40 วิธีรับมืออาการแพ้ท้อง
1.ดื่มนม หรือเครื่องดื่มร้อนๆ หลังจากตื่นนอนตอนเช้า
2.หากรู้สึกคลื่นไส้อาเจียน ให้จิบน้ำอุ่น หรือน้ำขิง (ขิงแท้ 100% ไม่ใส่น้ำตาล) ช่วยบรรเทาอาการคลื่นไส้ได้
3.หลังอาเจียน ควรดื่มน้ำอุ่น กลั้วคอล้างกลิ่นที่ทำให้รู้สึกคลื่นไส้ และในระหว่างวันควรดื่มน้ำให้มากๆ
4.รับประทานอาหารอ่อนๆ ย่อยง่าย แบ่งอาหารเป็นมื้อย่อยๆ วันละ 5-6 มื้อ ช่วยลดความรู้สึกคลื่นไส้
5.รับประทานผลไม้บรรเทาอาการคลื่นไส้อาเจียน ได้แก่ สับปะรด และกล้วย
6.รับประทานขนมปังจืด หรือขนมปังกรอบธัญพืช 1-2 ชิ้น ก่อนนอน เพื่อไม่ให้ท้องว่าง บรรเทาอาการแพ้
7.เตรียมเครื่องดื่ม หรือขนมปังแครกเกอร์แบบเค็มไว้ใกล้ตัวเสมอ หลังตื่นนอนให้รับประทานทันที และนอนต่อ 15 นาทีก่อนจะลุกจากเตียง ช่วยบรรเทาอาการแพ้ท้องได้
8.เมื่อลืมตาตื่นนอนแล้ว ให้นอนพักร่างกายสักครู่ อย่าเพิ่งรีบลุกจากเตียงทันที เพราะจะทำให้คลื่นไส้ได้
9.นักจิตวิทยาชื่อ Gordon Gallup กล่าวว่า “การมีออรัลเซ็กซ์สามารถช่วยบรรเทาอาการแพ้ท้องได้” แต่คำกล่าวนี้ยังไม่มีการพิสูจน์อย่างเป็นรูปธรรมหรือมีหลักฐานสนับสนุนแต่อย่างใด
10.ใส่สายรัดข้อมือบรรเทาอาการแพ้ท้อง แต่ต้องเป็นสายรัดข้อมือกดจุดเท่านั้น ทำงานโดยการให้ความดันที่ปลอกข้อมืดกดจุด
11.หากิจกรรมทำ เช่น พูดคุยกับเพื่อน หรืออยู่กับสิ่งที่ชอบ เพื่อผ่อนคลายความเครียด และปรับอารมณ์
12.การเดินเล่นไปมา สามารถช่วยบรรเทาอาการแพ้ท้องได้ รวมถึงอาการอื่นๆ เช่น อาการจุกเสียด
13.กลิ่นหอมบางกลิ่นช่วยบรรเทาอาการแพ้ท้องได้ เช่น น้ำมันหอมระเหยเปปเปอร์มินต์ วางไว้ในห้องนอน
14.รักษาจากสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการแพ้ท้อง เช่น อาการแพ้ท้องแฝด หรือกรณีตั้งครรภ์ไข่ปลาอุก
15.หากแพ้ท้องไม่มาก แพทย์จะให้คำแนะนำว่าอาการเหล่านี้เป็นเรื่องธรรมชาติ คุณแม่ไม่ต้องกังวล
16.หากแพ้ท้องมาก แนะนำให้อมลูกอมบ่อยๆ จิบน้ำหวาน หรือน้ำผลไม้ทีละน้อย เพื่อให้พลังงาน
17.หากอาเจียนมากจนรับประทานไม่ได้ ควรปรึกษาพบแพทย์ ไม่แนะนำให้ซื้อยามารับประทานเอง
18.หากอาเจียนรุนแรง ควรรีบพบแพทย์ เพราะอาจทำให้มีภาวะขาดน้ำ ขาดสารอาหาร เลือดเป็นกรดได้
19.ควรพักผ่อนให้เพียงพอ ไม่นอนดึก หาเวลางีบบ้างระหว่างวัน ทำจิตใจให้สงบและเข้มแข็ง ไม่เครียด
20.ไม่ควรฝืนทำงานหรือออกกำลังกายมากเกินไป เพราะช่วงนี้สภาพร่างกายของคุณแม่และลูกยังไม่มั่นคง