ตกเลือด ขณะตั้งครรภ์ ภาวะอันตรายที่สามารถเกิดขึ้นได้ แม่ท้องจึงควรมีความรู้ความเข้าใจถึงความผิดปกติต่างๆ จะทำให้สามารถสังเกต ป้องกัน ดูแลตนเองอย่างถูกวิธี
ตกเลือด ขณะตั้งครรภ์ อันตรายแค่ไหน?
เนื่องจากความผิดปกติระหว่างการตั้งครรภ์นี้มีหลายประการ ซึ่งหนึ่งในภาวะฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้นระหว่างตั้งครรภ์และเป็นอันตรายทั้งต่อแม่และทารกคือ “ตกเลือดก่อนคลอด” เช่นเดียวกับ คริสซี ทีเกน ภรรยาของนักร้องดัง จอห์น เลเจนด์ ซึ่งได้ออกมาเผยภาพ พร้อมบอกว่าตนนั้นได้สูญเสียลูกไป เนื่องจากมีเลือดออกผิดปกติระหว่างตั้งครรภ์ทำให้คลอดก่อนกำหนดไม่สามารถยื้อชีวิตลูกไว้ได้
- รู้ทัน อาการครรภ์เป็นพิษ พร้อมวิธีป้องกัน ดูแลดีปลอดภัยทั้งแม่ลูก
- ปากมดลูกสั้น เสี่ยงแท้ง เสี่ยงคลอดก่อนกำหนด?
- 7 วิธีดูแลตัวเองไม่ให้ “คลอดก่อนกำหนด” ในท้องสอง
คริสซี ทีเกน นางแบบสาวลูกครึ่งไทย-นอร์เวย์ ภรรยาสุดที่รักของนักร้องดังระดับโลก จอห์น เลเจนด์ หลังจากที่ประกาศข่าวดีจากการเล่าเรื่องราวผ่านมิวสิควิดีโอเพลง “Wild” ว่ากำลังจะมีสมาชิกใหม่คนที่ 3 มาเพิ่มสีสันให้บ้าน เรียกว่าทุกคนต่างตั้งตารอคอยเด็กน้อยกันอย่างใจจดใจจ่อ โดย คริสซี และ จอห์น นั้นได้มีลูกสาวคนโต ชื่อน้องลูนาร์ และลูกชายคนแรก ไมลส์ ธีโอดอร์ สตีเฟน
แต่ล่าสุดก็มีเรื่องราวไม่คาดคิดที่ทำเอาหลายคนช็อกและเศร้าไปตามๆ กัน เมื่อ ทีเกน ได้โพสต์ข้อความสุดสะเทือนใจผ่านอินสตาแกรม ว่าสูญเสียลูกชายคนที่ 3 ที่ทั้งคู่ตั้งชื่อว่า แจ็ค โดยเธอบอกว่า…
พวกเราช็อกและเจ็บปวดหัวใจอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน” หลังรักษาตัวอยู่โรงพยาบาลจากการตกเลือดระหว่างตั้งครรภ์และเผยว่าลูกชายอยู่ในอาการวิกฤต ไม่สามารถห้ามเลือด และให้ของเหลวที่จำเป็นกับทารกได้ ลูกต้องการเลือดมาก แม้เราจะให้เลือดหลายต่อหลายถุงมันก็ยังไม่พอ
เราไม่เคยตั้งชื่อลูกเอาไว้ก่อนที่พวกเขาจะคลอด แต่ลูกคนนี้ เรามีเหตุผลบางอย่างที่ตั้งชื่อเขาเอาไว้ว่า แจ็ค ตั้งแต่อยู่ในท้อง เขาจะเป็นแจ็คของเราตลอดไป เขาเหนื่อยมามากกับการที่เป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวของเรา และเขาจะเป็นครอบครัวของเราตลอดไป
เราขอบคุณสำหรับชีวิตน้อยๆ ที่เรามี สำหรับลูกๆ ที่น่ารักของเรา ลูนา และ ไมล์ และสำหรับประสบการณ์ที่ผ่านมา แต่อย่างที่รู้ว่าไม่ใช่ทุกวันจะมีแต่ความสดใส และในวันนี้ที่มืดมนที่สุด เราคงทุกข์ระทม เราคงร้องไห้เหมือนลูกตาจะหลุดออกมา และเราก็ยังจะกอดและรักกันและกันเอาไว้ให้แน่นขึ้น เพื่อจะผ่านช่วงเวลานี้ไปให้ได้
https://www.instagram.com/p/CFyWQLWpJ3u/
อย่างไรก็ตามทีมแม่ ABK ก็ขอแสดงความเสียใจ และร่วมส่งกำลังใจ ให้ คริสซี และครอบครัวเข้มแข็งและผ่านเหตุการณ์อันโศกเศร้าได้ในเร็ววันนะคะ
ขอบคุณภาพจาก IG @chrissyteigen
- 7 สาเหตุ สำคัญ ของการแท้ง และวิธีป้องกัน
- 7 สัญญาณ อันตรายระหว่างตั้งครรภ์ ที่แม่ท้องต้องรีบหาหมอ
- พัฒนาการทารกในครรภ์ 9 เดือนมหัศจรรย์ เกิดอะไรขึ้นกับชีวิตน้อยๆ ของแม่บ้าง
สาเหตุของภาวะ ตกเลือด ขณะตั้งครรภ์
ภาวะ ตกเลือด ขณะตั้งครรภ์เกิดขึ้นได้หลายสาเหตุ ตั้งแต่เลือกออกจากการตั้งครรภ์นอกมดลูก ที่อาจทำให้มีเลือดออกจากช่องคลอดผิดปกติ หรืออวัยวะภายใน และ/หรือเส้นเลือดฉีกขาดจากความดันในเส้นเลือดสูง ความดันโลหิตสูง จนทำให้เส้นเลือดบางแห่งแตกได้ เป็นต้น
- เช็กให้ดี ผักและผลไม้แม่ท้องต้องระวัง เสี่ยงคลอดก่อนกำหนด
- ไม่ต้องรอคลอด! 9 วิธีกระตุ้นพัฒนาการ ทารกในครรภ์ สร้างลูกฉลาด อารมณ์ดีได้ตั้งแต่อยู่ในท้อง
- 8 พัฒนาการลูกในครรภ์ ช่วยให้แม่รู้จักลูกมากขึ้น!
นอกจากนี้ด้านพญ.ปวีณา ศรีมโนทิพย์ สูติ-นรีแพทย์ โรงพยาบาลเวชธานี ได้กล่าวถึงการตกเลือด ก่อนคลอดว่า คือการที่มีเลือดออกทางช่องคลอดตั้งแต่ตั้งครรภ์ได้ 28 สัปดาห์ เป็นต้นไป จนถึงก่อนการเจ็บครรภ์คลอด การตกเลือดก่อนคลอดเป็นภาวะฉุกเฉินที่เป็นสาเหตุการเสียชีวิตของแม่ท้องและทารก ทำให้เกิดการคลอดก่อนกำหนดสูงขึ้น พบได้ประมาณ 3-4 % ของการตั้งครรภ์ สาเหตุมากกว่า 50% เกิดจากภาวะรกเกาะต่ำ และรกลอกก่อนกำหนด
การปฏิบัติตัวของแม่ท้องที่มีภาวะ ตกเลือด ก่อนคลอด
- สังเกตอาการตั้งแต่ขณะเริ่มมีเลือดออกทางช่องคลอด ระยะเวลา จำนวนและลักษณะของเลือดที่ออกว่าเป็นสีแดงสดหรือสีคล้ำ มีเศษเนื้อเยื่อหรือชิ้นเนื้อปน หรือมีมูกปน มีเลือดไหลตลอดเวลา หรือไหลกระปริบกระปรอย มีอาการไม่สุขสบายร่วมด้วยหรือไม่ เช่น อาการปวดท้อง ปวดบิด หรือปวดตื้อๆ หรือปวดเฉียบพลัน หรือมีอาการเวียนศีรษะ เป็นต้น หากมีอาการดังกล่าว ให้รีบมาโรงพยาบาลทันที
- เข้มงวดกับการนอนพักลดการกระเทือนจากการเคลื่อนไหวเมื่อเลือดหยุดไหลแล้วยังจำเป็นต้องจำกัดกิจกรรมต่างๆเป็นเวลาหลายวัน ไม่ทำงานหนักเกินไป ไม่เดินทางไกลๆติดต่อกันเป็นเวลานานๆ และไม่ออกกำลังกายหักโหม
- หลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์หลังเลือดหยุดไหลแล้วอย่างน้อยประมาณ 2 สัปดาห์ และห้ามสวนอุจจาระ หรือสวนล้างช่องคลอด เพราะจะกระตุ้นการหดรัดตัวของมดลูก
- ส่งเสริมภาวะสุขภาพให้แข็งแรงด้วยการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และได้สัดส่วน เพื่อป้องกันภาวะเลือดจาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาหารที่มีธาตุเหล็ก โปแตสเซียมสูง เช่น ผักใบเขียว ไข่ นม งดสูบบุหรี่ งดอาหารและเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
- ระวังภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการป้องกันการติดเชื้อ โดยการดูแลความสะอาดของร่างกายและอวัยวะสืบพันธุ์
- หากมีอาการผิดปกติ เช่น มีเลือดออกมากขึ้น มดลูกหดรัดตัวถี่ขึ้น มีอาการปวดท้อง มีน้ำคร่ำซึมออกมาทางช่องคลอด หรือลูกดิ้นน้อยลง ควรมาพบแพทย์ทันที
- มาตรวจตามนัดสม่ำเสมอ เพื่อเฝ้าระวังภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นอย่างใกล้ชิด
ทั้งนี้คุณแม่ท้องที่มีความเสี่ยง ตกเลือด ตั้งแต่ช่วงที่เริ่มตั้งครรภ์ หรือคุณแม่ที่ตั้งครรภ์ในช่วงอายุมากกว่า 35 ปีขึ้นไป ควรพบแพทย์เป็นระยะๆ เพื่อเช็กสุขภาพทั้งตัวคุณแม่ และเด็กในครรภ์เรื่อยๆ ตามเวลาที่แพทย์นัด หากมีความผิดปกติก่อนเวลาแพทย์นัด ควรรีบพบแพทย์ทันที เพื่อป้องกันภาวะอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้
ขอบคุณข้อมูลจาก : www.khaosod.co.th , sriphat.med.cmu.ac.th , www.thairath.co.th , www.sanook.com
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
อ่านต่อบทความอื่นน่าสนใจ คลิกที่ภาพด้านล่าง ⇓
แม่ท้องต้องรู้! เลือดล้างหน้าเด็ก อันตรายไหม? มีผลต่อลูกในท้องหรือไม่
คนท้องกินยาพาราได้ไหม คนท้องกินยาอะไรได้บ้าง ยาที่คนท้องห้ามกิน มีอะไรบ้างเช็กเลย!