จัดแล้วจัดอีกก็กลัวของที่เตรียมไว้จะไม่ครบ!! มาดูเช็คลิสต์ เตรียมของไปคลอด กันได้ที่นี่ จัดเต็ม จัดครบ จบ ได้ในกระเป๋าใบเดียว!!
คู่มือ! เตรียมของไปคลอด ให้ครบ! จบ! ในกระเป๋าใบเดียว
การเตรียมความพร้อมก่อนไปคลอดที่โรงพยาบาลนั้นเป็นสิ่งสำคัญ เพราะทารกนั้นไม่สามารถใช้สิ่งของแบบเดียวกับผู้ใหญ่ได้ อีกทั้งยังต้องมีอุปกรณ์มากมายมาเป็นตัวช่วยในการเลี้ยงดูอีกต่างหาก การจะรอให้คลอดก่อนแล้วค่อยไปหาซื้อนั้น ลืมไปได้เลยค่ะ!! คุณแม่ต้องพักฟื้นอยู่ในโรงพยาบาล ไม่น่าจะออกไปหาซื้อได้ง่าย ๆ แม้จะสามารถฝากคุณพ่อให้ไปซื้อได้ แต่แน่นอนว่า คุณแม่ไม่ถูกใจเหมือนไปซื้อเองหรอกค่ะ ดังนั้น มาดูกันว่าสิ่งที่ต้อง เตรียมของไปคลอด มีอะไรบ้าง ที่จัดไว้แล้วมีครบหรือยัง แต่ก่อนที่จะเตรียมของ สิ่งสำคัญที่สุดที่ต้องเตรียมก็คือ เตรียมตัว คุณแม่เองให้พร้อมสำหรับการคลอดค่ะ คุณแม่ต้องเตรียมความพร้อม ดังนี้
เตรียมร่างกายให้พร้อมก่อนไปคลอด
สุขภาพร่างกายของคุณแม่ต้องมีความพร้อม โดยในช่วงเดือนที่ 9 ของการตั้งครรภ์ หมอจะนัดคุณแม่มาตรวจครรภ์และตรวจดูความพร้อมของร่างกายทุกสัปดาห์ เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมไว้เผื่อมีการคลอดฉุกเฉินขึ้น และเพื่อดูอาการแทรกซ้อนต่าง ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นในช่วงนี้ ในการตรวจสุขภาพก่อนถึงสัปดาห์ของการคลอด หมอจะตรวจดูความพร้อมของทารกว่าอยู่ในท่าที่ส่วนนำหรือศีรษะเคลื่อนกลับลงมารออยู่ที่อุ้งเชิงกรานของคุณแม่แล้วหรือไม่ ซึ่งในบางกรณีที่ทารกไม่กลับศีรษะคุณแม่อาจไม่สามารถคลอดเองได้ตามธรรมชาติ หมอจะต้องใช้การผ่าคลอดเข้าช่วย ซึ่งหากทราบถึงพัฒนาการของทารกในครรภ์ก็จะง่ายต่อการประเมินในการให้คุณแม่เตรียมตัวคลอดได้
นอกจากการตรวจร่างกายโดยคุณหมอแล้ว ยังมีอีก 3 เตรียม ที่คุณแม่จะต้องจัดการให้พร้อมก่อนคลอดคือ
- เตรียมร่างกายตนเอง คุณแม่ควรฝึกบริหารและดูแลร่างกายให้แข็งแรง เพื่อให้การคลอดดำเนินไปอย่างราบรื่น เช่น การฝึกเทคนิคเกร็งและคลายเพื่อระงับความกลัวและความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นในขณะคลอด ล้างสีทาเล็บให้เรียบร้อย เตรียมอุปกรณ์ที่ใช้รัดผมเพื่อไม่ให้รกรุงรัง (อ่านต่อ เคล็ดลับการนั่งท่าผีเสื้อประยุกต์ ลดการเจ็บปวดและช่วย เร่งปากมดลูกเปิดเร็ว)
- เตรียมใจให้พร้อม แน่นอนว่าใกล้ถึงเวลาคลอด คุณแม่ทุกคนมักจะกังวลใจ แต่การคลอดเป็นสิ่งที่แม่ทุกคนต้องผ่านไปให้ได้ ไม่สามารถหลีกหนีได้ ดังนั้น คุณแม่ต้องทำจิตใจให้สบาย ผ่อนคลาย คุณแม่อาจหาตัวช่วยโดยการพูดคุยกับคนใกล้ชิดเพื่อให้สบายใจขึ้น แต่หากยังรู้สึกว่าสภาพจิตใจไม่ดีขึ้น คุณแม่สามารถขอคำปรึกษาจากคุณหมอหรือผู้เชี่ยวชาญได้
- เตรียมเวลา เตรียมลาคลอด สิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ที่คุณแม่จะได้รับในขณะลาคลอดจะช่วยให้คุณแม่ที่ต้องทำงานมีเวลาเตรียมตัวเป็นคุณแม่ได้อย่างเต็มตัวเพื่อดูแลทารกทั้งก่อนและหลังคลอดได้อย่างอุ่นใจมากขึ้น ดังนั้นจึงควรใช้โอกาสนี้อย่างเต็มที่ อย่าปล่อยให้ช่วงเวลาดี ๆ เหล่านี้สูญเปล่า
- คุณแม่ที่รับราชการ มีสิทธิ์ลาคลอดได้ 90 วัน (นับรวมวันหยุดด้วยทุกกรณี) โดยไม่ต้องมีใบรับรองแพทย์ คุณแม่ที่เป็นข้าราชการสามารถรับเงินเดือนจากส่วนราชการได้ตามปกติจำนวน 90 วัน ส่วนพนักงานราชการจะรับเงินเดือนจากส่วนราชการได้ตามปกติ 45 วัน และรับจากสำนักงานประกันสังคมอีก 45 วัน พร้อมมีสิทธิ์ลากิจเพื่อเลี้ยงดูบุตรได้ไม่เกิน 150 วันทำการ โดยไม่ได้รับเงินเดือน นอกจากนี้ยังสามารถเบิกเงินช่วยเหลือการคลอดบุตร ค่ารักษาพยาบาล พร้อมยังได้รับเงินสวัสดิการสำหรับบุตรที่ชอบด้วยกฎหมายอีกด้วย
- คุณแม่ที่ทำงานในรัฐวิสาหกิจ สามารถเบิกเงินช่วยเหลือการคลอดบุตร ค่ารักษาพยาบาล และยังได้รับเงินช่วยเหลือบุตร พร้อมสิทธิ์ลาคลอดได้ 60 วัน โดยได้รับเงินเดือนตามปกติ และอาจลากิจเพื่อเลี้ยงดูบุตรได้ไม่เกิน 30 วัน โดยไม่ได้รับเงินเดือน
- คุณแม่ที่ทำงานในบริษัทเอกชน จะมีสิทธิ์ลาคลอดได้ 90 วัน โดยไม่ต้องมีใบรับรองแพทย์ ส่วนค่าใช้จ่ายตามกฎหมายแล้วบริษัทจะต้องทำบัตรประกันสังคมให้คุณแม่ทุกท่าน ซึ่งคุณแม่จะได้รับสิทธิ์ค่าทำคลอดบุตรแบบเหมาจ่ายจากบัตรประกันสังคม นอกจากนี้ยังได้รับเงินช่วยเหลือการหยุดงานเพื่อคลอดบุตร โดยนายจ้างจะจ่ายค่าจ้างให้ 45 วัน และประกันสังคมจ่ายให้ 45 วัน
- คุณแม่ที่ประกอบอาชีพอิสระ สามารถใช้บริการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าหรือบัตรทองได้ฟรี สำหรับการคลอดบุตรไม่เกิน 2 ครั้ง พร้อมการตรวจรักษารวมถึงค่าห้องและค่ายา
เตรียมของไปคลอด (ของใช้คุณแม่และลูกน้อย)
ในขั้นตอนนี้ จะเตรียมเฉพาะของใช้สำหรับคุณแม่และลูกน้อยกันก่อนนะคะ สำหรับเอกสารและสิ่งอื่น ๆ จะแจงรายละเอียดกันในขั้นตอนต่อไปค่ะ โดยของที่ต้องเตรียมมีดังนี้
ของใช้คุณแม่
- กระเป๋าใบเล็ก ในกระเป๋าใบนี้จะใส่ของใช้ในห้องน้ำ ของใช้ส่วนตัว ของใช้กระจุกกระจิก ได้แก่
- สบู่หรือเจลอาบน้ำ
- แชมพูสระผม
- โฟมล้างหน้า
- ครีมทาตัว
- กระจก
- หวี
- ที่หนีบผม ที่ผูกผม หรือที่คาดผม
- เครื่องสำอาง (คุณแม่อาจสอบถามคุณหมอก่อนคลอดได้นะคะว่าอนุญาตให้แต่งหน้าก่อนไปคลอดได้หรือไม่)
- ผ้าขนหนูสำหรับเช็ดตัว ผ้าขนหนูผืนเล็ก สำหรับเช็ดหน้าเช็ดเหงื่อ
- รองเท้าแบบไม่มีส้นหรือรองเท้าแตะ
- คอนแทคเลนส์หรือแว่นตาสำรอง (เฉพาะคุณแม่ที่จำเป็นต้องใช้)
- คุณแม่อาจโหลดเกม ซีรีย์ หรือ สิ่งที่ทำให้คุณแม่เพลิดเพลินได้ระหว่างรอคลอด เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจจากการปวดท้องคลอดได้ค่ะ
- กระเป๋าน้ำร้อน บรรเทาอาการปวดหลัง และคลายอาการปวดหลังคลอด
- นาฬิกาที่มีเข็มวินาที เพื่อใช้สำหรับจับเวลาการบีบรัดตัวของมดลูก
- กล้องถ่ายรูปหรือกล้องถ่ายวิดีโอเพื่อบันทึกภาพ รวมทั้งสายชาร์จและแบตฯ สำรองเพื่อบันทึกเหตุการณ์อันควรค่าแก่ความทรงจำ (ควรถามทางโรงพยาบาลก่อนว่าอนุญาตให้มีการบันทึกภาพในห้องคลอดได้หรือไม่)
- เสื้อใน แผ่นซับน้ำนม และกางเกงใน คุณแม่ควรเตรียมเสื้อในสำหรับเตรียมให้นมลูก 2-3 ตัว
- เสื้อผ้าสำหรับใส่ในวันกลับ โดยเสื้อที่เตรียมควรเลือกแบบที่สามารถเปิดปิดให้นมได้สะดวก
- ผ้าอนามัย สำหรับผ้าอนามัยควรใช้ชนิดที่มีห่วงและสายคาดครับ ซึ่งมีไว้เพื่อใช้ซับน้ำคาวปลาหลังคลอด ส่วนใหญ่แล้วทางโรงพยาบาลจะมีให้อยู่แล้ว สามารถสอบถามไว้ก่อนล่วงหน้าได้ค่ะ
- หมอนให้นม สามารถช่วยอำนวยความสะดวกสำหรับคุณแม่ในเวลาให้นมลูกได้เป็นอย่างดี
- ถุงพลาสติกใบใหญ่ที่เอาไว้ใส่เสื้อผ้าที่ใช้แล้ว
- หน้ากากอนามัย ควรเตรียมไปใช้ในโรงพยาบาลอย่างน้อย 10-20 ชิ้น
- แอลกอฮอล์ สำหรับล้างมือ
ของใช้ลูกน้อย
คุณแม่ควรสอบถามกับทางโรงพยาบาลก่อนว่าควรนำสิ่งของใดมาให้ลูกบ้าง เช่น ผ้าห่อตัว เสื้อผ้า ฯลฯ เพราะบางโรงพยาบาลได้จัดเตรียมเอาไว้ให้แล้ว ถ้าโรงพยาบาลมีไว้บริการคุณแม่ก็อาจจะใช้ของโรงพยาบาลไปก่อนจนกว่าจะถึงวันกลับ ซึ่งคุณแม่ต้องเตรียมของเหล่านี้เอาไว้เวลาพาลูกกลับบ้านด้วย ได้แก่
- ผ้าอ้อมที่ซักแล้วหรือผ้าอ้อมสำเร็จรูป 1 โหล
- สำลีเช็ดก้นน้อง ทิชชูเปียก (เผื่อไว้ทำความสะอาดลูกน้อย) พร้อมถุงเอาไว้ใส่ทิชชูหรือสีลำใช้แล้ว ฯลฯ
- แชมพูอาบน้ำ ยาสระผมสำหรับทารก ผ้าเช็ดตัว สำหรับใช้เช็ดตัวลูกหลังอาบน้ำ
- ฟองน้ำธรรมชาติ 100% เผื่อไว้ใช้สำหรับอาบน้ำทารกแรกเกิด
- ผ้าขนหนูขนาดกลางสำหรับห่อตัวเด็ก 3-4 ผืน ไว้ใช้ห่อตัวให้ลูกรู้สึกอุ่นสบาย
- เสื้อเด็กอ่อน ถุงมือ หมวกและถุงเท้าประมาณ 3 ชุด
- คาร์ซีท สำหรับให้ลูกนั่งตอนออกจากโรงพยาบาล
เตรียมของไปคลอด (เอกสารและอื่น ๆ )
นอกจากการเตรียมตัว เตรียมใจ และเตรียมของใช้แล้ว ยังมีเอกสารและอีกหลายสิ่งที่คุณแม่ต้องเตรียม ดังนี้
- เอกสารต่าง ๆ เช่น บัตรประจำตัวผู้ป่วย, บัตรประกันสุขภาพ, บัตรทอง, ทะเบียนบ้านและบัตรประชาชนทั้งของคุณแม่และคุณพ่อ (เพราะบางโรงพยาบาลจะมีบริการทำสูติบัตรให้พร้อม), บันทึกการฝากครรภ์ (เป็นสิ่งสำคัญอันดับหนึ่ง เพราะข้อมูลทุกอย่างตอนฝากครรภ์จะอยู่ในนั้น ห้ามลืมเป็นอันขาด) ควรถ่ายเอกสารบัตรประชาชนของคุณพ่อ-คุณแม่ และเอกสารต่าง ๆ มาด้วย)
- เตรียมตั้งชื่อลูกน้อย คุณพ่อและคุณแม่ควรคิดตั้งชื่อลูกเผื่อเอาไว้ให้เรียบร้อย เพราะเมื่อถึงเวลาคลอดแล้วลูกยังไม่มีชื่อ เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลจะตั้งชื่อให้ไปก่อน ทำให้ต้องเสียเวลาไปเปลี่ยนแปลงแก้ไข นอกจากนี้ควรวางแผนไว้ล่วงหน้าสำหรับทะเบียนบ้านที่จะแจ้งให้ลูกไปอยู่อาศัย เพราะจะเกี่ยวพันไปถึงโรงเรียนที่จะเข้าเรียนในอนาคตด้วย (อ่านต่อ ตั้งชื่อลูกชายและลูกสาว รวมไอเดียในการตั้งชื่อลูก พร้อมความหมาย ด้วยชื่อมงคล เลือกชื่อลูกจากชื่อพ่อและแม่ ตั้งชื่อตามวันเกิด หาชื่อใหม่ให้ลูกน้อย)
- เตรียมค่าใช้จ่าย เป็นอีกเรื่องที่สำคัญอย่างมากสำหรับการเตรียมงบประมาณในการคลอดและค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เผื่อเอาไว้ ซึ่งคุณแม่อาจทราบค่าใช้ในการคลอดล่วงหน้าจากโรงพยาบาลที่ไปฝากครรภ์ ว่าต้องมีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง แต่ขอแนะนำให้คุณแม่เผื่อวงเงินไว้ในอัตราสูงสุดที่ทางโรงพยาบาลตั้งไว้ เพราะเมื่อถึงเวลาคลอดจริง ๆ คุณแม่อาจไม่สามารถคลอดได้เอง และแพทย์ต้องตัดสินใจผ่าคลอดทันทีเพื่อความปลอดภัย ก็จะทำให้มีค่าใช้จ่ายสูงมากขึ้น นอกจากจะเตรียมเงินไว้สำหรับการคลอดแล้ว ควรเตรียมเงินเอาไว้สำหรับภาวะเสี่ยงหลังคลอดด้วย เพราะหลังการคลอดแล้วอาจเกิดภาวะต่าง ๆ ทั้งกับตัวคุณแม่และลูกน้อยได้ ซึ่งก็จะทำให้ค่าใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้นตามอาการและจำนวนวันที่พักฟื้น
นอกจากการ เตรียมของไปคลอด แล้ว คุณแม่อย่าลืมเตรียมของใช้ต่าง ๆ สำหรับลูกน้อยหลังจากกลับจากโรงพยาบาลด้วยนะคะ เพราะตอนอยู่โรงพยาบาลยังมีคุณหมอ คุณพยาบาล และเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญคอยดูแล แต่หลังจากกลับจากโรงพยาบาลแล้ว คุณพ่อและคุณแม่จะต้องเลี้ยงลูกน้อยเอง การจะไปหาซื้อหลังจากคลอดแล้วอาจจะวุ่นวายมากค่ะ ดังนั้น จัดเตรียมห้อง หรือที่นอนสำหรับลูกน้อย พร้อมทั้งอุปกรณ์ต่าง ๆ ให้พร้อมไว้จะดีกว่านะคะ
อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก
ฉีกกฎทุกการรีวิว! คุณแม่แชร์ประสบการณ์ การคลอดลูก แบบไร้ความเจ็บปวด
3 วิธี คลอดลูก คลอดแบบธรรมชาติ แบบผ่าคลอด หรือคลอดลูกในน้ำ คลอดแบบไหนดี?
ขอบคุณข้อมูลจาก : medthai.com, โรงพยาบาลรวมแพทย์พิษณุโลก
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่