อารมณ์คนท้อง สวิงไปมาเป็นเพราะอะไร คลอดแล้วจะหายหรือเปล่า?

ต่อไปเราจะมาดูปัจจัยต่างๆ ที่ส่งผลต่ออารมณ์ที่แปรปรวน ตลอดทั้งสามไตรมาสในการตั้งครรภ์ของคุณค่ะ

อารมณ์คนท้อง ไตรมาสแรก

ในช่วงแรกของการตั้งครรภ์ ไม่ใช่แค่ระดับฮอร์โมนเท่านั้นที่ทำให้คุณอารมณ์แปรปรวน ความรู้สึกไม่สบายของการตั้งครรภ์อาจทำให้เกิดความทุกข์ทางอารมณ์ได้เช่นกัน ตัวอย่างเช่น การแพ้ท้อง ซึ่งสามารถทำร้ายคุณได้ตลอดเวลาของวัน อาการคลื่นไส้และอาเจียนในบางครั้งอาจเกิดจากความหิวเพียงเล็กน้อยหรือแม้แต่กลิ่นอาหารของเพื่อนบ้าน สำหรับผู้ที่มีอาการแพ้ท้องรุนแรงกว่าคนอื่นๆ อาจเกิดความวิตกกังวลว่าจู่ๆ พวกเขาจะรู้สึกอยากอาเจียนระหว่างอยู่ในที่สาธารณะหรือไม่ หรือพวกเขาอาจกังวลว่าจู่ๆ พวกเขาจะได้กลิ่นบางอย่างขณะเดินไปตามถนน

ความเครียดที่ไม่รู้ว่าจะรู้สึกป่วยเมื่อไร และความเครียดจากการอาเจียนโดยไม่ได้เตรียมตัวหรือในที่สาธารณะนั้นอาจก่อต่อเป็นความเครียดที่รุนแรงได้ นอกจากนี้ความเหนื่อยล้าเป็นอีกหนึ่งอาการของการตั้งครรภ์ในช่วงแรกๆ ที่พบได้ทั่วไป และเป็นอาการที่ส่งผลต่ออารมณ์แปรปรวนได้เช่นเดียวกัน ไม่มีใครรู้สึกดีทางอารมณ์เมื่อรู้สึกเหนื่อย และคุณอาจรู้สึกเหนื่อยมากในช่วงเดือนแรกของการตั้งครรภ์ ยิ่งไปกว่านั้น ผู้หญิงที่เคยมีประสบการณ์แท้งบุตรหรือมีบุตรยาก อาจกังวลเกี่ยวกับการสูญเสียการตั้งครรภ์ ซึ่งความกลัวนี้อาจแย่ลงในช่วงไตรมาสแรกเนื่องจากเป็นช่วงที่การสูญเสียการตั้งครรภ์ส่วนใหญ่มักเกิดขึ้น

อารมณ์คนท้อง ไตรมาสที่2

ไตรมาสที่สองของการตั้งครรภ์มักเรียกว่าระยะ “ฮันนีมูน” ฮอร์โมนยังคงเปลี่ยนแปลงแต่อาจน้อยกว่าในช่วงสามเดือนแรกมาก ผู้หญิงส่วนใหญ่รู้สึกมีพลังงานมากขึ้นและไม่มีอาการแพ้ท้องอีกต่อไปหรืออย่างน้อยก็ไม่เลวร้ายเท่า แต่ยังมีสิ่งกระตุ้นทางอารมณ์ที่อาจเกิดขึ้นได้ ในช่วงไตรมาสที่2 รูปร่างคุณจะเปลี่ยนไปอย่างมาก ผู้หญิงบางคนอาจหลีกเลี่ยงชุดคลุมท้องได้ในช่วงไตรมาสแรก แต่ในช่วงไตรมาสที่2 นั้น คงหลีกเลี่ยงไม่ได้ ผู้หญิงบางคนรู้สึกตื่นเต้นกับการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย  แต่บางคนก็อาจรู้สึกกังวลโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้หญิงที่มีปัญหาเรื่องการคุมน้ำหนัก

นอกจากนี้ การทดสอบก่อนคลอดในช่วงไตรมาสที่สองอาจทำให้เกิดความทุกข์ทางอารมณ์ได้เช่นกัน เมื่อการเจาะน้ำคร่ำมักจะทำในช่วงสัปดาห์แรกของไตรมาสที่สอง การตัดสินใจว่าจะทำการทดสอบก่อนคลอดหรือไม่และความกังวลเกี่ยวกับผลลัพธ์ต่างๆ อาจทำให้เกิดความทุกข์ทางอารมณ์ได้ไม่ยาก

อีกสิ่งหนึ่งที่อาจนำไปสู่อารมณ์แปรปรวน กลัว และกังวล คือ การอ่านเกี่ยวกับทุกสิ่งที่อาจผิดพลาดได้ในระหว่างตั้งครรภ์และการคลอดบุตร หนังสือการตั้งครรภ์บางเล่มเป็นเหมือนรายการยาว ๆ ของภาวะแทรกซ้อนที่เป็นไปได้ทั้งหมด  อย่างไรก็ตาม “อารมณ์แปรปรวน” ของการตั้งครรภ์ไม่ได้เป็นไปในทางลบทั้งหมด ผู้หญิงบางคนอาจมีความใคร่และความต้องการทางเพศเพิ่มขึ้นในช่วงไตรมาสที่สอง อาจเป็นเพราะพวกเขาเริ่มรู้สึกดีขึ้นทางร่างกายและเนื่องจากการไหลเวียนของเลือดไปยังบริเวณอุ้งเชิงกรานเพิ่มขึ้น

อารมณ์คนท้อง ไตรมาสที่3

ในช่วงไตรมาสที่ 3 ความสบายในตอนกลางคืนอาจเป็นปัญหาได้ ความเหนื่อยล้าและความยากลำบากในการนอนหลับอาจทำให้อารมณ์ของคุณแปรปรวนได้ ความกลัวและความกังวลเกี่ยวกับการคลอดบุตรที่จะเกิดขึ้นอาจรุนแรงขึ้นในช่วงไตรมาสที่แล้ว ควบคู่ไปกับความกังวลเกี่ยวกับการเป็นแม่ หรือกังวลเกี่ยวกับการต้องเป็นแม่ที่ต้องแบ่งเวลาให้กับทั้งลูกคนโตและคนเล็ก

อารมณ์แปรปรวน “ใหม่” ที่คุณอาจพบว่าตัวเองกำลังประสบในช่วงไตรมาสที่สาม คือ “การทำรัง” การทำรัง หรือ “Nesting” คือ การพยายามจัดตู้เสื้อผ้า เตรียมของใช้ลูก การกวาดเช็ดถูบ้านอยู่ตลอดเวลา ตลอดจนการสรรหาของใช้เด็กต่างๆ เตรียมไว้เต็มบ้าน ว่ากันว่าพฤติกรรมนี้เกิดจากสัญชาตญาณความเป็นแม่ เพราะร่างกายรู้สึกได้ว่าลูกใกล้จะคลอดแล้ว การทำรังอาจเป็นวิธีการที่สมองใช้เพื่อพยายามทำให้บรรดาแม่ๆ ทุกคนแน่ใจว่าได้เตรียมพร้อมที่สุดก่อนลูกจะคลอด  แต่บางครั้ง หากมีความกลัวและกังวลว่าสิ่งต่างๆ ที่เตรียมอาจจะไม่เพียงพอสำหรับการเลี้ยงลูก ก็อาจนำไปสู่ความเครียดความหดหู่และนำไปสู่อารมณ์ที่แปรปรวนได้

วิธีรับมือ อารมณ์แปรปรวนระหว่างตั้งครรภ์?

อารมณ์แปรปรวนเป็นผลข้างเคียงตามปกติของการเติบโตของมนุษย์ร่างจิ๋วในร่างกายของคุณ  แต่ถ้าสิ่งเหล่านี้มารบกวนชีวิตประจำวันของคุณทั้งที่บ้าน ในที่ทำงาน และทุกที่ในระหว่างนั้น มีวิธีรับมือหลายอย่างที่คุณสามารถทำได้เพื่อช่วยให้คุณจัดการกับอารมณ์ของตัวเองได้ดียิ่งขึ้น

• กินอาหารที่ดีมีประโยชน์

หากคุณเคย “หิวโหย” คุณรู้ว่าการขาดอาหารอาจนำไปสู่การโมโหหิว และการระเบิดอารมณ์ที่ไม่ต้องการได้ ดังนั้นให้ระงับความโกรธภายในของคุณและระงับความอยากอาหารของคุณด้วยมื้ออาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการและดีต่อสุขภาพ และเติมของว่างที่เติมเต็มพลังงานให้กับร่างกายและสมองของคุณ พลังงานที่ดีจากอาหารจะช่วยให้คุณสงบได้

• ออกกำลังกายกันเถอะ

การออกกำลังกายเป็นการคลายเครียดและกระตุ้นอารมณ์ได้เป็นอย่างดี  สำหรับคนท้องให้พิจารณาการออกกำลังกายแบบ คาร์ดิโอแบบเบาๆ ที่มีแรงกระแทกต่ำ เช่น เดินหรือว่ายน้ำ เป็นต้น การออกกำลังกายกลางแจ้งใน อากาศบริสุทธิ์จะทำให้คุณสดชื่นและกระปรี้กระเปร่า นอกจากนี้ การหลั่งสารเอ็นโดรฟินระหว่างการออกกำลังกายจะกระตุ้นให้เกิดความรู้สึกเป็นบวกและมีความสุข นอกจากนี้ โยคะและการทำสมาธิก็มีประโยชน์อย่างมากเช่นกัน ไม่ต้องกังวลหากคุณไม่แน่ใจว่าจะเริ่มต้นจากตรงไหน  ปัจจุบันมีแอปพลิเคชันมากมายที่ตอบโจทย์เรื่องนี้ คุณสามารถเรียนรู้ที่จะยืดเส้น เคลื่อนไหว หรือเพียงแค่หายใจผ่านช่วงเวลาแห่งความเข้มข้นองการตั้งครรภ์ได้ไม่ยาก

• จัดลำดับความสำคัญของการนอนหลับ

ในช่วงไตรมาสแรกคุณมีแนวโน้มจะเพลียและเหนื่อยมากกว่าปกติ ไม่ว่าจะนอนมากแค่ไหนก็ตาม ในช่วงไตรมาสที่สาม คุณอาจรู้สึกไม่สบายตัวและนำไปสู่การอดนอน ความเหนื่อยล้าเป็นหนทางเดียวที่นำไปสู่อารมณ์แปรปรวนที่รุนแรงขึ้น ถ้าคุณสามารถงีบหลับระหว่างวันได้ก็ควรทำ แม้ว่าจะหมายถึงการงีบหลับที่โต๊ะทำงานของคุณก็ตาม เมื่ออยู่ที่บ้านคุณควรทำทุกอย่างที่ทำได้ เพื่อให้เวลาเข้านอนเป็นช่วงที่สงบและเงียบ เพื่อให้คุณมีเวลานอนอย่างที่ต้องการมากขึ้น

สิ่งสำคัญ คือ ต้องได้รับการพักผ่อนนอนหลับที่มีคุณภาพเมื่อคุณตั้งครรภ์ แม้ว่าความรู้สึกได้พักผ่อนอย่างแท้จริงอาจดูเหมือนทำไม่ได้ในช่วงไตรมาสแรก แต่คุณสามารถพยายามทำให้ตาของคุณปิดลงได้ไม่ยากนักโดยด้วยกิจวัตรก่อนนอนต่างๆ เช่น รักษาตารางเวลาตอนเช้า และงีบหลับตามต้องการ ในขณะที่งานใกล้เข้ามา ทำในสิ่งต่างๆ ที่ทำได้เพื่อส่งเสริมการผ่อนคลายตัวเอง แม้ว่าคุณจะรู้สึกไม่สบายก็ตาม หรือทำแบบฝึกหัดการหายใจก่อนเข้านอน และใช้หมอนพยุงตัวเองในทางใดก็ตามที่จะช่วยให้คุณรู้สึกสบายขึ้น (แต่จำไว้ว่าการนอนตะแคงดีที่สุดในช่วงไตรมาสที่สาม)

• พูดคุยกับคนที่คุณรัก

ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเพื่อนและสมาชิกในครอบครัวของคุณเข้าใจว่าคุณรู้สึกอย่างไรและกำลังเผชิญอะไรอยู่ อธิบายให้พวกเขาฟังว่าบางครั้งคุณอาจตะคอกหรือตอบสนองในลักษณะที่น่าแปลกใจซึ่งอยากให้พวกเขาเข้าใจ การพูดเกี่ยวกับเรื่องนี้อาจทำให้คุณและคนที่คุณรักพร้อมสำหรับการสื่อสารที่ราบรื่นยิ่งขึ้นหากเกิดปัญหาขึ้น นอกจากนี้คุณยังสามารถพิจารณาติดต่อกับคุณแม่คนอื่น ๆ เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ร่วม เข้าร่วมกลุ่มตามชุมชนของคุณ หรือค้นหากลุ่มคนท้องผ่านโซเชียลมีเดีย การรู้สึกพร้อมมากขึ้นสำหรับความท้าทายในการตั้งครรภ์และการได้รับความช่วยเหลือจะช่วยปรับปรุงอารมณ์ของคุณได้

• เคารพตัวเอง

การตั้งครรภ์เป็นเรื่องยาก ความรู้สึกผิดทางอารมณ์ยิ่งทำให้ยากขึ้นไปอีก อย่ามัวแต่โทษตัวเองหากคุณมีปฏิกิริยาตอบสนองกับสถานการณ์ใดสถานการณ์หนึ่งมากเกินไป เช่น ระเบิดอารมณ์ฉุนเฉียว หรือมีนาทีที่โลกสวยเป็นพิเศษ อย่างไรก็ตามให้แสดงความเมตตาแก่ตัวเองแทน และรู้เท่าทันว่าอารมณ์เหล่านี้เป็นเพียงเรื่องชั่วคราว

• พูดคุยกับนักบำบัด

หากคุณรู้สึกว่าอารมณ์ของคุณกำลังทำให้ชีวิตของคุณดำดิ่งลงเหว หากความวิตกกังวลของคุณขัดขวางความสามารถในการทำงาน  หรือหากคุณรู้สึกหดหู่ใจตลอดเวลา คุณควรขอความช่วยเหลือจากแพทย์หรือนักจิตวิทยาของคุณ ภาวะซึมเศร้าและความวิตกกังวลก่อนคลอดเป็นเรื่องปกติ และไม่มีอะไรต้องละอาย คุณควรสนุกกับช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นของชีวิตนี้ ดังนั้นให้ทำตามขั้นตอนต่างๆ ที่ผู้เชี่ยวชาญแนะนำ เพื่อทวงความสุขของคุณกลับคืนมา

• พูดคุยกับคู่ของคุณและลูก

คุณอาจอารมณ์เสียหรือเริ่มร้องไห้โดยไม่มีสาเหตุ ในบางครั้ง ก่อนอื่นควรให้คู่ของคุณและลูก ๆ ของคุณรู้ว่าพวกเขาไม่ใช่สาเหตุที่ทำให้คุณร้องไห้เสียใจ ขอโทษล่วงหน้าสำหรับช่วงเวลาที่หงุดหงิดชั่วขณะนั้น เมื่อพูดคุยกับลูก ๆ ของคุณ ระวังอย่าโทษพวกเขาเพราะอารมณ์ของคุณ พวกเขาน่าจะกังวลอยู่แล้วว่าพวกเขาจะต้องแบ่งปันคุณกับลูกคนอื่นๆ  จำไว้เสมอว่า คุณไม่ต้องการให้เหตุผลเพิ่มเติมแก่พวกเขาที่จะไม่มีความสุขกับการเปลี่ยนแปลงครอบครัวที่จะเกิดขึ้น ให้อธิบายว่าช่วงนี้คุณไม่ค่อยสบาย แต่ว่าทุกอย่างจะค่อยๆ เรียบร้อย และจะดีขึ้นในไม่ช้า

• วางคู่มือการตั้งครรภ์ลงบ้าง

แน่นอน คุณต้องการมีการตั้งครรภ์ที่แข็งแรง และแน่นอน คุณต้องการรับข้อมูลเพื่อที่คุณจะได้ตัดสินใจเลือกอย่างมีการศึกษาเกี่ยวกับการดูแลก่อนคลอด การควบคุมอาหาร และการคลอดบุตรที่กำลังจะมาถึง อย่างไรก็ตาม หากหนังสือการตั้งครรภ์เหล่านี้ทำให้คุณวิตกกังวล อย่าอ่านเลย ค้นหาสิ่งที่เป็นบวกมากขึ้นในการอ่านหรือถามแพทย์ของคุณโดยตรงในระหว่างการตรวจก่อนคลอดของคุณ

• เตรียมรับมือกับการแพ้ท้อง

สิ่งที่แย่ที่สุดอย่างหนึ่งของการแพ้ท้อง คือ มันสามารถโจมตีได้โดยไม่มีการเตือนล่วงหน้า สิ่งนี้สามารถทำให้คุณรู้สึกควบคุมตัวเองไม่ได้ และอาจนำไปสู่อารมณ์แปรปรวนและวิตกกังวลได้ เพื่อลดความกลัวต่างๆ ให้พยายามเตรียมพร้อม พกขนมติดตัวเพื่อป้องกันเวลารู้สึกหิวกะทันหัน พกถุงพลาสติก เช่น ถุงแซนวิช ไว้ในกระเป๋าเสื้อหรือในกระเป๋าเงินไว้เผื่อเมื่อคุณรู้สึกว่าจะอาเจียนและไม่มีห้องน้ำให้บริการ หากอาการแพ้ท้องของคุณเกิดจากกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ต่างๆ ให้ลองถือของที่มีกลิ่นหอมเพื่อคว้าและปิดกั้นกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์อย่างรวดเร็ว ภาชนะใส่กานพลูหรืออบเชยอาจใช้ได้ผลหรือโลชั่นทามือขวดเล็กๆ ที่คุณชอบ

• หาเพื่อนที่คอยสนับสนุน

รู้สึกอ้วนและ “น่าเกลียด” เมื่อคุณกำลังมองหาชุดคลุมท้อง? พาคนที่จะยืนอยู่นอกห้องแต่งตัวไปด้วยและบอกคุณว่าคุณสวยแค่ไหน คุณยังสามารถพาเพื่อนไปนัดหมายก่อนคลอด นี่อาจเป็นคู่ของคุณ เพื่อนของคุณ หรือญาติก็ได้ แต่การมีใครสักคนอยู่กับคุณ โดยเฉพาะการทำอัลตราซาวด์หรือการทำหัตถการ เช่น การเจาะน้ำคร่ำ สามารถช่วยคลายความกังวลได้

• เชื่อมต่อกับคุณแม่ตั้งครรภ์คนอื่นๆ 

การพูดคุยกับคนอื่นเกี่ยวกับอารมณ์แปรปรวนและความกังวลสามารถช่วยให้คุณรู้สึกปกติได้ มีฟอรัมและกลุ่มโซเชียลมีเดียมากมายสำหรับสตรีมีครรภ์โดยเฉพาะ

สุดท้ายนี้ เมื่อคุณผ่านพ้นช่วงเวลายากลำบากต่างๆ ไปได้ พร้อมสภาพร่างกายและจิตใจที่กลับเข้าสู่ภาวะปกติ ความสุขของคุณจะค่อยๆ กลับคืนมาอีก โดยเฉพาะความสุขที่เกิดจากการที่มีลูกน้อยอยู่ในอ้อมกอดที่คุณต้องคอยประคบประหงมทุกวันซึ่งแน่นอนว่ามันคือความสุขและของขวัญที่ดีที่สุดของชีวิตคุณ

การต้องคอยดูแลทารกน้อยของคุณในช่วงแรกของชีวิตของพวกเขาเป็นบททดสอบที่สำคัญต่อจากการตั้งครรภ์ทั้ง 9 เดือนที่ผ่านมา เพราะประสบการณ์ใหม่ๆ ที่คุณต้องเรียนรู้สามารถเกิดขึ้นได้ทุกวัน  แน่นอนว่าเมื่อถึงช่วงเวลาหนึ่งคุณคงนึกย้อนกลับไปถึงตอนที่คุณตั้งครรภ์ซึ่งตัวคุณตกอยู่ในโหมดของคนที่อารมณ์แปรปรวนสุดขั้ว และเชื่อว่าคุณคงไม่อยากกลับไปเป็นคนเดิมที่อารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ แบบนั้นอีก เพราะคุณคงรู้ดีว่าการเป็นคนเจ้าอารมณ์ หงุดหงิด ฉุนเฉียว นั้นไม่ทำให้อะไรในชีวิตดีขึ้น ซึ่งเมื่อลูกๆ ของคุณโตพอที่จะเรียนรู้ในเรื่องของอารมณ์และการจัดการกับอารมณ์ของตัวเอง คุณสามารถปลูกฝังพวกเขาด้วยแนวทางดีๆ มากมายที่จะช่วยให้พวกเขาเป็นเด็กที่เติบโตไปพร้อมกับการรู้เท่าทันอารมณ์ของตัวเอง และพร้อมที่จะเติบโตเป็นผู้ที่มีความฉลาดอย่างรอบด้านด้วย Power BQ ในด้าน ความฉลาดทางอารมณ์ EQ  ซึ่งเป็นหนึ่งในทักษะที่สำคัญของเด็กๆ ในยุคของศตวรรษที่ 21 อย่างแท้จริงค่ะ