เจ็บท้องจริง เจ็บท้องเตือน ต่างกันอย่างไร?
อาการ “เจ็บท้องเตือน” คือ เกิดจากการที่มดลูกขยายตัวเต็มที่ และเคลื่อนลงต่ำเพื่อเตรียมคลอด จนมีอาการหดเกร็งตัวเป็นบางครั้ง ซึ่งอาการแสดงของเจ็บท้องเตือนคือ
- คุณแม่จะรู้สึกเจ็บท้อง ท้องแข็ง รู้สึกปวดจี๊ดๆ ที่ท้อง
- มดลูกแข็งตัวจนสามารถคลำและรู้สึกได้ว่ามีก้อนแข็งๆ ที่หน้าท้อง
- มีอาการท้องแข็งและเจ็บท้องที่ไม่แน่นอน ไม่มีจังหวะสม่ำเสมอ
- เมื่อคุณแม่ได้พักผ่อนด้วยการนั่งหรือนอนนิ่งๆ อาการท้องแข็งก็จะหายไป
อาการ “เจ็บท้องจริง” คือ อาการเจ็บท้องที่เกิดจากมดลูกบีบรัดตัวเพื่อจะคลอด ทำให้คุณแม่มีอาการ
- รู้สึกเจ็บท้อง มีอาการท้องแข็ง เจ็บท้องมากอยู่นาน
- มีอาการเจ็บสม่ำเสมอ และมีอาการเจ็บที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ หรือเจ็บนานขึ้น
- มีอาการเจ็บท้อง ท้องแข็งร่วมกับมีอาการปวดบริเวณหลังร้าวลงมาถึงช่วงล่าง หรือจนถึงหน้าขา
- มีมูกปนเลือดออกมาทางช่องคลอด หรือมีน้ำเดิน
หากคุณแม่มีอาการเจ็บท้องจริงดังที่กล่าวมา ให้รีบไปพบแพทย์ทันที เพราะคุณแม่กำลังจะคลอดลูกน้อยแล้วค่ะ
คลอดธรรมชาติ และการผ่าตัดคลอด
การจะผ่าคลอด หรือคลอดธรรมชาติของคุณแม่นั้น โดยส่วนใหญ่ในปัจจุบันจะขึ้นอยู่กับสุขภาพร่างกายและความต้องการของคุณแม่ โดยสูติแพทย์จะเป็นผู้ดูแลและตรวจภายใน เพื่อประเมินขนาดของอุ้งเชิงกรานและขนาดของลูกน้อยเมื่ออายุครรภ์ครบกำหนด รวมถึงสุขภาพคุณแม่ และภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ซึ่งหากทุกอย่างเหมาะสม และคุณแม่มีความตั้งใจที่จะคลอดธรรมชาติ โดยไม่มีข้อบ่งชี้ให้ต้องผ่าคลอด ก็จะสามารถคลอดตามธรรมชาติได้
ส่วนการผ่าตัดคลอด ในทางวิชาการจะทำเมื่อมีข้อบ่งชี้ต่างๆ หรือความเสี่ยงต่อสุขภาพคุณแม่และลูกน้อย เช่น ลูกไม่กลับหัวหรืออื่นๆ หรือในปัจจุบันที่มักจะเป็นไปตามความต้องการของคุณแม่ โดยความแตกต่างของการคลอด คือ การคลอดธรรมชาติ จะเจ็บน้อยกว่า คุณแม่และลูกน้อยจะปรับตัวได้เร็วและดีกว่าการผ่าตัดคลอด ส่วนการผ่าตัดคลอดต้องใช้แพทย์ วิสัญญีแพทย์ และความพร้อมของห้องผ่าตัด ใช้วิธีการที่ยุ่งยากกว่า คุณแม่จะฟื้นตัวได้ช้ากว่าคลอดธรรมชาติ แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับข้อบ่งชี้และความจำเป็น ว่าการคลอดวิธีไหนจะปลอดภัยต่อคุณแม่และลูกน้อยมากที่สุดค่ะ
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
เตรียมพร้อมให้นมแม่ แก่ลูกน้อย
ลูกน้อยของคุณแม่จะได้รับคุณค่าน้ำนมคุณภาพจากคุณแม่หลังคลอดทันทีและเต็มที่ หากคุณแม่มีการเตรียมพร้อมดูแลเต้านม และแก้ปัญหาได้อย่างถูกต้อง ซึ่งปัญหาการให้นมแม่ที่พบบ่อย ได้แก่ ปัญหา หัวนมสั้น
แก้ปัญหา หัวนมสั้น
หากคุณแม่มีหัวนมสั้น สามารถแก้ไขได้ด้วยการนวดคลึงเต้านมตั้งแต่ตั้งครรภ์ โดยมีวิธีการดังนี้ (ยกเว้นกรณีคุณแม่นวดเต้านมแล้วท้องแข็ง เจ็บท้อง ควรงดการนวดเพื่อป้องกันการคลอดก่อนกำหนด)
- ใช้นิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้จับด้านข้างของหัวนม คลึงไปมาเบาๆ และจับหัวนมดึงยืดออกมา เล็กน้อยแล้วปล่อย ควรทำซ้ำ 2-3 ครั้ง นานครั้งละ 2-5 นาที จะช่วยให้หัวนมของคุณแม่ที่สั้นหรือฝังอยู่ในลานนม ยื่นยาวออกมาได้
- วางนิ้วหัวแม่มือทั้ง 2 ข้างให้ชิดโคนหัวนม กดและดึงออกจากกันไปทางด้านข้างทั้ง 2 ข้าง ทำแบบนี้ทั้งทางด้านบนและด้านล่าง และทำซ้ำหลายๆครั้งให้รอบบริเวณหัวนม
หากลองทำแล้วหัวนมคุณแม่ยังสั้นอยู่ ควรลองปรึกษาแพทย์ถึงการแก้ปัญหานี้ในวิธีอื่นๆ เพื่อให้หลังคลอดคุณแม่มีเต้านมและหัวนมที่พร้อมสำหรับการให้ลูกน้อยได้ทันทีค่ะ