เรื่องราวสุดสะเทือนใจ คลอดลูกแม่เสียชีวิต เมื่อคนเป็นแม่พร้อมสละทั้งชีวิตเพื่อลูกน้อยให้ปลอดภัย ความรักอันยิ่งใหญ่ของคนเป็นแม่
คลอดลูกแม่เสียชีวิต
เหตุการณ์น่าเศร้า เมื่อผู้เป็นแม่ต้องเสียชีวิตหลังคลอดด้วยภาวะแทรกซ้อน เรื่องราวของคุณแม่หัวใจแกร่ง ถูกเปิดเผยโดยพี่ที่สนิท โพสต์เฟซบุ๊กเพื่อเป็นอุทาหรณ์ว่า น้องคนนี้เป็นคุณแม่ที่ดื้อและรั้นกับคุณหมอสุด ๆ ไม่เคยตรวจร่างกายตัวเอง โดยคิดว่า ได้ผ่านการผ่าคลอดลูกมาแล้ว 2 คน คนที่ 3 ก็จะผ่านไปได้ด้วยดีแบบที่ผ่านมา แต่มันไม่ใช่
คุณหมอได้เตือนคุณแม่ตั้งแต่ 2-3 เดือนแรก ตั้งแต่รู้ว่ากำลังจะมีลูก น้องมาปรึกษาตลอดว่า การตั้งครรภ์ครั้งนี้มีปัญหา
- มดลูกต่ำ
- มีเลือดไหลในช่องท้องจำนวนมาก แต่ไม่ทราบสาเหตุ คุณหมอแนะนำว่า ถ้าเอาลูกไว้อันตรายต่อแม่แน่นอน เลือดที่อยู่ในช่องท้อง ไม่มีผลต่อลูก เพราะไม่ได้เข้าไปอยู่ในรก ลูกปลอดภัยแน่นอน แต่คุณแม่เสี่ยงมาก
- ก่อนครบกำหนดผ่าคลอด ประมาณ 2-3 สัปดาห์ คุณหมอตรวจเจอว่า น้องลิ้นหัวใจรั่วอีก ซึ่งเจอในเวลากระชั้นชิด ไม่สามารถทำอะไรได้อยู่แล้ว
ตอนผ่าคลอดลูกทั้ง 2 คนที่ผ่านมา ตรวจไม่เจออะไรเลย ทุกคนงงมาก ไม่รู้ว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร ทำให้การผ่าคลอดครั้งนี้ต้องหนักแน่นอน
ด้วยความหวังดีของเจ้าของโพสต์ บอกให้น้องเชื่อหมอรีบเอาลูกออก ไม่ใช่ว่าใจร้ายหรือคิดไม่ดีกับหลาน แต่เพราะครอบครัวนี้ยังมีสามี มีลูกอีก 2 คนที่ต้องดูแล ไม่ควรไปเสี่ยง แต่ความดื้อรั้น ที่สำคัญคือ หัวใจของคนเป็นแม่ที่รักลูก ความเป็นแม่ผู้เสียสละ เลือกที่จะเก็บลูกไว้ ทั้งที่รู้ว่าจะเป็นเช่นไร ผู้เป็นแม่เชื่อว่าทุกอย่างจะผ่านไปได้ด้วยดี คุณหมอเก่ง อุปกรณ์ครบ ทันสมัย
จนกระทั่งวันที่ 5 ตุลาคม 2563 ถึงกำหนดผ่าคลอด ลูกออกมาดูโลกภายนอก แทนที่จะได้เจอหน้าแม่ ทารกน้อยมีร่างกายที่แข็งแรงสมบูรณ์ น้ำหนัก 3,600 กรัม อย่างไรก็ตาม ต้องขอชื่นชม ขอบคุนทีมคุณหมอ คุณพยาบาล ที่เตรียมเครื่องมือ เตรียมเลือดไว้สำหรับเคสนี้เยอะมาก ใช้คุณหมอในการผ่าคลอดถึง 4 คน รวมทุกหมอ พยาบาลอีกเยอะแยะมากมาย ใช้เวลาในการผ่าคลอด เข้าห้องคลอดประมาณ 8.30 น. เสร็จประมาณ 15.00 น.
มันนานมากเลยใช่ไหม ปกติผ่าคลอดใช้เวลาไม่เกิน 2-3 ชั่วโมง เพราะอะไร ทุกคนต่างสงสัยว่า มันหนักขนาดนี้เลยหรอ ความจริงคือ ตัวคุณแม่มีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย
- รกลูกเหมือนจะอยู่นอกมดลูก
- รกมันกินส่วนของกระเพาะปัสสาวะ ติดกับกระดูกสันหลัง
คุณหมอต้องค่อย ๆ ตัดเลาะมดลูกออกทั้งหมด ต้องค่อย ๆ ทำจริง ๆ ไม่อย่างนั้นจะไปโดนส่วนสำคัญอื่น ๆ ทำให้ต้องใช้เวลานานในการผ่าตัด เลือดก็ไหลไม่หยุด ใช้เลือดไปทั้งหมด 50 ถุง จนต้องย้ายโรงพยาบาล คุณหมอรักษาอย่างสุดความสามารถ แต่น้องไม่รู้สึกตัว ความดันขึ้น ๆ ลง ๆ หัวใจหยุดเต้นไป 3 ครั้ง คุณหมอก็ปั๊มหัวใจให้กลับมาได้ คุณหมอให้ยาที่ดีที่สุด ให้ยาที่แพงที่สุด ให้เลือดไปเยอะมาก ทั้งยังต้องล้างไต ซึ่งเป็นสิ่งสุดท้ายที่หมอทำให้ จนร่างกายและอวัยวะข้างในไม่ตอบสนอง ไม่รับยา ไม่รับเลือดที่คุณหมอให้แล้ว จนสุดท้าย เวลา 03.00 น. คนในครอบครัวก็ได้ปล่อยน้องให้ไปอย่างสงบ
เจ้าของเฟซบุ๊กยังทิ้งท้าย อยากให้ผู้หญิงที่วางแผนอยากมีลูก เพื่อเติมเต็มความสุขในครอบครัว ควรไปตรวจสุขภาพอย่างละเอียด ปรึกษาเเพทย์ผู้เชี่ยวชาญให้ดี ควรเชื่อและทำตามที่หมอสั่ง
เรื่องราวเลวร้ายที่ไม่มีใครอยากให้เกิด ทางทีมงานของแสดงความเสียใจกับการจากไปของคุณแม่หัวใจแกร่งท่านนี้ด้วยนะคะ สำหรับสาเหตุแม่เสียชีวิตหลังคลอด เกิดได้จากหลายปัจจัย ดังนี้
สาเหตุแม่เสียชีวิตหลังคลอด
- ตกเลือดหลังคลอด สาเหตุสำคัญ พบมากถึง 1 ใน 3 ของการเสียชีวิตของผู้เป็นแม่ โดยเกิดจากมดลูกไม่แข็งตัว ช่องคลอดฉีกขาดมาก มดลูกแตก รกค้าง หรือแม่มีเลือดแข็งตัวผิดปกติ และการท้องนอกมดลูก เพื่อป้องกันการคลอดลูกแล้วผู้เป็นแม่ต้องจบชีวิต ควรรีบฝากครรภ์ให้เร็วที่สุด พบแพทย์อย่างสม่ำเสมอ จะสามารถป้องกันอันตราย และได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที
- ติดเชื้อในกระแสเลือด คุณแม่บางรายอาจติดเชื้อโรค ไวรัส หรือแบคทีเรีย โดยเฉพาะคุณแม่ที่มีภูมิต้านทานบกพร่อง หรือการดูแลรักษาร่างกายภายหลังคลอดที่ไม่ถูกสุขลักษณะ
- ครรภ์เป็นพิษ อาการรุนแรงของครรภ์เป็นพิษจะส่งผลให้ผู้เป็นแม่เสียชีวิตได้จากความดันโลหิตสูง หากเป็นในชนิดที่รุนแรง คุณหมอมักจะช่วยให้เด็กคลอดออกมาโดยเร็วที่สุด ผ่านการผ่าคลอด เพื่อป้องกันการสูญเสียชีวิตทั้งตัวแม่และทารก
- ภาวะแทรกซ้อนของโรคทางอายุรกรรม โรคอื่น ๆ ที่คุณแม่เป็นตั้งแต่ก่อนการตั้งครรภ์ เช่น ความดันโลหิตสูง หอบหืด ลมชัก โรคปอด ไต ตับ มะเร็ง ลิ้นหัวใจรั่ว ลิ้นหัวใจตีบ ส่งผลให้คุณแม่ต้องจากไปได้ทั้งในช่วงก่อนคลอด ระหว่างคลอด และหลังคลอด โดยเฉพาะโรคหัวใจ ที่คุณหมออาจประเมินไม่ให้มีการตั้งครรภ์เลยตั้งแต่แรก เพื่อให้ตัวคุณแม่ปลอดภัยมากที่สุด
- น้ำคร่ำอุดหลอดเลือดที่ปอด หากเกิดขึ้นแล้วมีโอกาสเสียชีวิตสูง และยังไม่อาจตรวจได้ล่วงหน้าว่าจะเกิดขึ้นกับใคร
วิธีป้องกันแม่เสียชีวิตหลังคลอด
- ตรวจร่างกายอย่างละเอียด เพื่อวางแผนก่อนการตั้งครรภ์ การเตรียมตัวก่อนการตั้งครรภ์จะช่วยให้คุณหมอได้ประเมินความเสี่ยง และตรวจเช็คโรคประจำตัวของคุณแม่ เพื่อป้องกันการคลอดลูกที่ทำให้คุณแม่เสี่ยงเสียชีวิต
- ฝากครรภ์ให้เร็วที่สุด แม่ฝากครรภ์ทันทีเมื่อรู้ว่าตั้งครรภ์ ควรฝากครรภ์ก่อนอายุครรภ์ 12 สัปดาห์หรือ 3 เดือน
- ฝากครรภ์สม่ำเสมอ พบแพทย์ตรงตามนัด เพื่อติดตามการตั้งครรภ์ และป้องกันการเกิดอันตราย
- ปฎิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ คุณหมอห้ามทำอะไร ให้ทำอะไร คุณแม่ควรยึดถือปฏิบัติ เช่น การนับลูกดิ้น ควรสังเกตอาการผิดปกติของร่างกายแม่ ถ้ารู้สึกไม่แน่ใจ ให้รีบพบแพทย์
การป้องกันการเสียชีวิตของตัวคุณแม่และลูกน้อยเป็นสิ่งสำคัญ ต้องรีบตรวจตั้งแต่ก่อนการตั้งครรภ์ และอย่าลืมสังเกตความผิดปกติของร่างกายคุณแม่ นี่เป็นสิ่งที่แม่จะทำได้ดีที่สุด เพื่อปกป้องลูกน้อยที่รัก และรักษาชีวิตของคุณแม่เอง
อ้างอิงข้อมูล : mgronline.com, facebook.com/kalasinthonburi และ facebook.com/bumrungrad
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
อ่านบทความอื่นเพิ่มเติม