-
ไข้หลังคลอด จากเต้านมอักเสบ
อาการคัดเต้านมถือเป็นอาการหลังคลอดที่เกิดขึ้นได้ทั่วไป หากปล่อยทิ้งไว้ อาการคัดเต้าก็จะรุนแรงขึ้นจนเจ็บเต้านม เต้านมแดง และเป็นไข้สูงต่อเนื่อง 7-10 วัน คุณแม่ต้องให้ลูกช่วยดูดนมจากเต้าเพื่อระบายน้ำนมที่คั่งค้าง จะทำให้อาการดีขึ้น ลดปวดตึงเต้านม แต่ถ้าอาการคัดเต้าลุกลามจนเต้านมอักเสบเป็นหนอง หรือเกิดจากการติดเชื้อจากหัวนมแตก แผลถลอกบริเวณเต้านม ขอให้คุณแม่อย่านิ่งนอนใจ รีบไปพบแพทย์เพื่อรักษาทันที
-
ไข้หลังคลอดจากการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ
อาการชัดเจนที่บ่งบอกว่า คุณแม่อาจติดเชื้อทางเดินปัสสาวะหรือกรวยไตอักเสบ ก็คือ อาการไข้สูง ปัสสาวะไม่ออกหลังคลอดหลายวัน และปวดท้องบริเวณกระเพาะปัสสาวะ ซึ่งเมื่อได้รับการตรวจมักพบว่ามีการติดเชื้อในปัสสาวะแล้ว มีเม็ดเลือดขาวและแบคทีเรียที่เกิดจากการอักเสบในร่างกายปะปนอยู่ ซึ่งแพทย์จะรักษาโดยให้ยาปฏิชีวนะ และแนะนำให้ดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อช่วยระบายเชื้อโรค
-
ไข้หลังคลอดจากทางเดินหายใจติดเชื้อ
ส่วนใหญ่จะพบในช่วง 24 ชั่วโมงหลังคลอด และพบในคุณแม่ที่ผ่าคลอด โดยจะมีอาการปอดบวม จากการสำลักหรือติดเชื้อจากกระบวนการดมยาสลบ และเสมหะอุดตันทางเดินหายใจ ทำให้มีโอกาสติดเชื้อที่ปอดได้ ซึ่งอาการดังกล่าวส่งผลให้คุณแม่มีไข้ขึ้นสูง หากอักเสบรุนแรงจะมีเสียงวี้ดที่ปอด และเกิดภาวะออกซิเจนในเลือดต่ำลง ทำให้ระบบการหายใจผิดปกติตามมา ซึ่งมีโอกาสเสียชีวิตได้
-
ไข้หลังคลอดจากหลอดเลือดดำที่ขาอุดตัน
อาการไข้จากหลอดเลือดดำที่ขาอุดตัน เกิดจากในช่วงตั้งครรภ์เลือดจะข้นมาก หากไม่ได้เคลื่อนไหวร่างกาย เลือดจะไหลเวียนไม่ดี มักจะเกิดขึ้นกับคุณแม่หลังคลอด 5-6 วัน โดยมีอาการขาบวม ปวด กดเจ็บ บริเวณน่องหรือกล้ามเนื้อหน้าขาจะร้อน และถ้าปล่อยไว้นานผิวหนังบริเวณดังกล่าวจะเริ่มเปลี่ยนจากสีแดงเป็นสีคล้ำดำ และลุกลามไปอุดตันอวัยวะอื่นที่สำคัญจนเสียชีวิตได้ ในการรักษา แพทย์จะตรวจวินิจฉัยและให้การรักษาตามความรุนแรงของอาการ โดยให้รับประทานยาหรือฉีดเข้าหลอดเลือดดำเพื่อยับยั้งการเกิดลิ่มเลือดอุดตันเพิ่มขึ้น ซึ่งจะใช้เวลารักษาอย่างน้อย 3 เดือนหรือจนกว่าจะดีขึ้น
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่