วัคซีนวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกหรือเอชพีวี
- จำนวนเข็ม 3 เข็ม
- การฉีด ฉีดเข็มที่ 2 ห่างจากเข็มแรก 1-2 เดือน และเข็มที่ 3 ห่างจากเข็มแรก 6 เดือน
หากฉีดอยู่แล้วและยังไม่ครบจำนวนเข็ม แต่ตั้งครรภ์เสียก่อน ให้หยุดฉีดก่อน จากนั้นจึงค่อยฉีดต่อหลังคลอด
วัคซีน ระหว่างตั้งครรภ์
วัคซีนบาดทะยัก
- จำนวนเข็ม 3 เข็ม
- การฉีด หากไม่เคยฉีดมาก่อน ให้ฉีด 3 เข็ม เข็มที่ 1 และ 2 ห่างกัน 1 เดือน และเข็มที่ 3 ห่างจากเข็มแรก 6 เดือน
หากเคยฉีดมาแล้ว 1 เข็ม ให้ฉีดอีก 2 เข็ม ห่างกัน 6 เดือน
หากเคยฉีดมาแล้ว 2 เข็ม ให้ฉีดอีก 1 เข็มทันทีที่ฝากครรภ์
หากฉีดครบ 3 เข็มแล้ว แต่เกิน 10 ปี ให้ฉีดกระตุ้นอีก 1 เข็ม
แม้การคลอดในปัจจุบันจะมีความก้าวหน้าและเครื่องมือที่ทันสมัย แต่ก็ยังมีโอกาสติดเชื้อได้ ดังนั้นแม่ท้องจึงยังจำเป็นต้องฉีดวัคซีนป้องกันบาดทะยักอยู่ ซึ่งช่วยป้องกันไม่ให้ลูกติดเชื้อได้อีกด้วย
ทารกที่ติดเชื้อบาดทะยักจะมีอาการเกร็ง หลังแข็ง หลังแอ่น ชักกระตุก ดูดนมไม่ได้ และเสียชีวิตในที่สุด
วัคซีนคอตีบและไอกรน
- จำนวนเข็ม 1 เข็ม
- การฉีด ฉีดร่วมกับวัคซีนบาดทะยักในเข็มที่ 2
วัคซีนนี้เป็นวัคซีนที่รวม 3 โรคไว้ในเข็มเดียวกัน แนะนำให้ฉีดที่อายุครรภ์ระหว่าง 27-36 สัปดาห์ และควรฉีด 1 เข็มต่อการตั้งครรภ์ทุกท้อง
โรคคอตีบ พบว่ามีการระบาดใหม่อีกครั้ง ในปี พ.ศ. 2555 ซึ่งโรคนี้ทำให้แม่และลูกในท้องเสียชีวิตได้ หรือเกิดอาการอื่นๆ เช่น หายใจไม่ออก ทางเดินหายใจอุดตัน กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ
โรคไอกรน เป็นโรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจ ผ่านการไอและจาม หากติดเชื้อจะมีอาการไอถี่ หรือระบบหายใจล้มเหลว และทำให้เสียชีวิตได้ นอกจากนี้ลูกสามารถติดเชื้อไอกรนผ่านทางแม่ได้ด้วย ซึ่งหากลูกเป็นโรคไอกรนเมื่ออายุ 3 เดือนแรกหลังคลอด จะมีโอกาสเจ็บป่วยรุนแรงจนเสียชีวิตได้ แต่การฉีดวัคซีนนั้นจะช่วยป้องกันโรคไอกรนในลูกที่คลอดออกมาได้ตั้งแต่ 2-6 เดือนเลยทีเดียว
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
วัคซีนไข้หวัดใหญ่
- จำนวนเข็ม 1 เข็ม
- การฉีด ควรฉีดเมื่ออายุครรภ์ระหว่าง 27-36 สัปดาห์
การฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่นอกจากจะช่วยป้องกันแม่แล้ว ยังส่งภูมิคุ้มกันให้ลูกน้อยหลังคลอดได้อีก 6 เดือนเลยทีเดียว วัคซีนนี้สามารถฉีดในคนท้องได้ทุกฤดู ไม่จำเพาะช่วงหน้าหนาวที่มีการระบาดเท่านั้น
โรคไข้หวัดใหญ่เป็นโรคที่ทำอันตรายให้คนท้องได้มากกว่าคนธรรมดา ทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรงมากกว่า เช่น ปอดบวม เยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ หัวใจวาย เป็นต้น จนทำให้แม่และลูกเสียชีวิตได้
วัคซีนไวรัสตับอักเสบบี
- จำนวนเข็ม 3 เข็ม
- การฉีด เข็มที่ 1 และ 2 ห่างกัน 1-2 เดือน และเข็มที่ 3 ห่างจากเข็มแรก 6 เดือน
คุณแม่ที่ตั้งครรภ์ควรตรวจเลือด เพื่อทราบว่าเป็นพาหะของเชื้อโรคนี้หรือไม่ และอาจปรึกษาแพทย์เพื่อพิจารณาว่าควรได้รับวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบีหรือไม่ ซึ่งผู้หญิงตั้งครรภ์ที่ควรได้รับวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบี ได้แก่ คนยังไม่มีภูมิคุ้มกันต่อไวรัสตับอักเสบบี หรือมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี
การฉีดวัคซีนไวรัสตับอักเสบบีนอกจากจะช่วยป้องกันแม่แล้ว ยังส่งภูมิคุ้มกันให้ลูกน้อยหลังคลอดด้วย อาจมีผลข้างเคียงหลังฉีดบ้าง แต่ไม่ร้ายแรง เช่น ปวด บวม แดงบริเวณที่ฉีด เมื่อยเนื้อเมื่อยตัว มีไข้ต่ำๆ หรือปวดศีรษะได้ แก้ไข้ด้วยการกินยาแก้ปวดหรือประคบเย็น
ไวรัสตับอักเสบบีเป็นไวรัสที่ติดจากการสัมผัสสารคัดหลั่ง เช่น เลือด น้ำลาย น้ำมูก อสุจิ เป็นต้น และสามารถติดจากแม่สู่ลูกได้ การติดเชื้อจะทำให้ตับอักเสบ ตัวเหลือง ตาเหลือง อ่อนเพลีย ตับวาย และมีแนวโน้มเป็นมะเร็งตับหรือตับแข็งได้ในอนาคต