ไม่ฉีดยาสลบค่ะ บล็อกหลัง (ฉีดยาชาที่หลังนะคะ) ผ่าออกมาไส้ติ่งแตกติดเชื้อด้วย ผ่าเสร็จ ไม่เย็บแผลค่ะแผลเปิด เพราะต้องล้างทุกวันเดี๋ยวเป็นหนองข้างใน ทรมานมาก ท้องโตแผลเปิด ล้างแผลทุกวันเช้าเย็นแสบสุดๆ พลิกตัวก็ลำบาก เพราะท้องใหญ่หายใจไม่ออก
หลังจากผ่าได้หนึ่งวัน เริ่มหายใจไม่ออก ชีพจรเต้นน้อยลง ออกซิเจนไม่ถึงลูก เพราะแม่หายไม่ลึก คือหายใจสั้นๆ นะคะ แผลตึงมาก เหมือนท้องจะฉีก เป็นช่วงที่ทรมานที่สุดค่ะ สิ่งที่เราต้องทำคือ หายใจให้ลึกที่สุดแม้ยามหลับ หรือตื่น เลยตัดสินใจปรึกษาหมอ ขอผ่าเด็กออก ไม่งั้นกลัวน้องไม่รอด หมอไม่ยอมบอกว่าผ่าแล้วจะอันตราย อาจจะรอด 1 คน กลัวแม่จะช็อกตอนผ่า ฟังแล้วงงมั้ยคะ แต่หมอที่ผ่าไส้ติ่งก็อยากให้ผ่าเอาเด็กออกนะคะ แต่หมอสูตินารีไม่ยอมค่ะก็เลยต้องนอนจับชีพจรกันทุกชั่วโมงไป (หมอดูแล 2 คนค่ะ) ผ่านไป 1 อาทิตย์ (ลืมบอกว่าใส่ท่อปัสสาวะ)
มีน้ำออกจากท่อปัสสาวะ เรานึกว่าฉี่แตก ก็เรียกพยาบาลมาเปลี่ยนสาย เค้าก็เปลี่ยน แต่อีกสักพัก
ก็มีน้ำออกมาอีก พยาบาลเลยทักว่า จะคลอดหรือเปล่า เรางงเลย เพราะคนแรกน้ำคล่ำไม่แตก มีแต่น้ำเดิน ที่นี้เลยสังเกตว่าปวดประจำทุก 10 นาที
แน่แล้วออกแน่ ย้ายค่ะ ไปตึกคลอดไม่ถึงชั่วโมงเบ่งคลอดเองค่ะ ไหนจะแผลไส้ติ่ง ไหนจะแผลคลอด เจ็บไปหมด เด็กออกมาครบถ้วนสมบูรณ์ค่ะ น้ำหนัก 2,790 กรัม (คลอดวันที่ 22/11/55) ค่ะ เด็กปลอดภัยติดเชื้อแม่นิดหน่อย ไปอยู่ไอซียูเด็กแยกจากแม่กินนมแม่ไม่ได้ เพราะแม่ต้องให้ยาฆ่าเชื้อที่แรง หลังจากลูกคลอดการหายใจก็ปกติ หลังจากนั้นนอนโรงบาลอีกพักหนึ่ง ล้างแผลทุกวัน จนเนื้อแดงสวย ก็ไปเย็บแผลไส้ติ่ง แต่ลูก หมอบอกดีขึ้นให้กลับก่อน น้องกินนมขวดตั้งแต่เกิดไม่เคยกินนมแม่เลย เพราะแม่กินยาฆ่าเชื้อตลอด ตอนนี้ผ่านมา1 ปีแล้วค่ะ ที่บ้านไม่มีใครลืมเลยว่าน้องออกมายังไง เกือบตายทั้งแม่ทั้งลูก ตอนนี้ทุกคนปลอดภัย
ปล.ตอนแรกไม่คิดจะมาเล่าค่ะ แต่พอดีอาทิตย์ที่แล้วพาน้องไปหาหมอ พยาบาลอ่านประวัติน้องแล้วบอกแปลก ไม่เคยได้ยินเลย อยากมาแชร์ให้คุณแม่ที่กำลังท้องระวังตัวให้มากค่ะ ดูแลตัวเองตั้งแต่ยังไม่ท้อง
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่