แพ้ที่มีส่วนผสมของเสตียรอยด์ระดับปานกลางเช่น 0.1% Triamcinolone lotion หรือ Elomet cream ได้ในระยะเวลาสั้นๆ ถ้าผื่นเป็นมาก บริเวณกว้าง คันมาก ทายาแล้วไม่ดีขึ้น หมอแนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุของผื่นที่ชัดเจนและรับการรักษาอย่างถูกต้องค่ะ
3. การทาครีมป้องกันผิวแตกลาย ข้อนี้สำคัญมากๆ นะคะ หมออยากแนะนำให้คุณแม่ประโคมครีมบำรุงหน้าท้องอย่างสม่ำเสมอ สามารถทาได้หลายรูปแบบ ทั้ง oil, lotion, cream หรือ ointment ได้เลยค่ะ โดยประสบการณ์ส่วนตัวของหมอ (ที่ประสบความสำเร็จท้องไม่แตกลายนะคะ) หมอทาตัว oil หลังอาบน้ำทันที ตามด้วย lotion ทั้งเช้าและเย็น เพิ่มทาตัว ointment ก่อนนอน ระหว่างวันถ้ารู้สึกแห้งหรือคันบริเวณท้อง สามารถทา cream เพิ่มได้เรื่อยๆ เลยค่ะ ที่สำคัญ อย่าลืมทาเลยไปที่สะโพก ต้นขา และบริเวณเต้านมด้วยนะค้า
อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว ใครที่กำลังลังเลที่จะทาครีม กลัวเหนอะหนะ กลัวสิ้นเปลือง หมอขอกระซิบบอกเพิ่มนะคะ ปัจจุบันยังไม่มีวิธีการรักษารอยแตกลายได้หาย 100% การทำ laser นั้นมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงมาก และต้องทำต่อเนื่องกันหลายครั้งถึงจะเห็นผล บางคนรักษากันเป็นปีๆ ทีเดียวเลยค่ะ หมอว่าโบกครีมป้องกันไว้ก่อนดีกว่าและคุ้มกว่าแน่นอนค่ะ
พญ.ญาดา มโนมัยพันธุ์ (หมอแนน)
แพทย์ผิวหนังประจำศูนย์ผิวหนังโรงพยาบาลสุขุมวิท
เจ้าของเพจหมอมัม
Heatlh Quotient ฉลาดดูแลสุขภาพ หนึ่งใน Power BQ 10 ความฉลาดที่เด็กยุคใหม่ควรมี เริ่มต้นได้ตั้งแต่ในท้องแม่ โดยคุณแม่ตั้งครรภ์ เตรียมพร้อมหาข้อมูลต่างๆ ในการดูแลสุขภาพให้แข็งแรงและปลอดภัยกับลูกในท้อง เพื่อส่งต่อสุขภาพที่ดีสู่ลูกน้อยในครรภ์ เป็นต้นทุนชีวิตที่ดีตั้งแต่แรกเกิดให้กับลูกน้อย
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
ติดตามสาระความรู้ การดูแลผิวคุณแม่ท้องและลูกน้อย
และเคล็บลับเลี้ยงลูกในมุมของหมอผิวหนัง กับคุณหมอญาดา
ได้ที่ เพจหมอมัม
บทความที่น่าสนใจอื่นๆ