7 ข้อต้องรู้ก่อนฉีด "วัคซีนโมเดอร์นา" ในแม่ท้อง-ให้นมบุตร - Amarin Baby & Kids
วัคซีนโมเดอร์นา

7 ข้อต้องรู้ก่อนฉีด “วัคซีนโมเดอร์นา” ในแม่ท้อง-ให้นมบุตร

Alternative Textaccount_circle
event
วัคซีนโมเดอร์นา
วัคซีนโมเดอร์นา

ในที่สุด วัคซีนโมเดอร์นา ก็ได้เดินทางมาถึงประเทศไทยแล้ว มาดูกันว่ามีอะไรต้องรู้เกี่ยวกับการฉีด Moderna สำหรับแม่ ๆ ที่กำลังตั้งครรภ์ และแม่ให้นมบุตรบ้าง?

7 ข้อต้องรู้ก่อนฉีด “วัคซีนโมเดอร์นา” ในแม่ท้อง-ให้นมบุตร

วัคซีนโมเดอร์น่า เป็นวัคซีนประเภทไหน?

วัคซีนโมเดอร์นา (Moderna COVID-19 Vaccine) คือ วัคซีนเอ็มอาร์เอ็นเอ-1273 (mRNA-1273) เป็นวัคซีนที่มีส่วนประกอบเป็นสารพันธุกรรมประเภท messenger RNA หุ้มด้วยอนุภาคนาโนไขมัน (Lipid nanoparticle) เมื่อเข้าสู่ร่างกายสารพันธุกรรมนี้จะถอดรหัสเป็นโปรตีนหนามของไวรัสแล้วกระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกันในร่างกาย ซึ่งเป็นนวัตกรรมล่าสุดในการผลิตวัคซีน พัฒนาโดยบริษัท ModernaTX, Inc. ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งจัดเป็นวัคซีนที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันโควิด-19 สูงเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก ปัจจุบัน เป็นวัคซีนโควิด -19 ตัวที่ 4 ของไทยที่ผ่านการขึ้นทะเบียนจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ต่อจาก ซิโนแวค, แอสตร้าเซนเนก้า และ จอห์นสันแอนด์จอห์นสัน

Moderna Vaccine เหมาะกับใครบ้าง?

วัคซีนนี้ ได้รับการขึ้นทะเบียนให้ฉีดในผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 12 ปีขึ้นไป (ในปัจจุบันจึงเป็น 1 ใน 2 ยี่ห้อที่สามารถฉีดในเด็กได้) การฉีดปกติจะฉีด 2 เข็ม ห่างกัน 4 สัปดาห์ แต่ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่องศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค สหรัฐอเมริกา (CDC) แนะนำให้ฉีด 3 เข็มห่างจากเข็มที่ 2 อย่างน้อย 4 สัปดาห์ ส่วนการฉีดเข็มกระตุ้นจะห่างจากเข็มที่ 2 อย่างน้อย 6 เดือน

แม่ท้อง และแม่ให้นมบุตร สามารถฉีดได้หรือไม่?

เนื่องจากหญิงตั้งครรภ์ที่เป็นโรคโควิด 19 จะมีโอกาสเสี่ยงต่อโรครุนแรงมากกว่าหญิงที่ไม่ตั้งครรภ์ ราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทยแนะนำ ดังนี้

  • ให้หญิงตั้งครรภ์พิจารณาขอรับวัคซีนโควิด 19 ภายใต้คำแนะนำของแพทย์ แต่ไม่แนะนำให้ฉีดวัคซีน
    ในหญิงที่มีอายุครรภ์ น้อยกว่า 12 สัปดาห์ เพื่อหลีกเลี่ยงช่วงที่อาจมีผลกระทบต่อความพิการแต่กำเนิดของทารก โดยสามารถฉีดได้ทั้งทุกวัคซีนที่มีการรับรองให้ใช้ในผู้ใหญ่ทั่วไป ทั้งของ Sinovac AstraZeneca Johnson & Johnson Pfizer และ Moderna โดยควรให้ตามกำหนดที่แนะนำในคนทั่วไปที่ไม่ได้ตั้งครรภ์ คือ ฉีด 2 เข็ม ห่างกัน 4 สัปดาห์
  • หญิงให้นมบุตร สามารถรับวัคซีนโควิด 19 ได้
  • สำหรับสตรีที่วางแผนตั้งครรภ์ สามารถปฏิบัติได้ ดังนี้
    • ไม่ต้องตรวจการตั้งครรภ์ก่อนฉีดวัคซีนโควิด 19
    • ไม่ห้ามตั้งครรภ์ หลังฉีดวัคซีนโควิด 19
    • ปัจจุบัน ไม่มีหลักฐานว่าวัคซีนโควิด 19 จะส่งผลต่อความสามารถในการมีบุตร
    • ไม่ต้องยุติการตั้งครรภ์ เมื่อพบว่าตั้งครรภ์ภายหลังฉีดวัคซีน
วัคซีนโมเดอร์น่า
วัคซีนโมเดอร์น่า

วัคซีนโมเดอร์นา ไม่เหมาะกับใคร?

  • ผู้ที่มีอายุน้อยกว่า 12 ปี ควรรอผลการศึกษาเพิ่มเติมก่อน
  • ผู้ที่มีอาการแพ้ทันทีหลังได้รับวัคซีนโควิด-19 ชนิด mRNA ทั้งการแพ้แบบรุนแรงและไม่รุนแรง เช่น มีผื่นคัน ลมพิษ ตาบวม หน้าบวม อึดอัดแน่นหน้าอก หายใจไม่สะดวก เป็นต้น ไม่ควรรับวัคซีนนี้
  • ผู้ที่พบว่ามีอาการแพ้หลังจากฉีดวัคซีนชนิดนี้เข็มแรกไปแล้ว ไม่ควรรับวัคซีนชนิดนี้เพิ่มเติม
  • ผู้ที่มีประวัติแพ้สารโพลีเอธิลีน ไกลคอล (Polyethylene Glycol: PEG) ซึ่งเป็นส่วนผสมในยาและเครื่องสำอางบางชนิด ซึ่งมีอยู่ในวัคซีนโควิดโมเดอร์นา
  • ผู้ที่มีประวัติแพ้สารพอลิซอร์เบต (Polysorbate) ซึ่งเป็นส่วนผสมในยาและเครื่องสำอางบางชนิด แม้จะไม่มีอยู่ในวัคซีนโควิดโมเดอร์นา แต่คุณสมบัติใกล้เคียงกับ PEG มาก จึงอาจเป็นอันตรายได้

ผลข้างเคียงที่อาจจะเกิดขึ้นหลังฉีด Moderna COVID-19 Vaccine

  • ปวดหรือบวมบริเวณที่ฉีด สามารถประคบเย็นได้
  • หนาวสั่น เป็นไข้
  • อ่อนเพลีย ให้ดื่มน้ำและพักผ่อนให้เพียงพอ
  • ปวดศีรษะ
  • คลื่นไส้

*ผลข้างเคียงของวัคซีน (Moderna) อาจเริ่มแสดงออกภายใน 1 – 2 วันหลังจากรับวัคซีน โดยอาการจะค่อย ๆ ดีขึ้นใน 2 – 3 วัน สามารถรับประทานยาพาราเซตามอลบรรเทาอาการปวดหรือมีไข้ได้หากท่านไม่แพ้ยาดังกล่าว มีรายงานการเกิดอาการแพ้รุนแรงเฉียบพลัน (Anaphylaxis) หัวใจอักเสบหรือเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบหลังได้รับวัคซีนนี้ แต่พบได้น้อย

ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทยแนะนำให้ผู้ที่ได้รับวัคซีนชนิด mRNA โดยเฉพาะเด็กและวัยรุ่นชายงดออกกำลังกายอย่างหนักเป็นเวลา 1 สัปดาห์หลังฉีดวัคซีน และสังเกตอาการตนเอง หากมีอาการเจ็บหน้าอก หายใจเหนื่อยหรือหายใจไม่อิ่ม ใจสั่น หน้ามืด เป็นลม ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อประเมินอาการ หากแพทย์สงสัยภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบจะพิจารณาตรวจค้นเพิ่มเติม

ข้อดี-ข้อเสียของ วัคซีนโมเดอร์นา

ข้อดี

  • มีข้อมูลการศึกษาและใช้จริงในประเทศสหรัฐอเมริกาและประเทศในทวีปยุโรปซึ่งเห็นผลประสิทธิภาพสูงมาก รวมทั้งการศึกษาในประเทศอิสราเอล พบว่า
    • วัคซีนสามารถป้องกันการติดเชื้อทั้งหมดได้ร้อยละ 95
    • ป้องกันการติดเชื้อที่ไม่มีอาการได้ ร้อยละ 91
    • ป้องกันการนอนโรงพยาบาลเนื่องจากป่วยหนักและเสียชีวิตได้ร้อยละ 97.27
  • และการศึกษาในประเทศอังกฤษพบว่า วัคซีนสามารถป้องกันการติดเชื้อได้ร้อยละ 70 ตั้งแต่หลังการฉีดเข็มแรก
  • และในประเทศสกอตแลนด์พบว่าวัคซีนสามารถป้องกันการนอนโรงพยาบาลได้ถึง ร้อยละ 91 ตั้งแต่หลังการฉีดเข็มแรก
  • มีข้อมูลการใช้ในหญิงตั้งครรภ์และผู้ที่ภูมิคุ้มกันบกพร่องว่าปลอดภัยและได้ผลดี
  • มีการรับรองและยอมรับสำหรับประเทศในทวีปยุโรปและทวีปอเมริกา อาจทำให้เกิดอุปสรรคน้อยกว่าในการต้องเดินทางเข้าเมืองในประเทศเหล่านั้น

ข้อเสีย

  • มีอาการข้างเคียงพบได้บ่อย ประมาณครึ่งหนึ่ง แต่ส่วนใหญ่ไม่รุนแรง
  • เป็นเทคโนโลยีใหม่ ทำให้มีความระแวงถึงผลข้างเคียงในระยะยาว

เคยฉีดวัคซีนมาแล้ว หรือ เคยมีประวัติเป็นโรคโควิด 19 มาก่อน ควรฉีดวัคซีนโมเดอร์นากระตุ้นเมื่อไร?

ทีมแม่ ABK ขอนำข้อมูลจาก โรงพยาบาลกรุงเทพ มาให้แม่ ๆ ประกอบการตัดสินใจค่ะ

วัคซีน Moderna
วัคซีน Moderna

หวังว่าข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้แม่ ๆ ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น และสามารถนัดวันฉีดที่เหมาะสมกับตนเองได้สะดวกขึ้นนะคะ

อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก

เดลต้าพลัส โควิดสายพันธุ์ใหม่ ติดง่ายกว่าเดิม!

รู้ก่อนป้องกันได้! ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้ เด็กติดโควิดเสียชีวิต คืออะไร?

อ่านเลย! ก่อน พาลูกไปฉีดวัคซีนโควิด พ่อแม่ควรรู้อะไรบ้าง?

10 ข้อห้าม คนท้องอ่อนๆ ต้องระวังอะไรบ้าง?

 

ขอบคุณข้อมูลจาก : กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณะสุข, โรงพยาบาลกรุงเทพ, The Standard

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up