แม่ท้องแก่ขับรถอันตรายไหม?
อันดับแรก ปรับเบาะที่นั่งให้ถอยไปข้างหลังเพื่อเพิ่มที่พื้นให้มากขึ้นก่อน เท้าจะได้เหยียบคันเร่งและเบรคได้สะดวก แล้วถ้าพวงมาลัยของคุณปรับความสูงได้ ก็ปรับให้พวงมาลัยสูงขึ้นไปอีกนิด จะได้ไม่กดพุงโตๆ ที่ยื่นออกมา
และถึงแม้ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่จะบอกว่า คุณแม่ตั้งครรภ์ก็สามารถขับรถระยะสั้นๆ ได้จนถึงช่วงใกล้คลอด ถ้าไม่มีภาวะผิดปกติ แต่มีเรื่องหนึ่งต้องใส่ใจคือ ความไม่ประมาท เพราะถ้าเกิดอุบัติเหตุขึ้น แรงกระแทกอาจเป็นอันตรายต่อทั้งคุณแม่และเจ้าตัวเล็ก ดังนั้นแม่ท้องจะต้องขับรถอย่างมีสติ, ไม่ขับรถเร็วเกินไป, หลีกเลี่ยงการขับรถในสภาพทัศนะวิสัยไม่ดี, และตรวจดูความพร้อมของยานพาหนะ ไม่ว่าจะเป็นยางหรือเบรกอย่างสม่ำเสมอ ที่สำคัญ ต้องไม่ลืมคาดเข็มขัดนิรภัยให้เรียบร้อยทุกครั้งที่ขึ้นรถ
แม่ท้อง VS การขับรถระยะไกล
การขับรถระยะไกลหรือใช้เวลานานมากกว่า 1 ชั่วโมง อาจทำให้ว่าที่คุณแม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อยมาก (ความจริงถึงไม่ได้ขับเอง แต่ต้องนั่งรถนานๆ ก็ทำให้ปวดเมื่อยได้เหมือนกัน) หากคุณจำเป็นต้องขับรถหรือนั่งรถระยะไกล ควรปรึกษาสูติแพทย์เสียก่อน ถ้าคุณหมออนุญาต ก็มาเตรียมตัวให้พร้อมด้วยการ…
- สวมรองเท้าที่ใส่สบายในการขับรถ
- เตรียมอาหารและน้ำให้พร้อมถ้าต้องขับรถในช่วงระหว่างมื้ออาหารคุณแม่ไม่ควรทนหิวควรกินอาหารทุกมื้อและเพิ่มอาหารว่างระหว่างมื้อตามสมควร
- หาข้อมูลจุดแวะพัก คุณแม่ควรหยุดพัก ออกมาเดินยืดเส้นยืดสายทุก 1-2 ชั่วโมง ดังนั้นควรศึกษาข้อมูลไว้ก่อนว่า คุณจะแวะพักตรงจุดไหนได้บ้าง จุดไหนจะปลอดภัยและมีสิ่งอำนวยความสะดวกเพียงพอ
- อย่ากลั้นปัสสาวะเป็นเวลานาน ควรถ่ายปัสสาวะทุก 2 ชั่วโมง พร้อมเตรียมกระดาษชำระสำหรับเข้าห้องน้ำ ช่วงไตรมาสสุดท้ายแม่ท้องจะกลับมาปัสสาวะบ่อยอีกแล้ว คุณอาจจะต้องเข้าห้องน้ำทุกครั้งที่หยุดพักรถ เตรียมกระดาษชำระหรือทิชชู่เปียกติดรถไว้ได้เลย ถึงมาตรฐานห้องน้ำตามปั้มน้ำมันเมืองไทยจะพัฒนาแล้ว แต่ก็ไม่แน่ว่าทุกที่จะมีกระดาษชำระให้เราใช้
- เตรียมหมอนอิงสำหรับหนุนหลังหรือหมอนรองคอไว้แก้เมื่อย ถ้าเป็นรถส่วนตัวคุณแม่ควรปรับพนักเก้าอี้อยู่ในลักษณะกึ่งเอนนอน
- ฝึกท่าบริหารยืดกล้ามเนื้อ ถ้าคุณแม่คนไหนไม่ได้บริหารกล้ามเนื้ออยู่เป็นประจำ ก่อนเดินทางก็เป็นเวลาดีที่คุณจะได้ฝึกยืดกล้ามเนื้อต้นคอ, แผ่นหลัง, ต้นขา, น่อง ท่าบริหารจะช่วยแก้ปวดเมื่อยและทำให้คุณรู้สึกสบายตัวขึ้นเมื่อต้องกลับขึ้นไปนั่งหลังพวงมาลัย
อย่างไรก็ดี คุณแม่ท้องทั้งหลายที่ต้องเดินทางไปไหนมาไหนอยู่ตลอดเวลา ในเรื่อของการป้องกันตัวเองระหว่างเดินทางจึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งที่มอง ข้ามไม่ได้ เพราะหากเกิดอุบัติเหตุไม่คาดคิดขึ้นมา อาจจะทำให้เกิดการสูญเสียได้ทั้งคุณแม่และลูกน้อยในครรภ์ การคาดเข็มขัดนิรภัยรวมถึงถุงลมนิรภัยจึงเป็นเรื่องสำคัญที่แม่ตั้งครรภ์และทุกคนในครอบครัวจะต้องดูแลเป็นอันดับแรกๆ ในการเดินทางค่ะ
อ่านต่อบทความอื่นน่าสนใจ คลิก!
- อาการท้องแข็งขณะตั้งครรภ์ เรื่องที่แม่ท้องต้องระวัง !!
- แม่ท้องถูกรถชนเพราะมัวแต่เล่นเกม หมอจึงรีบผ่าคลอดเพื่อรักษาชีวิตลูก
- ขับรถตอนท้องแก่ได้ไหม
- ท้องแล้วไปเที่ยวดูหิมะได้ไหม
บทความโดย: จากเรื่อง “ขับรถตอนท้องแก่…ได้ไหม?” นิตยสารเรียลพาเรนติ้ง ฉบับที่ 86 เมษายน 2555