ไปถึงแผนกฝากครรภ์ โรงพยาบาลจังหวัด ผมเห็นหมอสองสามคนรุมดูรูปอัลตร้าซาวนด์ของหน่อย หมอสูติที่นั่นตรวจหน่อยด้วยเครื่องอัลตร้าซาวนด์ แล้วส่งไปเอกซเรย์คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าเอ็มอาร์ไอต่อ เมื่อได้ผล หมออธิบายว่า
“คุณหน่อยตั้งครรภ์ 21 สัปดาห์ เป็นภาวะรกเกาะต่ำสมบูรณ์ คือรกคลุมปากมดลูก แต่ที่สำคัญและอันตรายยิ่ง คือรกไม่ได้เกาะต่ำอย่างเดียว แต่เป็นรกเกาะต่ำติดแน่น ทะลุเข้าไปในกระเพาะปัสสาวะ และทะลุมดลูกไปยังอุ้งเชิงกรานด้วย ทำให้มีอาการเลือดออกในกระเพาะปัสสาวะ และมีเลือดออกในอุ้งเชิงกราน”
“ภาวะนี้อันตรายมาก เสี่ยงทั้งแม่และลูก หากพบตอนท้องอ่อนๆ การยุติการตั้งครรภ์ อาจจะลดความเสี่ยง แต่ตอนนี้คุณหน่อยท้องเกือบห้าเดือนแล้ว หากเอาเด็กออกตอนนี้ เด็กคงเสียชีวิต เพราะรกเกาะติดแน่นและทะลุ นอกจากต้องตัดมดลูก ไม่สามารถมีลูกได้อีก อาจต้องตัดกระเพาะปัสสาวะบางส่วน ตัดเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงรก หมอไม่แน่ใจว่า จะตกเลือดมากขนาดไหน จะอันตรายแค่ไหน อย่างไรก็ตามหมอจะส่งภรรยาคุณไปโรงพยาบาลศูนย์ ที่นั่นมีอาจารย์หมอผู้เชี่ยวชาญ มีเครื่องมือ มีธนาคารเลือด ภาวะนี้ต้องใช้เลือด ใช้เกล็ดเลือด ใช้สารแข็งตัวของเลือด ใช้เครื่องมือพิเศษ และใช้อาจารย์หมอผู้เชี่ยวชาญหลายคนหลายแผนก”
คราวนี้ผมไม่รอช้า รีบข้ามจังหวัดไปโรงพยาบาลศูนย์ ไปถึงอาจารย์หมอที่นั่นดูผลตรวจเอ็มอาร์ไอ ตรวจหน่อยซ้ำด้วยเครื่องอัลตร้าซาวนด์ คำพูดอาจารย์หมอทำให้หน่อยร้องไห้ ผมเย็นเยียบทั้งตัว
“ภาวะนี้อันตรายจริงๆ เสี่ยงต่อการเสียชีวิตทั้งแม่และลูก”
“หากเอาเด็กออกตอนนี้ จะลดการเกิดอันตรายไหมครับ” ผมถาม
อาจารย์หมอเงียบไปนาน จึงตอบว่า
“หากเอาเด็กออกตอนนี้ เด็กคงเสียชีวิต เพราะเด็กยังเล็ก ท้องได้แค่ห้าเดือน และผมไม่สามารถบอกได้ว่า จะช่วยลดอันตรายต่อแม่หรือเปล่า” หน่อยที่เงียบมานาน ตัดสินว่า
“ไหนๆ ก็อันตรายแล้ว ให้หนูท้องต่อ ให้ลูกรอดก่อนแล้วค่อยเอาลูกออกดีกว่า”
อาจารย์หมอรับหน่อยไว้ในโรงพยาบาล ให้ยาเร่งปอดเด็กในท้อง ให้หน่อยอยู่โรงพยาบาลจนกว่าจะคลอด โดยจะผ่าตัดคลอดก่อนกำหนด 1 เดือน เพราะเกรงจะตกเลือดมาก
—–
โอ…ชีวิตเอ๋ย ความทุกข์เอ๋ย มาหาโดยผมไม่ได้ตั้งตัว เจ็บปวดหัวใจเป็นที่สุด ผมไม่นึกเลยว่า การเข้าโรงพยาบาลครั้งนี้ โชคชะตาฟ้าดินจะไม่ปรานี ทำให้ผมสูญเสียภรรยาสุดที่รักไป
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
บันทึกของหมอ
ภาวะรกเกาะต่ำ ติดแน่นทะลุเข้ากระเพาะปัสสาวะและอุ้งเชิงกรานพบได้น้อยมากๆ ประมาณ 1: 100,000 การคลอด แต่จะพบได้มากขึ้นหากเคยผ่าตัดคลอดจะเพิ่มให้เกิดภาวะนี้ ในกรณีของคุณหน่อยแม้หมอระวังอย่างเต็มที่ รับคนไข้ไว้ในโรงพยาบาลแต่แรก เตรียมทีมแพทย์ เตรียมเลือด ส่วนประกอบของเลือดและยาพร้อมครบ แต่ขณะอยู่ในโรงพยาบาล คนไข้ตกเลือดอย่างรุนแรงตอนอายุครรภ์ 31 สัปดาห์ ซ้ำด้วยการติดเชื้อจากรกเกาะทะลุ แม้แพทย์ผ่าตัดช่วยทันที ดูแลเต็มที่ ทารกรอดชีวิต แต่ทีมแพทย์ไม่อาจห้ามเลือดที่รกกินทะลุเข้าอวัยวะต่างๆ เป็นเรื่องเศร้าที่สุดที่ไม่อาจช่วยชีวิตคนไข้ได้
เรื่องโดย พญ.ชัญวลี ศรีสุโข สูตินรีแพทย์ ระดับนายแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ หัวหน้าแผนกสูตินรีเวช โรงพยาบาลพิจิตร
อ่านต่อบทความน่าสนใจ คลิก!
- [เรื่องจริงจากหมอสูติฯ] เชื่อฤกษ์คลอด..จนลูกเสียชีวิตในครรภ์
- ประสบการณ์คุณแม่ ไส้ติ่งแตกตอนตั้งครรภ์
- 3 ประสบการณ์จริงเรื่องเที่ยวของแม่ท้อง