วิธีรักษา หรือบรรเทาอาการแพ้ท้อง
- หลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นให้เกิดอาการแพ้ท้อง
ในระยะแรกคุณแม่อาจยังไม่ทราบว่าตัวเองแพ้อะไร ลองสังเกตว่าสิ่งใดเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดอาการแพ้ เช่น อาหาร หรือกลิ่นที่ทำให้คลื่นไส้ ทั้งนี้ควรหลีกเลี่ยงการใช้น้ำหอม หรืออาหารที่ทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ และควรหลีกเลี่ยงอาหารรสเผ็ด
- พักผ่อนให้เพียงพอ
ควรนอนอย่างน้อยวันละ 8 ชั่วโมง และหาเวลางีบในตอนกลางวัน เพื่อช่วยให้ระบบหมุนเวียนโลหิตในร่างกายทำงานได้ดี และช่วยลดอาการอ่อนเพลียระหว่างวัน เนื่องจากความอ่อนเพลียอาจทำให้อาการคลื่นไส้แย่ลง
- ดื่มน้ำมากๆ
โดยจิบทีละน้อยอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันการอาเจียน โดยปกติผู้ที่ตั้งครรภ์มักจะปัสสาวะบ่อย จึงทำให้ไม่อยากดื่มน้ำมากๆ แต่อย่างไรก็ตาม ต้องดื่มน้ำตามปริมาณที่ร่างกายต้องการต่อวันอย่างน้อยวันละ 2 ลิตร เพื่อช่วยให้เลือดหมุนเวียนได้ดี
- รับประทานผักและผลไม้
คุณแม่ตั้งครรภ์ต้องได้รับวิตามินและเกลือแร่ให้เพียงพอต่อวัน เพื่อการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์ หากร่างกายได้รับวิตามินและเกลือแร่ไม่เพียงพอ จะทำให้เกิดอาการไม่สบายตัว
- รับประทานยาหรือวิตามิน ที่แพทย์จ่ายให้
ยาที่แพทย์จ่ายให้เมื่อตอนฝากครรภ์ คือยาป้องกันการวิงเวียน รวมถึงธาตุเหล็ก และแคลเซียม อาจจะมีโฟลิกหรือวิตามินอื่นๆ เพิ่มเติม หากคุณแม่ต้องการรับประทานอาหารเสริม หรือวิตามินใดๆ ต้องปรึกษาคุณหมอก่อนทุกครั้ง
- ออกกำลังกาย
ออกกำลังกายที่เหมาะสมกับผู้ตั้งครรภ์ เช่น การเดินในน้ำ โยคะ เดิน และวิธีอื่นๆ ที่ปลอดภัย จะช่วยให้ร่างกายมีสุขภาพที่แข็งแรง ปรับเปลี่ยนยืดหยุ่นได้หลากหลายอิริยาบถ ทั้งนี้การออกกำลังกายจะช่วยให้เลือดหมุนเวียนดี ช่วยลดอาการแพ้ท้องได้
- ดูคลิปตลก ฟังเรื่องสนุก คุยกับคนที่คุยด้วยแล้วผ่อนคลาย
ดูหนัง ฟังเพลง ดูคลิปที่ให้ความบันเทิง ฟังเรื่องดีๆ พูดคุยกับผู้ที่ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย มีทัศนคติเป็นบวก เพี่อช่วยลดบรรยากาศความตึงเครียดระหว่างตั้งครรภ์
- นั่งสมาธิ หรืออ่านหนังสือ
การนั่งสมาธิ จะช่วยลดฮอร์โมนความเครียด หรืออ่านหนังสือที่มีเนื้อหาสบายๆ ไม่ตีงเครียด การชากอารมณ์จนเก็บไปฝันร้าย เนื่องจากคนท้องจะฝันร้ายง่ายแบบที่ควบคุมตัวเองไม่อยู่
- ทำกิจกรรมที่ช่วยให้ผ่อนคลาย
หางานอดิเรกทำ เช่น จดบันทึกระหว่างตั้งครรภ์ ปลูกต้นไม้ จัดสวน ถักโครเชต์ วาดรูป ทั้งนี้ต้องระวังการเคลื่อนไหวร่างกายที่ไม่เป็นอันตราย การทำกิจกรรมที่ชื่นชอบจะช่วยให้คุณแม่ผ่อนคลาย และลดความตึงเครียด
- รับประทานอาหารในปริมาณน้อยแต่บ่อยขึ้น
โดยให้เลือกอาหารที่ผ่านการปรุงแต่งน้อย อาหารที่มีโปรตีนสูงอย่างเนื้อสัตว์ที่ไม่มีไขมัน อาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตสูงและไขมันต่ำ อย่างขนมปัง ข้าว ขนมปังแครกเกอร์ และพาสต้า ทั้งนี้อาหารที่ยังร้อนจะทำให้มีกลิ่นแรง จึงควรรอให้อาหารเย็นลงก่อน เพื่อไม่ให้กลิ่นรุนแรงมากจนเกินไป
- รับประทานอาหารหรือดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของขิง
ขิง อาจช่วยลดอาการคลื่นไส้และอาเจียน แต่ควรปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรก่อนการรับประทานในระหว่างตั้งครรภ์
- หลีกเลี่ยงการรับประทานของร้อนหากกลิ่นของอาหารร้อนทำให้รู้สึกคลื่นไส้
- รับประทานขนมปังปิ้งเปล่า ๆ หรือบิสกิตปริมาณเล็กน้อยก่อนเข้านอน
- อยู่ในสถานที่ที่มีอากาศบริสุทธิ์
การใช้ยา
แพทย์จะใช้วิตามินบี 6 เป็นวิตามินเสริม เพื่อช่วยลดอาการคลื่นไส้อาเจียนในเบื้องต้น แต่หากไม่ได้ผลหรือมีอาการแพ้ท้องที่รุนแรงขึ้นกว่าเดิม แพทย์หรือผู้ดูแลอาจแนะนำให้รับประทานยาชนิดอื่น เพื่อช่วยบรรเทาอาการในระยะเวลาสั้น อย่างกลุ่มยาต้านอาการอาเจียน (Antiemetic) หรือยาต้านฮิสทามีน (Antihistamine) โดยแพทย์จะพิจารณาชนิดยาที่เหมาะสมสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์แต่ละราย ในกรณีที่ไม่สามารถรับประทานยาได้ แพทย์จะแนะนำยาฉีดหรือยาเหน็บแทน อย่างไรก็ตาม คุณแม่ตั้งครรภ์ที่ต้องการใช้ยาในการรักษาควรปรึกษาแพทย์ก่อนเสมอ
ในช่วงตั้งครรภ์คุณแม่มักจะมีอารมณ์แปรปรวน ยิ่งมี อาการแพ้ท้อง ร่วมด้วยก็จะยิ่งทำให้หงุดหงิดง่าย ข้อมูลที่ทีมกองบรรณาธิการ ABK นำมาฝากนี้ คงช่วยบรรเทาอาการ แพ้ท้อง ของคุณแม่ลงได้บ้างนะคะ อย่างไรก็ตามคุณแม่ควรดูแลสุขภาพให้แข็งแรง พักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เพื่อลูกน้อยในครรภ์จะได้เติบโตอย่างแข็งแรงนะคะ
อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก
ขอบคุณข้อมูลจาก : https://www.pobpad.com, https://www.thairath.co.th, https://www.petcharavejhospital.com
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่