วัคซีนสำหรับคนท้อง ควรฉีดไหม? ฉีดวัคซีนระหว่างตั้งครรภ์ไม่เป็นอันตรายกับลูกในท้องใช่ไหม ? ถามกันมาบ่อยๆ แบบนี้ วันนี้ทีมแม่ABK จะมาตอบให้หายสงสัย เพื่อที่แม่ท้อง หรือว่าที่คุณแม่ได้คลายความกังวลกันด้วยค่ะ
วัคซีนสำหรับคนท้อง จำเป็นต้องฉีดหรือไม่?
จากที่ทีมแม่ABK เคยตั้งครรภ์ที่ผ่านก็มีได้รับการฉีด วัคซีนสำหรับคนท้อง มาด้วยเช่นกัน เป็นวัคซีนไข้หวัดใหญ่ค่ะ เดี๋ยว จะมาบอกรายละเอียดว่าฉีดวัคซีนได้ตอนช่วงไหนของการตั้งครรภ์ คุณหมอมีแนะนำมานะคะว่าการฉีดวัคซีนระหว่างตั้งครรภ์มีความจำเป็นและสำคัญมากๆ เพราะเป็นการสร้างภูมิคุ้มให้กับร่างกายของแม่ท้อง
เมื่อร่างกายแม่ถูกกระตุ้นให้มีภูมิคุ้มกันร่างกายแข็งแรงในระหว่างตั้งครรภ์ ก็จะช่วยลดความเสี่ยงในการเจ็บป่วยขณะตั้งครรภ์ได้ค่ะ เพราะถ้าหากแม่เจ็บป่วยไม่สบายขึ้นมาก็อาจส่งผลกระทบโดยตรงกับลูกน้อยในครรภ์ อย่าลืม!! ว่าการกินยาเพื่อรักษาอาการป่วยไม่สบาย ไม่เป็นผลดีต่อลูกในท้องเลยค่ะ
ทำไมไม่ฉีดวัคซีนก่อนท้อง ?
การวางแผนในการตั้งครรภ์เป็นเรื่องที่ทีมแม่ABK แนะนำอยู่ตลอดค่ะ การตรวจสุขภาพร่างกายก่อนท้อง จะช่วยให้เรารู้ว่าร่างกายมีภูมิคุ้มกันโรคหรือเปล่า หรือถ้ายังไม่มีภูมิคุ้มกัน คุณหมอก็จะแนะนำว่าต้องได้รับการฉีควัคซีนที่จำเป็นอะไรบ้าง ซึ่งวัคซีนพื้นฐานจำเป็นก็เช่น บาดทะยัก ไข้หวัดใหญ่ ฯลฯ วัคซีนเหล่านี้จำเป็นและสำคัญมากๆ กับสุขภาพร่างกายของแม่ท้องทุกคนนะคะ
แล้วถ้าไม่ได้ไปตรวจสุขภาพก่อนท้อง แล้วมีการตั้งครรภ์ขึ้นมา ในระหว่างนี้จะฉีดวัคซีนอะไรได้บ้าง ทีมแม่ABK ขอบอกให้คุณแม่ท้องทุกคนได้สบายใจก่อนค่ะ ว่าในเบื้องต้นเมื่อเรารู้ตัวแล้วว่ามีการตั้งครรภ์ สิ่งแรกที่คุณพ่อคุณแม่ต้องทำในทันที รอไม่ได้ นั่นก็คือการไป “ฝากครรภ์” ยิ่งฝากครรภ์เร็วยิ่งช่วยลดภาวะเสี่ยงจากการเจ็บป่วย ไม่สบายต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้หลังจากตั้งครรภ์ไปแล้วได้ค่ะ
การฝากครรภ์คุณหมอจะเช็กสุขภาพ และสอบถามประวัติการได้รับวัคซีนต่างๆ ให้กับคุณแม่ด้วยค่ะ ซึ่งตรงนี้ก็จะทำให้ได้รู้ เบื้องต้นว่าร่างกายคุณแม่ยังจำเป็นต้องได้รับวัคซีนอะไรบ้าง สำหรับวัคซีนแม่ท้อง ที่สามารถรับการฉีดได้ในขณะตั้งครรภ์ ที่ทางการแพทย์แนะนำไว้ คือ…
ฉีดวัคซีนระหว่างตั้งครรภ์ อะไรได้บ้างที่ไม่เป็นอันตรายต่อลูกในท้อง ?
การได้รับการฉีดวัคซีนหากเป็นไปได้คุณหมอก็แนะนำว่าให้ฉีดเตรียมร่างกายให้พร้อมก่อนตั้งครรภ์ค่ะ แต่ที่บอกไปตอนต้นว่าทีมแม่ABK ก็มีฉีดวัคซีนตอนท้องด้วยเหมือนกัน เป็นวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ค่ะ และนี่คือวัคซีนที่คุณแม่ถามกันมาว่าคนท้องฉีดวัคซีนอะไรได้บ้าง มีดังนี้ค่ะ
1. วัคซีนป้องกันบาดทะยัก
วัคซีนป้องกันบาดทะยักเป็นวัคซีนสำหรับคนท้อง ที่คุณหมอแนะนำให้ฉีดกันค่ะ ซึ่งโดยปกติวัคซีนบาดทะยักทุกคนจะได้รับฉีดกันมาตั้งแต่เด็กๆ แล้วนะคะ แต่โตมาเป็นผู้ใหญ่วัคซีนบาดทะยักก็ยังจำเป็นอยู่นะคะ ปกติควรฉีดทุกๆ 10 ปี สำหรับคุณแม่ท้องที่ไม่ได้มีการฉีดวัคซีนบาดทะยักมามากกว่า 10 ปี และไม่เคยได้มีการฉีดมาก่อนท้อง หลังจากตั้งครรภ์คุณหมอจะฉีดให้ 3 เข็ม การฉีดเข็มแรกเดือนที่ 1(ของการตั้งครรภ์) และเข็มที่ 2 ในเดือนที่ 6(ของการตั้งครรภ์) ส่วนเข็มที่ 3 จะฉีดให้คุณแม่หลังจากที่คลอดลูกเรียบร้อยแล้วค่ะ
2. วัคซีนป้องกันคอตีบ ไอกรน
พอบอกว่าเป็นวัคซีนคอตีบ ไอเกรน จะต้องฉีดหลายเข็มหรือเปล่า ไม่ต้องกลัวค่ะคุณแม่ เพราะวัคซีนเข็มนี้เป็นวัคซีนรวมในเข็มเดียวกัน และก็ฉีดแค่เข็มเดียว เป็นวัคซีนที่ช่วยปกป้องคุณแม่จากการติดเชื้อระหว่างตั้งครรภ์ที่อาจเกิดขึ้นได้ ให้มีอัตราเสี่ยงน้อยลง หรือไม่มีเลยค่ะ คุณหมอจะฉีดวัคซีนให้คุณแม่ได้ในช่วงอายุครรภ์ 27-36 สัปดาห์ค่ะ
3. วัคซีนไข้หวัดใหญ่
คนท้องถ้าเป็นไปได้ไม่อยากให้ป่วยไม่สบายเป็นไข้หวัดใหญ่กันเลยค่ะ เพราะเมื่อป่วยแล้วโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนจะรุนแรงมากกว่าคนที่ไม่ท้องค่ะ โดยปกติแล้ววัคซีนไข้หวัดใหญ่จะมีแนะนำให้ฉีดกันในทุกๆ ปีค่ะ ปีละ 1 เข็ม สำหรับคุณแม่ท้องที่ไม่ได้มีการฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ก่อนตั้งครรภ์ คุณแม่จะสามารถฉีดให้ในระหว่างตั้งครรภ์ได้ในช่วงอายุครรภ์หลัง 28 สัปดาห์ไปแล้วค่ะ
ส่วนนี้เป็นวัคซีนพื้นฐานที่จำเป็นสำหรับคนท้อง ซึ่งวัคซีนนอกเหนือจากนี้ จะเป็นการพิจารณาการได้รับวัคซีนที่จะอยู่ในการควบคุมของคุณหมอที่ดูแลครรภ์ให้คุณแม่เป็นกรณีๆ ไปค่ะ
นอกจากนี้นะคะก็ยังวัคซีนได้แก่ วัคซีนป้องกันโรค สุกใส (Varicella) งูสวัด (Zoster) และวัคซีน คางทูม หัด หัดเยอรมัน ( Measles, mumps, rubella ) เป็นวัคซีนที่คุณหมอจะไม่ฉีดให้คุณแม่ระหว่างตั้งครรภ์กันนะคะ ส่วนใหญ่จะแนะนำให้ฉีดกันก่อนที่จะมีการตั้งครรภ์เกิดขึ้น ฉีดมาล่วงหน้าอย่างน้อย 1 เดือน สาเหตุที่ไม่แนะนำให้ฉีดวัคซีคซีนกลุ่มนี้ขณะตั้งครรภ์ เนื่องจากเป็นวัคซีนเชื้อเป็น หากฉีดขณะตั้งครรภ์อาจเสี่ยงที่จะทำให้ทารกในครรภ์ติดเชื้อ และอันตรายถึงพิการได้นั่นเองค่ะ
การสร้างภูมิคุ้มกันร่างกายที่ดีที่สุดก็คือการได้รับวัคซีนที่จำเป็นๆ ประจำทุกปี เพื่อให้ร่างกายกระตุ้นสร้างภูมิคุ้มกันโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด บวกกับการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ครบ 5 หมู่ ไม่กินหวาน มัน เค็ม เผ็ดจัดๆ ไม่ดื่มเหล้า สูบบุหรี่ และต้องออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพียงเท่านี้ก็ช่วยให้คุณแม่ตั้งครรภ์ได้อย่างปลอดภัย เป็นการตั้งครรภ์ สมบูรณ์แข็งแรงทั้งคุณแม่ และลูกน้อยในท้องด้วยค่ะ …ด้วยความห่วงใย
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
7 สัญญาณ อันตรายระหว่างตั้งครรภ์ ที่แม่ท้องต้องรีบหาหมอ
มันฝรั่งทอด กินมากไปเสี่ยงเบาหวานขณะตั้งครรภ์
วัคซีนผู้ใหญ่ ใครว่าไม่สำคัญ พ่อแม่ควรฉีดถ้าอยากอยู่กับลูกไปนานๆ
โรคหัด หัดเยอรมัน ต่างกันอย่างไร
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
เครดิต : โรงพยาบาลวิชัยยุทธ , โรงพยาบาลเปาโล