เรื่องจริงจากหมอสูติฯ ตอนที่ 11 เรื่องของแม่ที่ทุกข์ใจตลอด 9 เดือน - Amarin Baby & Kids

เรื่องจริงจากหมอสูติฯ ตอนที่ 11 เรื่องของแม่ที่ทุกข์ใจตลอด 9 เดือน

Alternative Textaccount_circle
event

“หมอตรวจเราทั้งคู่แล้วบอกว่าฉันปกติดี แต่จอห์นน้ำเชื้ออ่อน อสุจิมีจำนวนแค่ 10 ล้านต่อซีซี ทั้งที่ปกติไม่ควรต่ำกว่า 20 ล้าน หมอแนะนำให้จอห์นหยุดดื่มเหล้า สูบบุหรี่ พักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายเป็นประจำ ทั้งยังได้สั่งวิตามินและธาตุสังกะสีให้จอห์นรับประทาน”

ฉันชื่อแดงต้อย (ชื่อสมมุติ) อายุ 26 ปี ฉันไม่ได้เป็นคนสวย หน้าเหลี่ยม ผิวคล้ำ จมูกไม่โด่ง ที่ดูดีคือผมสีดำสนิทที่ลื่นเรียบของฉันปล่อยยาวถึงตะโพก แต่ฉันรู้ ฉันสวยในแบบที่ฝรั่งชอบ แค่ไปเที่ยวพัทยาฉันก็เป็นที่ถูกตาต้องใจของฝรั่ง ฉันคบกับฝรั่งที่ชื่อจอห์น (ชื่อสมมุติ) อายุ 35 ปี มานาน 4 ปี 2 ปีแรกจอห์นไปๆมาๆระหว่างประเทศสหรัฐอเมริกากับเมืองไทย 2 ปีหลังเขามาทำงานประจำที่เมืองไทย ในปีนี้เขาพาพ่อแม่มาสู่ขอฉัน จัดงานแต่งงานใหญ่โต สินสอดทองหมั้นนอกจากเป็นเงินและทองส่วนหนึ่งแล้ว เขาซื้อที่ดิน ปลูกบ้านให้ พร้อมรถเก๋งใหม่เอี่ยมคันงาม ทั้งยังให้เงินเดือนเดือนละสองหมื่นบาท หากต้องการอะไรก็ขอเพิ่ม

เมื่อมีบ้าน จอห์นกลับบ้านตรงเวลาทุกวัน บางวันฉันขับรถไปหาพ่อแม่ที่อยู่คนละจังหวัด เขาขอร้องให้ไปตอนเขาไม่อยู่ เขาบอกว่าเขาขาดฉันไม่ได้ กลับบ้านมาต้องเห็นหน้าฉัน ฉันก็ตกลง

แต่งงานกันได้ไม่นาน จอห์นบ่นอยากมีลูก เขาคิดว่าน่าจะมีปัญหาอะไรเกิดขึ้นกับคู่ของเรา เพราะอันที่จริงฉันอยู่กับเขามานาน 4 ปี โดย 2 ปีหลังมีเพศสัมพันธ์อย่างสม่ำเสมอ เขาจึงพาฉันไปปรึกษาหมอ หมอตรวจเราทั้งคู่แล้วบอกว่าฉันปกติดี แต่จอห์นน้ำเชื้ออ่อน อสุจิมีจำนวนแค่ 10 ล้านต่อซีซี ทั้งที่ปกติไม่ควรต่ำกว่า 20 ล้าน หมอแนะนำให้จอห์นหยุดดื่มเหล้า สูบบุหรี่ พักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายเป็นประจำ ทั้งยังได้สั่งวิตามินและธาตุสังกะสีให้จอห์นรับประทาน

คาดไม่ถึงว่า เพียงสองเดือนหลังจากไปหาหมอ ประจำเดือนฉันก็ขาด เมื่อไปหาหมอ หมอตรวจพบว่าฉันท้องได้ 6 สัปดาห์ น้อย(นามสมมุติ)เพื่อนของฉันรีบถามหมอว่า “คุณหมอคะ สมมุติแดงต้อยมีแฟนสองคน แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรคะว่าคนไหนเป็นพ่อ” หมอไม่ได้แสดงสีหน้าประหลาดใจ เหมือนเจอเรื่องแบบนี้เป็นประจำ หมอตอบว่า “ไม่ยากหรอกค่ะ อันดับแรกก็ดูวันปฏิสนธิ อย่างของคุณแดงต้อยตอนนี้ตั้งครรภ์ 6 สัปดาห์ แสดงว่ามีการปฏิสนธิย้อนจากวันนี้ลงไปสี่สัปดาห์ คือวันที่…” หมอเอาแผ่นหมุนที่ใช้คำนวณวันครบคลอดมาหมุนดู แล้วตอบต่อว่า “หากวันที่…ซึ่งเป็นวันไข่ตก คุณแดงต้อยนอนกับใคร คนคนนั้นก็คงเป็นพ่อเด็ก”

ฉันรู้สึกเย็นเยียบในอก ปัญหาคือวันที่ไข่ตก ฉันมีเพศสัมพันธ์กับผู้ชายสองคน ตอนกลางวันฉันไปนอนกับชายไทยซึ่งเป็นแฟนเก่า ทุกครั้งที่ฉันบอกจอห์นว่าจะขับรถไปหาแม่กับพ่อ แต่ฉันไม่ได้ไปหาหรอก ฉันไปหาแฟนคนนี้แหละ ทุกครั้งแฟนเคยสวมถุงยางอนามัย แต่ครั้งนี้เขาขอไม่ใช้ถุงยางอนามัยฉันก็ยินยอม พอกลับมาบ้านตอนกลางคืนฉันก็มีเพศสัมพันธ์กับสามี

น้อยซึ่งรู้เรื่องของฉันดี เพราะฉันเล่าทุกอย่างให้เพื่อนสนิทอย่างเธอฟังอย่างไม่ปิดบัง ถามหมอว่า “แต่หากนอนกับแฟนสองคนในวันไข่ตก คนหนึ่งนอนตอนกลางวัน คนหนึ่งนอนตอนกลางคืน อย่างนี้โอกาสเป็นลูกใครสูงกว่ากันคะ”

หมอยิ้มบางๆขณะตอบว่า “นอนวันเดียวกัน โอกาสเป็นลูกใครบอกไม่ได้หรอกค่ะ แบบนี้อาจจะต้องตรวจด้วยวิธีอื่น เช่น ตรวจหาดีเอ็นเอ ตรวจกรุ๊ปเลือดของเด็กมาเทียบกับพ่อแม่ แต่ส่วนใหญ่ก็จะตรวจเมื่อเด็กคลอดออกมาแล้วนะคะ”

ฉันกลับบ้านพร้อมน้อยอย่างกะปลกกะเปลี้ย น้อยปลอบใจฉันว่า “ไม่ต้องกลัว อย่างไรเด็กก็มีพ่อแน่ ไม่ใช่ลูกฝรั่งก็ลูกคนไทย” ฉันตอบน้อยพร้อมน้ำตาว่า “แต่หากพ่อเป็นคนไทย ฉันกับลูกก็ไม่มีอนาคต น้อยเธอก็รู้แฟนคนไทยของฉันไม่มีงานทำ แถมยังคบผู้หญิงคนนั้นคนโน้นเปรอะไปหมด” น้อยพยักหน้าเมื่อบอกว่า “อย่างนี้ขึ้นอยู่กับดวงแล้วล่ะ หากเป็นลูกของจอห์น แกกับลูกคงสบายไปทั้งชาติ แต่ถ้าไม่ใช่ แกไม่ต้องคิดมาก เพราะคิดมากไปก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้”

เมื่อจอห์นรู้ว่าฉันท้อง เขาดีใจสุดขีด โทรศัพท์ไปบอกพ่อแม่ของเขาที่เมืองนอก ให้ฉันหยุดทำงานบ้าน จ้างคนมาทำแทน เขาพาฉันไปฝากท้องที่โรงพยาบาลเอกชนชั้นนำของประเทศ เพราะบริษัทเขามีสวัสดิการให้ หากฉันต้องจ่ายเอง ฝากท้องแต่ละครั้งหลายพันบาททีเดียว

ความเครียด ความกลัว ความดีของจอห์นที่มีให้ ทำให้ฉันเครียดมาก ฉันแพ้ท้องรุนแรง จนต้องนอนโรงพยาบาลถึงสามครั้ง หลังจากหายแพ้ท้องน้ำหนักฉันก็ขึ้นน้อยมาก จอห์นหาอาหารบำรุงทุกอย่างมาให้ฉันกิน เมื่อตั้งครรภ์ได้ห้าเดือน หมอตรวจครรภ์ด้วยอัลตร้าซาวนด์ บอกว่าทารกเจริญเติบโตดี เป็นเด็กผู้ชาย ยิ่งทำให้จอห์นยิ้มไม่หุบ เขาบอกว่าจะตั้งชื่อลูกว่า จอห์นจูเนียร์

ความเครียดทำให้ฉันโทรศัพท์คุยกับน้อยไม่เว้นแต่ละวัน น้อยพาฉันเข้าวัด ฉันไปบนบานศาลกล่าวต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ว่าถ้าเป็นลูกของจอห์นฉันจะเลิกคบชู้สู่ชายตลอดชีวิต เมื่อท้อง จอห์นห้ามเดินทางไกล ฉันจึงไม่ได้ไปหาแฟนเก่าอีก ฉันมาคิดดู หากฉันโชคร้ายแฟนเก่าเป็นพ่อของเด็ก จอห์นคงเลิกรากับฉัน อย่างนั้น ฉันก็ยอมเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว เลี้ยงลูกคนเดียว เพราะแฟนเก่าเหมาะกับการเป็นแฟนเท่านั้น ไม่เหมาะกับการเป็นพ่อของลูก…

บันทึกจากหมอ

ฉันชื่อหมอรังสิมา (ชื่อสมมุติ) เป็นคนให้คำปรึกษาแดงต้อยเรื่องลูกในท้องเป็นลูกใคร เวลาผ่านไปนานจนฉันแทบลืมเรื่องนี้ไปแล้ว มาเจอแดงต้อยอีกที เธออุ้มลูกเข้ามาที่โรงพยาบาล เมื่อพบฉันเธอยกมือไหว้ ฉันแทบกลั้นหายใจเมื่อรู้สึกลุ้นว่าลูกแดงต้อยเป็นลูกของคนไทยหรือฝรั่ง แต่แล้วฉันก็ได้ยินเสียงทัก… “ซาหวัดดีครับ” เป็นเสียงของฝรั่งสามีแดงต้อย คนเป็นพ่ออุ้มเด็กในอ้อมแขนของแม่ขึ้นซบบ่า ฉันจึงเห็นว่าเด็กน้อยลูกของแดงต้อยมีตาสีฟ้า ผมสีทอง ผิวขาวถอดแบบพ่อไม่มีผิดเพี้ยน ฉันหันมามองแดงต้อย เห็นเธอยิ้มกว้าง ฉันยิ้มตอบ ไม่ได้พูดอะไร ทั้งที่ในใจอยากบอกว่า เรื่องแบบนี้เกิดในสมัยนี้ยากเหลือเกิน แดงต้อย…เธอเป็นคนหนึ่งในจำนวนน้อยที่โชคดี

 

บทความโดย: พญ. ชัญวลี ศรีสุโข

ภาพ : Shutterstock

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up